My roommate.

ต้องเกริ่นก่อนเรื่องที่ผมจะเล่านี้ เป็นการแชร์ประสบการณ์ด้านความรักของผมในช่วงมหาลัย ซึ่งบางประโยคหรือบางคำมันอาจจะดูซ้ำๆ งง ยังไงต้องขออภัยด้วยครับ เพราะผมเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยเป็น เอาเป็นว่าเริ่มเลยละกัน
       สวัสดีครับผมชื่อ โอม ผมเป็นเด็กบ้านนอก ที่บังเอิญสอบติดเข้ามาเรียนในมหาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ชีวิตในช่วงมัธยมของผม โดยปกติผมก็เป็นคนที่ค่อนข้าง เก็บตัวอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เชิงเป็น introvert ขนาดนั้น  บุคลิกของผมก็จะพูดมากกับคนที่สนิท เออ นั่นแหละ เอาเป็นว่าช่างมันเถอะครับ ในวันที่จะเตรียมตัวไปเรียนที่มหาลัย ผมได้เตรียมตัวย้ายเข้าหอในวันแรก ซึ่งบังเอิญ จองห้องได้อยู่ห้องแรก โดยปกติหอในจะอยู่กัน 3 คน แต่ขณะผมจอง ผมก็เหลือบไปเห็น ชื่อคณะ รูมเมทของผม ซึ่งเรียนสายนึงในวิทย์สุขภาพ  ว้าววว เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นแน่ๆ ที่จะมีรูมเมทเก่ง ในห้อง
พอถึงวันเข้าหอ พี่ๆก็ต้อนรับเป็นอย่างดี ให้คำแนะนำเสร็จสับ ผมก็ลาครอบครัว หลานที่มาส่งผมก็ร้องไห้555 แต่เข้าใจได้พราะ ผมเล่นกับเขาตั้งแต่เด็ก มันก็ต้องผูกพันธ์กันบ้างแหละ เออ ผมลืมบอกไปตอนผมเข้าหอวันแรก ยังไม่มีใครมา วันนั้น ก็เลยได้อยู่ห้องคนเดียว  คือวันแรก ผมก็ยังปรับตัวไม่ได้หรอก ก็นอนเล่น หิวก็ออกไปซื้อของที่โรงอาหาร ตกเย็นก็ไปเซเว่น  ธรรมดาของเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวเลย ซึ่งมันเลยทำให้ผมค่อนข้างที่จะปรับตัวยากหน่อย
มาวันนึงเสียงเคาะประตูดัง ผมเลยรีบออกไปเปิดประตู สรุป เป็นพี่ในหอ มาถามว่า ห้องนี้อยู่กันกี่คน โถ่วว!! ก็นึกว่าเป็นรูมเมทสะอีก ผ่านมาอีกวัน ก็นั่งกินข้าวผัดอยู่ จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับ เสียงไขกัญแจ กึ๊ก!! อื้อหื้อ ยกมาทั้งบ้าน ประมาณ 10 คนถ้วน ผมก็สวัสดีไป ที่นี้ครอบครัวมาเยอะสะเหลือเกิน ผมก็เลยออกไปรอข้างนอก  พอออกไปข้างนอก โอ้ ไปเจอรถตู้ คันหนึ่ง เชื่อละว่ามาทั้งครอบครัวจริง ทีนี้ผมก็ได้ทำความรู้จัก กัน เราก็แลกไลน์ แล้วแม่เขาก็บอกว่า ฝากดูแลกันด้วยนะ วินาทีแรกที่เจอหน้าคือ.... หล่อ ตี๋ ขาว มาก OMG ความมลับที่เก็บไว้คือเกือบออกมา555 เขาก็แนะนำตัว ว่าชื่อ นนท์  พอแลกไลน์กันเสร็จ เขาก็ออกไปเที่ยว และไปพักข้างนอก พอวันต่อมา แม่เขาก็มาส่งที่หอ ด้วยความที่ผมเป็นคนพูดน้อยอยู่แล่ว เลยเป็นอีกฝ่ายที่ชวนผมคุย พอตอนเย็นเขาก็ชวนผมไปตลาด