เคยเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล กันไหมคะ ? แล้วเปลี่ยนด้วยเหตุผลอะไรบ้าง ?

ดูเหมือนวันสองวันนี้ ถามแต่เรื่องแนว ๆ ลึกลับ
เพี้ยนขำหนักมาก
แต่จริง ๆ มันไม่ได้ลึกลับขนาดนั้นหรอกค่ะ  
แล้วมันโยงกับแนวโน้มที่เห็นในสังคมไทยพอสมควร

ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อที่ได้ยินมาแบ่งปันกันในคืนวันศุกร์นี้ก็แล้วกันค่ะ


ทำไมคนเราถึงเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล

1. ร้อยละเก้าสิบกว่าของสังคมไทย ต้องบอกว่า หมอดูทัก พระแนะให้เปลี่ยน เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือความเฮงในชีวิต
2. ต้องการเปลี่ยน "ตัวตน" identity หรือสิ่งที่คนภายนอกรู้สึกเกี่ยวกับตัวเรา
3. สำหรับคนเปลี่ยนนามสกุล ก็อาจเป็นเพราะเหตุผลข้อที่ 1 หรือ เพราะแต่งงาน และอยากใช้นามสกุลคู่สมรส
4. ชื่อเดิมหรือนามสกุลเดิม มันไม่เท่ ไม่เก๋ ยาวไป หรือสั้นไป ไม่สะดวกในการใช้งาน หรืออาจออกเสียงแล้วเป็นคำหยาบ คำตลกในภาษาต่างประเทศ
5. เปลี่ยนเพราะตัดขาดกับครอบครัว



เปลี่ยนแล้วได้อะไร
1. ได้ทำบัตรประชาชนใหม่ ฟิน
2. ได้ความมั่นใจว่าต่อไปนี้ ชีวิตจะดีขึ้นแน่ หรือเปลี่ยนไปในทางที่คาดหวังไว้แน่
3. ได้ประวัติการเปลี่ยนชื่อยาวเหยียด ซึ่งเวลาทำวีซ่าหรือเอกสารกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะขอใบเขียว หรือ permanent residency ต่าง ๆ จะต้องมีเอกสารกำกับปึกใหญ่ แต่ในเมืองไทยไม่เป็นไร เพราะบัตรประชาชนแบบมี chip เวลาเสียบเข้าไป จะเห็นประวัติการเปลี่ยนชื่ออยู่แล้ว


ขอเล่าตัวอย่างความอลวน


ดิฉันจำได้ว่า สมัยรุ่น ๆ เคยไปทำวีซ่าให้เจ้านายที่สถานทูตเยอรมัน สมัยโน้น ตามสถานทูตยังไม่มี VFS ไว้คอยทำวีซ่านะคะ ก็ต้องไปรอตามสถานทูต เข้าแถว รอเรียกคิว ตอบคำถามเกี่ยวกับเอกสาร

มีผู้หญิงคนหนึ่ง โดนเจ้าหน้าที่เรียกถามเรื่องเอกสารเกี่ยวกับชื่อ และเหตุผลในการเปลี่ยนชื่อ
เธอตะโกนตอบอย่างมั่นใจว่า "หมอดูทักให้เปลี่ยนค่ะ"
จำได้ว่า เจ้าหน้าที่ท่านนั้นทำหน้าปุเลี่ยน ๆ นิดนึง และไม่ได้ว่าอะไร


พี่สาวสามีดิฉัน อยู่อเมริกาจนได้สัญชาติ แต่ในกระบวนการขอสัญชาติ พี่สาวเล่าว่ายุ่งยากมาก และอุปสรรคส่วนหนึ่งคือ การเปลี่ยนชื่อหลายครั้งนี่แหละ
คือ พี่สาวท่านนี้เคยเปลี่ยนชื่อสมัยเด็ก ๆ มาหนึ่งครั้ง  จากนั้น ก็เปลี่ยนจากแซ่มาใช้นามสกุล สมัยสี่ห้าสิบปีที่แล้ว ไม่มีคอมพิวเตอร์ การจะขอนามสกุลใช้เวลาและยุ่งยากมาก ต้องมีการตรวจสอบว่า นามสกุลที่ขอใหม่นั้น ซ้ำกับที่มีอยู่แล้วรึเปล่า ดังนั้น หลาย ๆ ครอบครัวเลยตัดสินใจ เลือกนามสกุลยาวเฟื้อยสามวาแปดวา เพื่อจะได้ไม่ซ้ำกับนามสกุลที่มีอยู่แล้วแน่ ๆ

นามสกุลแรกของครอบครัวสามีดิฉันยาว 7 พยางค์ ทำให้เวลาต้องกรอกเอกสารไม่สะดวกเอามาก ๆ
พี่ชายคนโตเลยไปขอนามสกุลใหม่ คราวนี้เหลือ 3 พยางค์

พี่สาวคนนี้ ก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแซ่เป็นนามสกุลที่ 1 เปลี่ยนนามสกุลที่ 1 เป็นนามสกุลที่ 2 จากนั้น แต่งงาน เปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี
สามีตาย ก็เปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลเดิม

ประวัติการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งนี่แหละค่ะ ที่พี่สาวเล่าว่า เลยทำให้โดนสอบประวัติ และตรวจประวัติอาชญากรรมนานเป็นพิเศษ เพราะฝรั่งไม่ "อิน" กับการเปลี่ยนนามสกุลและชื่อมากครั้งเท่าคนไทย

ส่วนตัวดิฉันเอง
เห็นคนเปลี่ยนชื่อ นามสกุลเพราะเหตุผลเรื่องดวงเยอะมาก

เจอซัพพลายเออร์รายหนึ่ง เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล และเปลี่ยนชื่อเล่น เอากะพ่อสิ ทำเหมือนเกิดใหม่ไปเลย

เพื่อนเก่าสมัยเด็ก ก็เปลี่ยนชื่อ เป็นตัวสะกดที่อ่านยากมาก ขอสมมตินะคะ "ณัฏฐ์ปวิศร์" อ่านว่า นัด ปะ วิด  คิดว่าอันนี้มาสายที่แทนตัวอักษรด้วยตัวเลข แล้วเอามารวมกันเพื่อให้ "มงคล"
มึนตึ๊บ


ครอบครัวข้างบ้าน เปลี่ยนนามสกุล เพราะโกรธแม่
ตัวเองเลี้ยงดูพ่อแม่มาตลอด และเสียสละทำกิจการกงสีที่เหน็ดเหนื่อยและกินแรงมาก  
วันดีคืนดี แม่ก็มายกบ้านกงสีหลังนั้นโอนเป็นชื่อน้องชายโดยไม่บอกไม่กล่าวใด ๆ ก่อนทั้งสิ้น มารู้หลังจากการโอนจบลงแล้ว
เปลี่ยนนามสกุลเลยค่า โกรธจัด ร่วมแซ่ ร่วมสกุลกันไม่ได้แล้ว



อีกครอบครัวหนึ่ง ร้านขายเหล็กแถวปู่เจ้า
เจ๊เค้าเล่าให้ฟังว่า อยากได้นามสกุลใหม่ที่เป็นมงคล เลยให้ลูกไปต่อคิวขอรับนามสกุลที่สมเด็จพระสังฆราชประทานให้
ทำเรื่องไปครั้งแรกเงียบ ไม่แน่ใจ เลยยื่นขอไปอีกครั้ง
ปรากฎว่า เลยได้ 2 นามสกุล  
ลูกแกเลยใช้คนละนามสกุล

บ้านหลังนั้นอยู่กันสามคน แม่หนึ่ง ลูกสอง ใช้กันสามนามสกุล



มีอีกเรื่องที่ฮากว่านั้นและอยากเล่าคือ
ธาราสินธุ์มีรุ่นพี่ที่นับถือกันอยู่คนหนึ่ง
วันนั้น เราไปทานข้าวกันสามคนมีรุ่นพี่ท่านนี้ รุ่นน้องอีกคน แล้วก็ธาราสินธุ์
คุยกันสัพเพเหระ แล้วก็คุยกันเรื่องเปลี่ยนชื่อ


