ปรกติจะไม่ค่อยได้เกิดโทสะแรงๆ สักเท่าไหร่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีบททดสอบ เลยขอนำมาแชร์ ผู้ปฏิบัติ
ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน
เกิดมีปากเสียงอีกบุคคลหนึ่งขึ้นมา พอเริ่มเถียงกันไปได้ สองสามคำ เรารีบเปลี่ยนอิริยาบถ คือหยุดเถียงแล้วหันไปทำอย่างอื่นแทน ขณะนั้น เหลือบดูจิต ที่บีบคั้นรุนแรง หนำซ้ำจิตโง่นี้มัน กระซิบบอกกายให้หันหลังกลับไปเถียงต่อ แต่กายไม่ยอมทำตาม
กลับมาเป็นผู้ดูต่อ เห็นชัดเลยว่าจิตนี้ เหมือนไฟที่กำลังลุกโพลงอยู่ต่อหน้าต่อตา ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี
ทันใดนั้นจิตน้อมไป ระลึกถึงองศ์สมเด็จ พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ระลึกถึงคุณความดี และพระธรรมคำสั่งสอน ที่ท่านเมตตาสอนสั่ง เพื่อพามวลมนุษย์ ข้ามวัฏสงสาร พ่อ แม่ ที่รักและห่วงเรา หรือเงินทองที่เรามีอยู่ ก็ช่วยอะไรเราไม่ได้
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า ส่งเราถึงนิพพาน ไม่มีสิ่งใดที่จะประเสริฐ ไปกว่านี้ อีกแล้ว
พระธรรมที่ท่านคอยพร่ำสอน ให้ละชั่ว ละอกุศล แล้วดูตอนนี้สิจิตเต็มไปด้วยอกุศล อายพระพุทธเจ้ามั๊ย มรรคผลนิพพาน มีหรือจะหวังได้ในชาติ นี้ ถ้ายังปล่อยให้อกุศลครอบงำอยู่ จิตดื้อดูเหมือนจะสำนึก และยอมทำตามทุกอย่าง ละที่นี้ และเดี๋ยวนี้ ขอเพียงเพื่อนิพพาน
เมื่อ พิจารณาได้ดังนี้ เกิดปีติซาบซ่าน เข้ามาแทนนที่ เสมือนร่างกายได้หลั่งสารอะดรีนาลีน
เหลือบดูจิต อีกที โทสะหายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อกี้ มันยังลุกโพลงอยู่เลย แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ไม่มีแล้ว
อ๋อ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นเช่นนี้นี่เอง เกิดขึ้นคาตาคาใจเหมือนเห็นผี
เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เหมือน อัศจรรย์ หลังจากช่วงเวลาอึดใจ นั้น เราก็ คุยต่อกับคู่ สนทนา ด้วยอารมณ์ ที่เป็นปกติ
จริตของเรา คือ ชอบการเจริญอสุภะ ชอบดู ภาพศพทุกประเภท หรือแม้กระทั่ง ภาพศที่ ประสบอุบัติเหตุ เลือดไหล เต็มถนน หรือ เนื้อ สมองกระจาย ความจริงก็ไม่ได้ชอบหรอก แต่เราว่ามันเหมือนเราได้เห็นความจริงของร่างกาย ของคนเรา เนื้อสมองที่กระจายอยู่เต็มพื้น นั้น ก็ไม่ต่างอะไร กับเนื้อ สมองของเรา เพียงแต่ เรายังมีกะโหลก ศรีษะ คลุมอยู่ เท่านั้นเอง
ปีติดับโทสะ
ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน
เกิดมีปากเสียงอีกบุคคลหนึ่งขึ้นมา พอเริ่มเถียงกันไปได้ สองสามคำ เรารีบเปลี่ยนอิริยาบถ คือหยุดเถียงแล้วหันไปทำอย่างอื่นแทน ขณะนั้น เหลือบดูจิต ที่บีบคั้นรุนแรง หนำซ้ำจิตโง่นี้มัน กระซิบบอกกายให้หันหลังกลับไปเถียงต่อ แต่กายไม่ยอมทำตาม
กลับมาเป็นผู้ดูต่อ เห็นชัดเลยว่าจิตนี้ เหมือนไฟที่กำลังลุกโพลงอยู่ต่อหน้าต่อตา ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี
ทันใดนั้นจิตน้อมไป ระลึกถึงองศ์สมเด็จ พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ระลึกถึงคุณความดี และพระธรรมคำสั่งสอน ที่ท่านเมตตาสอนสั่ง เพื่อพามวลมนุษย์ ข้ามวัฏสงสาร พ่อ แม่ ที่รักและห่วงเรา หรือเงินทองที่เรามีอยู่ ก็ช่วยอะไรเราไม่ได้
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า ส่งเราถึงนิพพาน ไม่มีสิ่งใดที่จะประเสริฐ ไปกว่านี้ อีกแล้ว
พระธรรมที่ท่านคอยพร่ำสอน ให้ละชั่ว ละอกุศล แล้วดูตอนนี้สิจิตเต็มไปด้วยอกุศล อายพระพุทธเจ้ามั๊ย มรรคผลนิพพาน มีหรือจะหวังได้ในชาติ นี้ ถ้ายังปล่อยให้อกุศลครอบงำอยู่ จิตดื้อดูเหมือนจะสำนึก และยอมทำตามทุกอย่าง ละที่นี้ และเดี๋ยวนี้ ขอเพียงเพื่อนิพพาน
เมื่อ พิจารณาได้ดังนี้ เกิดปีติซาบซ่าน เข้ามาแทนนที่ เสมือนร่างกายได้หลั่งสารอะดรีนาลีน
เหลือบดูจิต อีกที โทสะหายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อกี้ มันยังลุกโพลงอยู่เลย แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ไม่มีแล้ว
อ๋อ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นเช่นนี้นี่เอง เกิดขึ้นคาตาคาใจเหมือนเห็นผี
เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เหมือน อัศจรรย์ หลังจากช่วงเวลาอึดใจ นั้น เราก็ คุยต่อกับคู่ สนทนา ด้วยอารมณ์ ที่เป็นปกติ
จริตของเรา คือ ชอบการเจริญอสุภะ ชอบดู ภาพศพทุกประเภท หรือแม้กระทั่ง ภาพศที่ ประสบอุบัติเหตุ เลือดไหล เต็มถนน หรือ เนื้อ สมองกระจาย ความจริงก็ไม่ได้ชอบหรอก แต่เราว่ามันเหมือนเราได้เห็นความจริงของร่างกาย ของคนเรา เนื้อสมองที่กระจายอยู่เต็มพื้น นั้น ก็ไม่ต่างอะไร กับเนื้อ สมองของเรา เพียงแต่ เรายังมีกะโหลก ศรีษะ คลุมอยู่ เท่านั้นเอง