ซึ่งตอนนั้นเขาก็ยังไม่มีมอไซต์ช่วงนั้นเลยขอติดรถไปด้วย  หลังจากที่กลับมาจากตลาด เราก็มากินข้าวที่โต๊ะของใครของมัน กินข้าวเสร็จก็นั่งเล่น ทีนี้ เขาก็ชวนผมไปอาบน้ำ แล้วประโยคนั้นที่เขาพูดคือ "ไปอาบน้ำด้วยกันมั้ย" ผมฟังแล้วแบบบ... อื้อออ จะดีหรอ 553673253%#^#× ในหัวคือคิดไปไกลมาก แล้วเขาก็บอกว่า เอ้ย ไปอาบน้ำพร้อมกันมั้ย  โถ่วนึกว่าจะไปอาบด้วยกันซะอีก อันนี้คิดนะ555 เราก็ไปอาบน้ำพร้อมกัน ก็ไม่มีไร วันต่อมาก็มีการทำกิจกรรมของหอพัก จะเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ของหอพัก ช่วงเย็นเขาก็จะมีกิจกรรมหอพัก เราก็ไปทำกิจกรรม ด้วยความที่ผม ถ้าอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อน ก็จะเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยพูดค่อยจา ทีนี้เขาก็เรียกเราไปรวมตัวทำกิจกรรม หันไปแต่ละคนคือตัวโตกันมาก หันวกกับมาที่ตัวเอง ผอม เตี้ย ดำ เอาง่ายๆคือฟิวเด็กมัธยมต้น ที่นั่งกับพี่มหาลัยนั่นเองก็คือ พอช่วงทำกิจกรรมเขาก็มีกิจกรรมสันทนาการ เขาก็พากันเต้น ซึ่งคนอย่างผมการที่อยู่ในจุดจุดหนึ่งโดยที่ไม่มีเพื่อนคือเป็นอะไรที่ไม่จอยสุดๆ แต่ก็มีเจ้านนท์อยู่ด้วยนั่นแหละ แต่เราทั้งสองก็ยังไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรมเป็นอะไรที่ โคตรทรมานกับผมมาก เพราะผม ปวดขรี้!! แต่ก็อั่นไว้ ช่วงกิจกรรม เราก็ได้มีการ make friend กันกับเพื่อนในหอพัก ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนวิศวะ และก็เพื่อนพยาบาล จากนั้นบรรยากาศก็ดีขึ้นนิดหนึ่ง แต่การปวดขรี้ก็ทำให้ผมกับมาทุกข์อยู่ดี จนทำกิจกรรมเสร็จ ต่างคนก็แยกย้ายกันกลับหอ เพราะพรุ่งนี้ก็ยังมีกิจกรรม   ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด  เราก็ตื่นตั้งแต่ตี5 เพื่อที่จะต้องไปขึ้นรถไปไหว้ย่าโม เราก็ไปไหว้ คือบรรยากาศก็ค่อนข้างร้อน ผมก็ยืนข้างๆเจ้าเฟรนด์นั่นแหละ ผมก็เลยถาม นนท์ว่า ร้อนมั้ย? เขาก็โม้กับผมว่า ไม่ร้อนเท่าไหร่ ทนได้ เนี่ย ตอนเป็น รด. ยิ่งกว่านี้อีก ( โห้ขี้โม้ว่ะ) เราก็ทำกิจกรรมเสร็จ ก็กะว่าจะนั่งรถกลับด้วยกันซะหน่อย แต่เจ้านนท์ดันขึ้นรถคนละคันกับผม ผมก็เลยได้นั่งกับเพื่อนอีกคน ก็หลังจากกลับมาก็มาพักผ่อน เล่นเกมบ้าง 
