กีฬาจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หักโหม เหมาะสำหรับท่านที่มีน้ำหนักตัวมาก ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายชนิดอื่น
ผมก่อนปั่นจักรยาน มีอาการหัวเข่าเจ็บเสียวจะลุกจะนั่งจากเก้าอี้ก็จะเจ็บเสียว เดินขึ้นสพานลอยต้องเอามือเกาะราวสะพานช่วย ปวดหลังหมอบอกว่าหมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อม เพราะอายุ45 หนัก 96 กิโล สูง179 ผมออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ใช้รองเท้าสำหรับวิ่ง แต่เนื่องจากอายุเริ่มเยอะและน้ำหนักตัวก็ไม่น้อย ทำให้เกิดปัญหารองช้ำที่ส้นเท้า เจ็บปวดเดินไม่ถนัด ทรมานต้องไปให้หมอฉีดยาเข้าส้นเท้า
อยู่มาวันหนึ่งหานั่งอ่านวิธีลดน้ำหนัก ไปเจอปั่นจักรยานเข้า พอดีมีงานจักรยานที่เมืองทองธานี ผมก็เลยไปเดินเล่น ไปได้รถจักรยานเสือภูเขามาคัน วันแรกๆผมปั่นจักรยานได้แค่ 8 กิโล เหนื่อยมากๆแต่ก็ดีใจ ที่ได้ระยะไกลตั้ง 8 กิโล
ผมก็พยายามปั่นเกือบทุกวันค่อยๆเพิ่มระยะทาง วันเวลาที่ปั่นจักรยานก็พบปัญหามากมาย เช่น เจ็บก้น ปวดเมื่อย มือ หลัง ตะคริวกินน่อง ผมก็พยายามปั่นให้ได้วันละ 40 นาที ผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักผมก็ยังไม่ลดลง ชักเริ่มท้อแท้ซะแล้ว แต่ก็ยังฝืนใจออกไปปั่นเรื่อยๆเกือบทุกวันเท่าที่จะมีเวลา
ผ่านไปเดือนที่ 2 น้ำหนักเริ่มลงแล้วครับ เพิ่มเวลาเป็นวันละ 1 ช.ม
ผ่านไปเดือนที่ 3 น้ำหนักหายไป 5 กิโล แบบไม่ค่อยได้คุมอาหารเท่าไร แต่ก็ลดของหวานลงไป ตกเย็นผมยังคงดื่มเบียร์วันละ 1 ขวดอยู่ทุกวัน
ตอนนี้สังเกตุได้ว่าร่างกายเริ่มดีขึ้น อาการเมื่อยมือ ปวดหลัง หัวเข่าที่เจ็บเสียว
ผ่านเดือนที่ 4 ไป น้ำหนักก็ค่อยๆลงมาเรื่อยๆ
ครบ 6 เดือน น้ำหนักผมเหลือ 80 กิโล พุงที่เคยใหญ่หายไป ก้นที่เคยใหญ่คับกางเกง เอว 38 ก็หายไป จนต้องไปชื้อกางเกงเอว 36 มาใส่แทน กางเกงที่มีอยู่ใส่ไม่ได้เลยหลวมจนหลุด
อาการหัวเข่าเจ็บเสียวหายไป
รองช้ำที่ส้นเท้าหายไป อาการปวดหลังหายไป
ปัจจุบันผมวิ่งขึ้นสพานลอยได้สบายๆครับ
ผมปั่นจักรยานมาครบ 1 ปีแล้ว จากที่เคยปั่นเริ่มแรก 8 กิโลเมตร ปัจจุบัน ผมปั่นได้วันละ 100 โลได้ แต่ปกติผมจะปั่นเกือบทุกวันๆละ 40 กิโลเมตร ก่อนไปทำงานตอนเช้ามืดครับ
ผมแนะนำเลยว่าการปั่นจักรยาน เป็นกีฬาที่ไม่หักโหม สามารถออกกำลังกายได้เรื่อยๆ สามารถละลายไขมันมาเป็นพลังงานทำให้น้ำหนักลดได้ดีมากๆ
สาวๆไม่กลัวว่าขาจะใหญ่ นะครับ ไม่มีทางครับ ผมปั่นมาครบปี ขาผมก็เล็กลง เรียวสวยจนสาวๆอายก็แล้วกัน ขาเราที่เคยใหญ่โต เพราะไขมันในเมื่อไขมันมันลดลง ขาย่อมเล็กลง ผมเองก้นที่เคยใหญ่โตเป็นกะละมัง จนเพื่อนๆที่ทำงานซวย ก็ลดลงจนสมส่วน