พี่ท่านนี้เปลี่ยนชื่อมาสองครั้งแล้ว
ตอนที่ตัดสินใจเปลี่ยนครั้งที่สองเพราะ มีหมอดูทักว่า "ใช้ชื่อนี้ โดนผีข่มขืนบ่อย"
คือ พี่เค้าเป็นผู้ชายนะคะ ตอนนั้น ได้ฟังหมอดูทักแบบนี้ แกตกใจ เพราะแกเล่าว่า แกมีปัญหาเรื่องฝันเปียกบ่อยมาก
แมวพิมพ์
แกบอกว่า แกก็ไม่เข้าใจ โทร.ถามเพื่อนผู้ชายเป็นร้อยคน (แกจบโรงเรียนชาย)  แกบอกว่า เพื่อนเกือบทุกคนบอกว่าในวัยผู้ใหญ่ขนาดนี้ ไม่เคยมีปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเลย  แกก็รู้สึกว่า เออ ทำไมแกเป็นอยู่คนเดียว
แกก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็นครั้งที่สอง แล้วหลังจากนั้น แกก็หายจากอาการฝันเปียก



ที่เคยเห็นอีก คือ

บางบ้านลูกหลานเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล โดยไม่คำนึงถึงความเชื่อมโยงของชื่อที่เป็น "สายสกุล" ต่อกันมา เอาความ "มงคล" นำหน้า เลยลงเอยด้วยบ้านเดียวกัน ครอบครัวเดียวกัน พ่อแม่ลูกกัน นามสกุลกระจัดกระจายไปคนละทาง (Thailand Only ไหมคะ ?)

บางบ้าน ให้ลูกใช้นามสกุลแม่ แทนที่จะเป็นนามสกุลพ่อ (ส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนี้ ฝั่งแม่จะรวยกว่า ยิ่งใหญ่กว่า หรือเชื้อสายผู้ดีเก่ากว่า)


ถ้าถามธาราสินธุ์ว่า แล้วตัวล่ะ เคยเปลี่ยนชื่อบ้างไหม เอาแต่มาเล่าของคนอื่น ?


ต้องบอกว่า ชื่อจริงภาษาไทย ไม่เคยเปลี่ยนค่ะ แม้ว่า เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วชื่อนี้จะเฉิ่มและมีความหมายไม่ดี

อ้อ เปลี่ยนจากแซ่มาเป็นนามสกุล และจากนามสกุลตัวเอง เป็นนามสกุลสามี


ชื่อภาษาจีน หม่าม้าเปลี่ยนให้ตอนเด็ก ๆ จาก ลี่ลี่ เป็น ลี่จวิน


ชื่อเล่น ไม่ได้เปลี่ยนค่ะ แต่ดัดแปลงนิดหน่อยเพราะชื่อเล่นตัวเองสองพยางค์ พี่ที่สนิทคนนึง เรียกพยางค์เดียว และเปลี่ยนอักษรนิดหน่อย ดิฉันเห็นว่า ออกเสียงง่ายดี ก็เลยรับเอาชื่อเล่นที่พี่สาวคนนั้น "โม" ให้มาเป็นชื่อเล่นอย่างเป็นทางการ


ชื่อในพันทิป เคยเปลี่ยนสองครั้งค่ะ ครั้งแรก ใช้อีกชื่อ ต่อมาไม่ได้เล่นสองสามปี พันทิปเปลี่ยนระบบกลับมาใช้ชื่อเดิมไม่ได้แล้ว เลยต้องเลือกชื่อใหม่ ปรากฎว่า ชื่อนั้น สามีไม่ค่อยชอบเพราะมันพัน ๆ กับชื่อของลูกไปด้วย ก็เลยเปลี่ยนเป็นชื่อ ธาราสินธุ์ มาจนปัจจุบัน



เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ล่ะคะ ?
เคยเปลี่ยนชื่อกันไหม ? และด้วยเหตุผลอะไร ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่