วันต่อมามหาลัยก็มีกิจกรรม ด้วยความที่เราเป็นเด็กใหม่ ทางมหาลัยมีการเข้างานบายศรี เราก็ไปรอที่จุดรวมพล ก็นั่งรถเมย์ มอ ไป จอดที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งโคตรใหญ่มากๆ วันนั้นผมก็ใส่ชุดพาแลงไปเข้ากิจกรรม ก็ได้รู้จักกับเพื่อนอีกคน ซึ่งเพื่อนก็เรียน วิศวะ เราก็รู้จักกัน พอเริ่มกิจกรรม นนท์ซึ่งมากับผมตอนแรก ก็ขอไปนั่งกับเพื่อนในสำนัก ผมก็อืม แต่ในใจคือ นนท์แกจะทิ้งเราแบบนี้ไม่ด้าย แต่พอกลับมาคิดอีกมุม เขาก็ได้ไปทำความรู้จักกับเพื่อนในสำนักเขานั่นแหละ เพราะตอนเรียนเราก็ไม่ได้ไปเรียนกลับเขาหนิ ก็เลยหยุดคิดไป  ต่อมากมีกิจกรรม กิ๊กมอโดยเขาก็จะให้เราต่อแถว แล้วจับคู่ว่าเราจะได้เพื่อนผู้หญิงคนไหน เราก็ได้รู้จักกับเพื่อนชื่อ ปิงๆ ซึ่งเพื่อนเรียน ดิจิเทค เราก็ได้รู้จักและแลกฟอล ก็นั่งกินข้าว กับทำกิจกรรมอยู่ตรงนั้น พอเสร็จกิจกรรมเราก็รวมแล้วก็กลับหอพัก
ประมาณ 2วัน ต่อมา เป็นวันแรกของการเปิดเทอม เราต่างก็มีปฐมนิเทศ ของแต่ละสำนักวิชา ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่า ตึกที่ปฐมนิเทศไปทางไหน เลยกะว่าจะนั่งรถไปเรียน แต่รอ รถก็ไม่มาสักที เจ้านนท์ก็นั่งคุยกับเพื่อนในคณะเขา ทิ้งให้ผมก็ยืนอยู่คนเดียว จนผ่านไปประมาณ 20 นาทีรถก็ยังไม่มา พอดีมีพี่ในหอพักมาถามว่าจะไปไหน ผมก็บอกว่า ไปปฐมนิเทศ ของผม จะปฐมนิเทศ ที่ตึก A5 นนท์ A4 พี่ก็เลยจะอาสาไปส่ง แกก็เลยให้ผมไปเอารถมอไซต์ ผมก็ให้นนท์นั่งซ้อนไป ก็ไปถึงพี่ก็แนะนำตึกก็เข้าห้องเรียนปฐมนิเทศไป ก่อนหน้าก็มีการตรวจ ATK ด้วยก่อนเข้าผมก็ต้องมานั่งตรวจ ATK อีก พอตรวจเสร็จก็ไปยื่นให้กับพี่เจ้าหน้าที่ข้างหน้าห้อง พอเปิดห้องเข้าไปเท่านั้นแหละ โอโห้ สายตาประมาณ 90 กว่าคนจ้องมาที่ผม ผมก็พยายามหาเก้าอี้ นั่งก็เลยเจอกับเก้าอี้แถวแรกว่างอยู่เลยเดินเข้าไปนั่ง วันนั้นก็นั่งฟังคณบดี ปฐมนิเทศ ก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนแรก คือ ไอ้เกด ก็เป็นเพื่อนคนแรกของผม เราก็ทำความรู้จักกันและมันก็ได้เชิญผมเข้ากลุ่มคณะ เราก็ทำความรู้จักกันไป  ทำกิจกรรมเสร็จ เราก็พากันกลับ ไปเตรียมตัวเพราะพรุ่งนี้มีเรียน อย่างของผม ถ้าช่วงเทอม1 ก็จะเรียนปรับพื้นฐานพวก  ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อังกฤษ1 และก็วิชา มอ แล้วก็มีวิชาคณะด้วยนั่นคือ   Anatomy กับ Lab Anatomy  โดยทุกๆเย็นผมกับนนท์ที่กลับมาจากเลิกเรียนเราก็จะไปตลาดไปซื้อของ ซึ่งก็ทำอย่างงี้เป็นประจำ บางวันช่วง เสาร์ อาทิตย์เบื่อๆ ก็ชวนไปขับรถเล่นบ้าง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนขับ  ทีนี้วันอาทิตย์ มหาลัยมีการแสดงสด ของวง Paradox ซึ่งด้วยความที่เป็นผม ผมก็ไม่ได้อะไร ไปไม่ได้ก็ได้ แต่ถ้าไปมันต้องเข้าไปจองตั้งแต่ช่วงเย็น ทีนี้เจ้านนท์อยากไปด้วย ผมก็ไม่อยากขัด ก็เลยพาไป คือตอนนั้นผมก็เริ่มคิดกับเขาแล้วแหละ แต่อาจจะยังไม่ชัดเจน ขนาดนั้น ก็พากันไปดู แต่ผมก็ไปดูแค่รอบนอก เพราะข้างในต้องเป็นคนที่ลงทะเบียนไว้ ก็ได้แต่ฟังเสียง พอเสร็จเขาก็ชวนผมกลับ ละก็พากลับ  วันต่อมาเราก็ไปเรียน ตกเย็นก็ชวนกันไปตลาด บางวันก็ไปกินข้าวด้วยกัน ทำแบบนี้วนๆไปตลอดนะยะเวลา 3 เดือน ลืมเล่า ปกตินนท์ก็จะกลับบ้านช่วงเสาร์ อาทิตย์ ประมาณเย็นวันของทุกๆวันศุกร์เขาก็จะขอ ให้ผมไปส่ง ซึ่งผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ออกไปทางยินดีซะมากกว่าที่จะไปส่งคนที่เราชอบ5555 ช่วงนั้นก็เริ่มมีใจแล้วล่ะ อาจจะด้วยอะไรหลายๆอย่างมันทำให้ผม หวั่นไหวกับเขาไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรม คำพูด เพราะนนท์เป็นคนพูดเพราะอยู่แล้ว จะใช้ คำแทนตัวเอง ว่าเค้า แก ผมได้ยินอย่างนั้นก็หวั่นไหวสิครับ!! ไม่เคยมีใครพูดกับผมแบบนี้มาก่อน บวกกับว่า เราไปกินข้าวข้างนอกกันบ่อยเราก็เริ่มที่จะสนิทกัน หน่อยๆ เวลานนท์กลับบ้านงี้ เสาร์ อาทิตย์ ผมก็เริ่มคิดถึงเขานะ555 แต่ในห้องก็ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวนะ ก็คือยังมีพี่อีกคน พี่แกชื่อมอส แกเรียน วิศวะ คอมปี3 แกก็เป็นคนแบบ ติดจอสะมากกว่า แกพูดน้อยด้วยความที่ไม่ค่อยสนิทด้วยแหละ แต่คือ  แกก็ช่วยทุกอย่างนะ ผมว่าแกก็โอเคเลยแหละ อ่ะต่อ พอวันเย็นวันอาทิตย์ ผมก็ต้องไปรับเจ้านนท์ที่ ขนส่ง เราก็ไปเรียนกันปกติ ที่นี้ก็มีเพื่อนในสำนัก ชวนผมไปกินหมูกระทะ ก็เลยไป เลยบอกว่า "วันนี้เค้าไปกินข้าวกับเพื่อนนะ"  พอผ่านไปสักพักปนะมาณ 2 ชั่วโมงก็มีโทรศัพท์เข้า ว่าไปนอนข้างนอกมั้ยประมาณ 2 วันเพราะเขาบอกว่า กลัวโควิด  ผมก็เลยตอบตกลงไป ผมก็เลยรีบขับรถไปหอ ไปเก็บเสื้อผ้าไปอยู่หอข้างนอก 2 วัน5555 อยู่ ๆก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศซะงั้น  เราก็พากันไปพักที่หอพัก แห่งนึง ผมก็นอนห้องเดียวกันแต่คนละเตียง เป็นเตียงแบบ2 ชั้น การได้นอนกลับคนที่ชอบ 2ต่อ 2 ก็แอบถ่ายไว้หน่อยล่ะกัน คนอะไรยิ้ม น่ารักไปหมด ดีไปหมดทุกอย่าง  ก็พอวันกลับผมก็เก็บของ จนไปสดุดกับประโยคหนึ่ง เขายื่นกระเป๋าให้ผม และพูดว่า "เธอถือให้เค้าหน่อย" สตั้นไปเลย อร้ากกก ไม่มีใครพูดแบบนี้กับชั้น  นนท์ทำให้ผมคิดไปไกลมาก555  เสร็จจากนั้นเราก็พากันกลับหอ นนท์ก็ไป ขนส่ง ซึ่งผมก็ต้องไปส่งตามเคย แต่ก็ไม่เคยเกี่ยงอะไรนะ ออกแนวเต็มใจด้วยซ้ำ ซึ่งพอเย็นวันอาทิตย์ผมก็ไปรับนนท์ทุกครั้งอย่างเช่นเคยแหละ ตกเย็นก็ออกไปซื้อกับข้าว ไปกินข้าวด้วยกันบ้าง ( ต่อ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่