ตอนนี้กางเกงเหลือเอว 35 น้ำหนักเหลือ 79 ทรงตัวเพราะผมไม่ควบคุมอาหารอีกแล้วครับ แต่ก็ไม่มีอ้วนขึ้น ครับ
ท่านใดไม่สะดวกปั่น ถนนหนทางไม่มี ก็ปั่นอยู่กับบ้านได้ครับ หาจักรยานสักคัน หาชื้อเทรนเนอร์สักอัน (ราคาไม่เกิน 3พัน) แค่นี้ก็สามารถออกกำลังกายหน้าโทรทัศน์ได้แล้วครับ และถ้าวันหยุด จะออกไปปั่นข้างนอกบ้าน ก็เอาจักรยานออกจากเทรนเนอร์ไปปั่นได้เลยครับ
อย่าลังเลยครับ ทำเพื่อตัวเองครับ แล้วจะรู้ว่า การที่น้ำหนักเราลดลงไป อะไรๆมันก็ดีไปหมดครับ กีฬาจักรยานถึงแม้จะดูว่าจะต้องลงทุนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับบางท่าน แต่ลองคิดดู ถ้าเราเจ็บป่วยจะต้องเสียเงินค่ารักษา มากมายกว่าการลงทุนชื้อจักรยานครับ จักรยานมีหลายแบบหลายราคา ตอนนี้จักรยานญี่ปุ่นมือสองก็เข้ามามากมายราคาก็ไม่แพง ถ้าเราอ้วนไม่ออกกำลังกาย วันข้างหน้าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ถึงเวลานั้นก็ยากจะแก้ไขให้กลับคืนมาได้ และค่ารักษา ก็แพงมาก
นานๆผมจะเข้าห้องลุมพินีสักครั้ง ก็อยากจะมาแชร์และชักชวนเพื่อนๆให้หันมาปั่นจักรยานกันครับ
ขออนุญาติยืมรูปมาให้ดูครับ ว่าสาวๆที่ปั่นจักรยาน ขาเรียวสวยขนาดไหน
ท่านใดที่อยากลดน้ำหนัก หันมาปั่นจักรยานกันเถอะครับ
ผมก่อนปั่นจักรยาน มีอาการหัวเข่าเจ็บเสียวจะลุกจะนั่งจากเก้าอี้ก็จะเจ็บเสียว เดินขึ้นสพานลอยต้องเอามือเกาะราวสะพานช่วย ปวดหลังหมอบอกว่าหมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อม เพราะอายุ45 หนัก 96 กิโล สูง179 ผมออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ใช้รองเท้าสำหรับวิ่ง แต่เนื่องจากอายุเริ่มเยอะและน้ำหนักตัวก็ไม่น้อย ทำให้เกิดปัญหารองช้ำที่ส้นเท้า เจ็บปวดเดินไม่ถนัด ทรมานต้องไปให้หมอฉีดยาเข้าส้นเท้า
อยู่มาวันหนึ่งหานั่งอ่านวิธีลดน้ำหนัก ไปเจอปั่นจักรยานเข้า พอดีมีงานจักรยานที่เมืองทองธานี ผมก็เลยไปเดินเล่น ไปได้รถจักรยานเสือภูเขามาคัน วันแรกๆผมปั่นจักรยานได้แค่ 8 กิโล เหนื่อยมากๆแต่ก็ดีใจ ที่ได้ระยะไกลตั้ง 8 กิโล
ผมก็พยายามปั่นเกือบทุกวันค่อยๆเพิ่มระยะทาง วันเวลาที่ปั่นจักรยานก็พบปัญหามากมาย เช่น เจ็บก้น ปวดเมื่อย มือ หลัง ตะคริวกินน่อง ผมก็พยายามปั่นให้ได้วันละ 40 นาที ผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักผมก็ยังไม่ลดลง ชักเริ่มท้อแท้ซะแล้ว แต่ก็ยังฝืนใจออกไปปั่นเรื่อยๆเกือบทุกวันเท่าที่จะมีเวลา
