น่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้ ไม่น่าเล่นตัวมากเลย วู้ววว จะยังพอมีโอกาสไหม???

เห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงเดือนแห่งความรัก ก็เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ความรู้สึก ที่แม่มโคตรเสียดายโอกาสในชีวิตเลย เริ่มเลยนะค่ะ

   คือช่วงชีวิตในวัยนักเรียนของดิฉัน ค่อนข้างจะไม่ค่อยสนใจอะไร นอกจากเรียน(ตอนนี้คือลุ้นไม่Fและไม่โปรค่ะ) ถามว่าสนใจเรื่องความรักบ้างไหม บอกเลยค่ะว่าก็มีบ้าง แต่ประเด็นคือไม่มีใครสนใจไงค่ะ 5555 ก็เลยเรียนดีกว่า ระหว่างที่โตมาก็มีชอบคนนู้นคนนี้บ้าง แต่ไม่ได้สนใจอะไรปล่อยให้ผ่านไป จนกระทั้ง ม.4 ก็แบบว่ามีผช.คนนึงที่แบบ ไม่ได้หล่อนะ ดูแบบเด็กๆ ตาตี๋ๆ เตี้ยด้วยถ้าเทียบกับเพื่อนในวัยนั้น เรื่องเรียนนี่ไม่ต้องพูดถึง 2.XX ตลอด 2ต้นๆด้วยนะค่ะ ซึ่งเราก็เฮ้ยไม่น่าจะไปชอบมันหรอกนะ เราออกจะดูดี(เรื่องเกรด) แต่มันเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติให้เราสนใจเหมือนคนอื่นแต่เรากลับสนใจ คือปกติเราจะสนใจแต่คนเรียนเก่งเรียนโอเค ติดโอลิมปิก อะไรแบบนี้เราจะแอบกรี๊ด แต่มัน มาร.ร.ก็สาย หล่อก็ไม่หล่อ ดังก็ไม่ดัง เก่งก็ไม่เก่ง แถมไม่ตั้งใจเรียน หลับตลอด โดนครูด่าทุกวัน งานไม่ส่ง ดูเป็นคนแทบไม่เอาอะไรเลยกับชีวิต ไม่มีตัวตนในสังคมเลยค่ะ แต่เรากลับรู้สึกเหมือนสนใจเขา(แต่ถึงมันเหมือนจะเป็นคนไม่เอาไหน แต่มันเป็นคนดีนะค่ะ ไม่ใช่เด็กดื้อ เหล้า บุหรี่ ผญ. ชกต่อย ไม่มีเลยค่ะ)ความสนใจนี้ก็เริ่มตอนม.4อ่ะแหละ แต่ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้จนพอตอนม.6

   ม.6 เราได้มีโอกาสได้มาอยู่ห้องเดียวอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นปีที่เรียกได้ว่าเครียดมว๊ากกกก ตรูจะมีที่เรียนป่าวฟร่ะ แรกๆก็ เฮ้ยเราได้อยู่ห้องเดียวกะมันอีกล่ะ แต่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ จนเราดันมีที่เรียนตั้งแต่ส.ค. เลยว่างจัดไง มีเวลาเห็นหัวคนอื่นบ้าง ก็เริ่มมาคุยกะมัน เพราะคนอื่นก็เรียน อ่าน สอบ มีแต่มันที่ไม่ได้สนใจอะไร ถามว่าจะสอบเข้าที่ไหน เรียนอะไรที่ไหน มันก็บอกแค่ว่ารอ เอาม. .... ช่วงเปิดรับเด็กทุนนักกีฬา มันจะลงสมัครแค่อันนี้อันเดียว คงเพราะได้ใกล้ชิดมั้งค่ะ เลยรู้สึกดีกับมัน นับวันๆ ยิ่งดีโคตรๆ แต่ไอ้เราก็คิดว่าไม่น่าใช่ มันไม่เห็นมีอะไรดีเลย เราไม่ชอบมันหรอก พอหลังๆเพื่อนเราหลายคนเริ่มถาม แกชอบมันหรอว่ะ(หลายคนมาก) แต่เราก็ปากแข็งบอกว่าไม่ช่ายยย(ตอนนั้นมันไม่รู้มากกว่า) จนมีวันนึงที่เราเหมือนทะเลาะกับเพื่อน อารมณ์เสียมากก เดินก้มหน้าไม่สนใจใคร ถึงเงยหน้ามาเจอใครก็ไม่สนใจ จนเงยหน้ามาเจอมัน เชื่อไหมค่ะ เหมือนในหนังเปี๊ยบที่เงยหน้ามาเจอคนที่แบบหล่อมาก มีแสงประกายปิ้งๆอยู่รอบๆ เราก็เหมือนนิ่งไปพัก แต่ก็แค่ทักมันแล้วเดินจากไป แต่เหตุการณ์นั้นแหละทำให้เราเริ่มรู้ล่ะว่า เราคงชอบมัน แต่ก็ยังปากแข็งกับคนอื่นอยู่นะ พอจบม.6เราต่างแยกย้าย ไปเรียนในมหาลัยที่ตนสอบติด(มีเขียนfriend shipให้บ้างนิดหน่อย) เออมันก็สามารถสมัครเข้าสถาปัตย์ที่ม. ...ได้ตามที่มันหวัง เป็นด้านทุนนักกีฬาโกะค่ะ(มันสุดยอดนะ) แล้วจบชีวิตนักเรียน

