ปฐมฌาน คือ หนทางของการตรัสรู้
ดูกรราชกุมาร…
ครั้งนั้น อาตมภาพระลึกขึ้นมาได้ว่า ในงานวัปปมงคลของพระเจ้าศากยะผู้เป็นพระบิดา ขณะที่มหาชนล้วนสนุกสนานอยู่ในพิธี อาตมภาพกลับนั่งอยู่เพียงลำพังใต้ ร่มไม้หว้า (ชมพู) อันเย็นร่มสงบ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีอารมณ์กามหรือความไม่ดีใด ๆ เข้ามาแทรก
จิตในขณะนั้นรวมตัวอย่างสงบเองโดยธรรมชาติ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งปวง แล้วก็เกิดความตั้งมั่นขึ้นอย่างแผ่วเบา เกิดวิตก วิจาร ปีติ และสุขที่ผุดขึ้นเองจากความวิเวก นั่นคือ ปฐมฌาน ที่เกิดโดยไม่รู้คำสอนใด ไม่อาศัยครูอาจารย์ แต่เกิดจากความบริสุทธิ์ของจิตเองในวัยเยาว์
อาตมภาพจึงเกิดความรู้สึกอันแล่นขึ้นตามสติว่า
“ปฐมฌาน ทางนี้แหละ… ทางสงบ ทางตั้งมั่น ทางบริสุทธิ์เช่นนี้นี่เอง คือ หนทางของการตรัสรู้”
ในเหตุการณ์เล็ก ๆ ใต้ร่มไม้หว้าครั้งนั้น
คือประกายแรก ที่ชี้ให้เห็น “มรรค” ก่อนบรรลุโพธิญาณในภายหลัง
คือการระลึกถึง เส้นทางแห่งสมาธิที่บริสุทธิ์จากกามทั้งหลาย
ซึ่งจะนำไปสู่ปัญญา และในที่สุดคือ ความรู้แจ้งอันสูงสุด
ปฐมฌาน คือ หนทางของการตรัสรู้
ดูกรราชกุมาร…
ครั้งนั้น อาตมภาพระลึกขึ้นมาได้ว่า ในงานวัปปมงคลของพระเจ้าศากยะผู้เป็นพระบิดา ขณะที่มหาชนล้วนสนุกสนานอยู่ในพิธี อาตมภาพกลับนั่งอยู่เพียงลำพังใต้ ร่มไม้หว้า (ชมพู) อันเย็นร่มสงบ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีอารมณ์กามหรือความไม่ดีใด ๆ เข้ามาแทรก
จิตในขณะนั้นรวมตัวอย่างสงบเองโดยธรรมชาติ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งปวง แล้วก็เกิดความตั้งมั่นขึ้นอย่างแผ่วเบา เกิดวิตก วิจาร ปีติ และสุขที่ผุดขึ้นเองจากความวิเวก นั่นคือ ปฐมฌาน ที่เกิดโดยไม่รู้คำสอนใด ไม่อาศัยครูอาจารย์ แต่เกิดจากความบริสุทธิ์ของจิตเองในวัยเยาว์
อาตมภาพจึงเกิดความรู้สึกอันแล่นขึ้นตามสติว่า
“ปฐมฌาน ทางนี้แหละ… ทางสงบ ทางตั้งมั่น ทางบริสุทธิ์เช่นนี้นี่เอง คือ หนทางของการตรัสรู้”
ในเหตุการณ์เล็ก ๆ ใต้ร่มไม้หว้าครั้งนั้น
คือประกายแรก ที่ชี้ให้เห็น “มรรค” ก่อนบรรลุโพธิญาณในภายหลัง
คือการระลึกถึง เส้นทางแห่งสมาธิที่บริสุทธิ์จากกามทั้งหลาย
ซึ่งจะนำไปสู่ปัญญา และในที่สุดคือ ความรู้แจ้งอันสูงสุด