ผ่านไปเดือนที่ 2 น้ำหนักเริ่มลงแล้วครับ เพิ่มเวลาเป็นวันละ 1 ช.ม
ผ่านไปเดือนที่ 3 น้ำหนักหายไป 5 กิโล แบบไม่ค่อยได้คุมอาหารเท่าไร แต่ก็ลดของหวานลงไป ตกเย็นผมยังคงดื่มเบียร์วันละ 1 ขวดอยู่ทุกวัน
ตอนนี้สังเกตุได้ว่าร่างกายเริ่มดีขึ้น อาการเมื่อยมือ ปวดหลัง หัวเข่าที่เจ็บเสียว
ผ่านเดือนที่ 4 ไป น้ำหนักก็ค่อยๆลงมาเรื่อยๆ
ครบ 6 เดือน น้ำหนักผมเหลือ 80 กิโล พุงที่เคยใหญ่หายไป ก้นที่เคยใหญ่คับกางเกง เอว 38 ก็หายไป จนต้องไปชื้อกางเกงเอว 36 มาใส่แทน กางเกงที่มีอยู่ใส่ไม่ได้เลยหลวมจนหลุด
อาการหัวเข่าเจ็บเสียวหายไป
รองช้ำที่ส้นเท้าหายไป อาการปวดหลังหายไป
ปัจจุบันผมวิ่งขึ้นสพานลอยได้สบายๆครับ
ผมปั่นจักรยานมาครบ 1 ปีแล้ว จากที่เคยปั่นเริ่มแรก 8 กิโลเมตร ปัจจุบัน ผมปั่นได้วันละ 100 โลได้ แต่ปกติผมจะปั่นเกือบทุกวันๆละ 40 กิโลเมตร ก่อนไปทำงานตอนเช้ามืดครับ
ผมแนะนำเลยว่าการปั่นจักรยาน เป็นกีฬาที่ไม่หักโหม สามารถออกกำลังกายได้เรื่อยๆ สามารถละลายไขมันมาเป็นพลังงานทำให้น้ำหนักลดได้ดีมากๆ
สาวๆไม่กลัวว่าขาจะใหญ่ นะครับ ไม่มีทางครับ ผมปั่นมาครบปี ขาผมก็เล็กลง เรียวสวยจนสาวๆอายก็แล้วกัน ขาเราที่เคยใหญ่โต เพราะไขมันในเมื่อไขมันมันลดลง ขาย่อมเล็กลง ผมเองก้นที่เคยใหญ่โตเป็นกะละมัง จนเพื่อนๆที่ทำงานซวย ก็ลดลงจนสมส่วน
ตอนนี้กางเกงเหลือเอว 35 น้ำหนักเหลือ 79 ทรงตัวเพราะผมไม่ควบคุมอาหารอีกแล้วครับ แต่ก็ไม่มีอ้วนขึ้น ครับ
ท่านใดไม่สะดวกปั่น ถนนหนทางไม่มี ก็ปั่นอยู่กับบ้านได้ครับ หาจักรยานสักคัน หาชื้อเทรนเนอร์สักอัน (ราคาไม่เกิน 3พัน) แค่นี้ก็สามารถออกกำลังกายหน้าโทรทัศน์ได้แล้วครับ และถ้าวันหยุด จะออกไปปั่นข้างนอกบ้าน ก็เอาจักรยานออกจากเทรนเนอร์ไปปั่นได้เลยครับ
อย่าลังเลยครับ ทำเพื่อตัวเองครับ แล้วจะรู้ว่า การที่น้ำหนักเราลดลงไป อะไรๆมันก็ดีไปหมดครับ กีฬาจักรยานถึงแม้จะดูว่าจะต้องลงทุนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับบางท่าน แต่ลองคิดดู ถ้าเราเจ็บป่วยจะต้องเสียเงินค่ารักษา มากมายกว่าการลงทุนชื้อจักรยานครับ จักรยานมีหลายแบบหลายราคา ตอนนี้จักรยานญี่ปุ่นมือสองก็เข้ามามากมายราคาก็ไม่แพง ถ้าเราอ้วนไม่ออกกำลังกาย วันข้างหน้าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ถึงเวลานั้นก็ยากจะแก้ไขให้กลับคืนมาได้ และค่ารักษา ก็แพงมาก
นานๆผมจะเข้าห้องลุมพินีสักครั้ง ก็อยากจะมาแชร์และชักชวนเพื่อนๆให้หันมาปั่นจักรยานกันครับ
ขออนุญาติยืมรูปมาให้ดูครับ ว่าสาวๆที่ปั่นจักรยาน ขาเรียวสวยขนาดไหน