   ถึงตอนมหาลัย เชื่อไหมค่ะ ไม่เคยมีวันไหน ที่ไม่คิดถึงมันเลย แรกๆก็ทักมันไปตลอด แต่ด้วยงานและเวลา เลยทำให้เราเริ่มทักกันน้อยลง เริ่มๆห่าง จนเหมือนมีโอกาสเข้ามาค่ะ ดิฉันเลยรีบคว้าเอาไว้ค่ะ มหาลัยของเราทั้งสองเป็นมหาลัยที่จะมีการจัดกีฬาร่วมกันของคณะที่เราเรียน แล้วปีนั้นมหาลัยของเขาเป็นเจ้าภาพค่ะ ดิฉันเลยลงไปร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อไปมหาลัยเขา แต่ไม่ได้ไปอย่างเดียวนะค่ะ ก่อนไปดิฉันก็ได้บอกมันว่า"เฮ้ยเราจะไปมหาลัยแกนะ" มันก็ "ทำไม จะให้เราไปหาหรอ" เราก็ "เออซิ"สุดท้ายเราก็ได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง [เชื่อไหมค่ะมันเปลี่ยนไปมากกก ทั้งความคิดความอ่าน จากที่เหมือนไม่เอาอะไรเลย ก็ดูมีเหตุมีผลขึ้น(ยังมาเตือนให้ดิฉันตั้งใจเรียนเลยนะค่ะ ช่วงนั้นแค่ปี1เกรดก็เริ่มแย่ล่ะ) แล้วทั้งรูปร่างหน้าตา ความสูง(แต่ก่อนม.6คือสูงเท่าดิฉันคือ158-160)ตอนนี้ดิฉันเท่าไหล่ค่ะ แต่ดิฉันกลับรู้สึกไม่ชอบเลยที่เป็นแบบนี้ ขอบอกเลยว่ามีอารมณ์ไม่ค่อยสบายใจเลย แบบแกต้องหาแฟนได้แน่ งือๆ] หลังเสร็จกิจกรรม มีเที่ยวรถกลับทันทีหลังเสร็จงาน กับมีเที่ยวรถกลับอีกรอบคือห้าทุ่ม เราก็เลือกอันหลังซิค่ะ บอกเลยว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขมากๆ เราแทบลืมความเหนื่อยไปเลยเมื่อได้อยู่กับมัน ระหว่างนั้นก็มีกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน กินขนมเล็กๆน้อยๆ(มันเลี้ยงหมด) หลังจากนั้นก็เดินมานั่งรอเวลากลับ ก็มีนั่งคุยกัน สนทนากันเรื่อยๆ เปื่อยๆ ตามประสา"เพื่อน" เราก็แปลกนะ ที่ระหว่างคุยนี่เราก็บ้า เน้นหนักเน้นหนา ว่าแกเป็นเพื่อนฉันนะ(พูดเพื่อไรว่ะ) สุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับ เห้อ เอ้ยลืม ช่วงกินก๋วยเตี๋ยวนี่มันก็ถามนะว่ากลับตอนไหนวันไหน นอนที่นี่ก่อนก็ได้นะค่อยกลับพรุ่งนี้(มันอยู่หอนอก) เราก็ บ้าเดี๋ยวแกทำอะไรเค้า มันก็ โหวอย่างแกนี่ยากว่ะ ทำนองนี้ คำพูดไม่แป๊ะหรอกนะค่ะ แต่ประมาณนี้ ที่จริงคือเราไม่รู้จะกลับไงต่างหาก 5555

   หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเจอกันอีก หรือแม้กระทั้งพูดคุยก็ไม่มีอีก มีแค่ครั้งสองครั้งหลังวันนั้น มันทักมา เราก็ไม่ค่อยกล้าทักมัน(ก็แหม่รู้ตัวแล้ว100%ว่าชอบมัน) ถึงทักมันก็ไม่ค่อยตอบ ไม่อ่านเลยด้วยซ้ำ ก็มันทำงาน โดยแค่ออนโทรสับทิ้งไว้ แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนหนึ่งปีผ่านมาล่ะหลังเจอกัน(เออ หลังเรียนจบก็ประมาณ1ปีนะค่ะที่เราได้เจอมัน รวมๆก็2ปีแล้วค่ะที่รู้สึกsomethingกับมัน อิอิ) เราก็ไม่เคยหยุดคิดถึงมันนะ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเรากลับยิ่งอึดอัดแรกๆ เริ่มรู้สึกเอาไงดี บอกดีไหม ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวเสียเพื่อน ไม่บอกก็อึดอัด

   จนเราเริ่มรู้สึกว่า เออเอาว่ะ ไม่ไหวล่ะ บอกดีกว่า ช่วงเราก็อยากเปิดใจให้คนอื่นอย่างสนิทใจด้วย เราวางแผน(ที่ไม่เนียนหรอก)กับเพื่อนเราคนนึง แบบ เออแกลองโทรคุยกับมันซิแบบคุยเหมือนปกติธรรมดาทั่วไป ถามมันว่ามันมีแฟนหรือยัง มีคนที่ชอบอยู่ไหม มีคนคุยอยู่รึป่าว แล้วหลังจากนั้นลองทำเป็นพูดเนียนๆว่า เออนี่แกรู้รึป่าวว่าล.(นามแฝง จขกท.)ชอบแก ประมาณนี้ แล้วก็ไม่ต้องอะไรต่อ แค่อยากให้มันรู้

   เมื่อได้ทำดูก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดมาก มันก็บอกว่าไม่รู้ว่าล.ชอบ และก็มีโอกาสพัฒนาได้นะถ้าได้คุยกับล.แล้วใช้(ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมันพูดยังไง มันถึงตอบมาแบบนี้) คิดว่ามันคงพอเดาได้ว่าเหมือนเราฝากเพื่อนไปบอกมันมากกว่า เช้าวันรุ่งขึ้น เราทนไม่ไหว เลยทักไลน์มันไปว่า"สวัสดี เรา...เด้อ"ทักไปตอน5โมงเย็น มันก็ยังทั้งไม่อ่านและไม่ตอบจนเที่ยงคืน เราทักไปอีกว่า"เฮ้ยจำกันได้ป่าวหนิ อี...(ชื่อมัน) ไม่ตอบหยิ่งนะแก" จนวันต่อมาเราก็ดูว่ามันอ่านหรือยัง ปรากฏว่ามันอ่านแล้ว แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เรารู้สึกแย่นะ ถึงปากจะบอกไม่ได้ต้องการอะไร แต่การทำแบบนี้สำหรับเรามันโหดร้ายนะ คุยกันซักนิดเหมือนเพื่อนปกติไม่ได้หรอ เห้อออ หลังจากนั้นเกือบเดือน จากที่คุยๆกับเพื่อนแล้วเราไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ เพื่อนอีกคนก็บอกได้แค่ว่า"ก็แกกับมันนี่ห่างกันมานานแล้วนะ" เราเลยทักแชทเฟสมันไป เพื่อหวังว่าอย่างน้อยได้คุยเหมือนเดิมซักนิสก็ยังดี ทักว่า"หวัดดี" จนวันนี้ก็ยังไม่มีทั้งการอ่านและตอบกลับมา T^T

   ยิ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลแห่งความรัก ยิ่งทำให้นึกถึงช่วงเวลาดีๆที่มีกับมัน นึกแล้วก็เสียดาย ทำไมเราไม่กล้ากว่านี้ ตอนมีโอกาสทำไมไม่บอก มาตัดสินใจจะบอกอะไรตอนนี้ สุดท้ายเลยมาเขียนนี่แหละค่ะ แต่ไม่อยากคิดมากจะสอบล่ะ เหมือนที่พี่ตูนบอก"ความรัก ไม่ว่าจะจบยังไง แต่เมื่อมันเริ่มแล้วมันก็สวยงามเสมอ" ปล.แต่เราก็ยังอยากให้มันอ่านแล้วทักทายหรือส่งอีโมกลับมซักนิสก็ยังดีนะ ^^

   นี่เป็นประสพการณ์ส่วนหนึ่งของดิฉันนะค่ะ ใครมีอะไรจะแนะนำ หรือแลกเปลี่ยนก็ดีเลยค่ะ (ชอบอ่าน)
   
คือที่จริงก็ไม่ได้อยากถามอะไรนะค่ะ อยากแบ่งปัน แต่มันดันตั้งไม่ได้ต้องส่งสำเนาอะไรก็ไม่รู้ช้า ทนไม่ไหวเลยมาลงนี้แทนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่