


อีกเพียง 15 วันนับแต่วันนี้ก็จะถึงเทศกาล
ที่หลายๆท่านมีความมุ่งมั่น คาดหมายกัน
มีทั้งสมหวัง และผิดหวัง ไม่มากก็น้อยราย
ไม่รู้ว่าเทศกาลนี้เริ่มมาโด่งดังและมีบทบาท
มากมายกับคนไทยเมื่อไร แต่เห็นมีแต่คน
คลั่งไคล้รอคอย หลายท่านมุ่งหวังทุ่มสุดตัว
ผิดหวังก็เจ็บ ก็ช้ำใจ.... ดังนั้นจึงต้องเตรียม
ตัว เตรียมใจ เตรียมร่างกาย เพื่อรับมือกัน

กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งมาเยาะเย้ยหรือเสียดสี
ใดๆ แต่วัตถุดิบที่ใช้มันสอดคล้องและเป็น
สรรพคุณหนึ่งที่มันมี และใช้รักษาทั้งภายใน
และหัวใจ และอื่นๆอีกมากมายที่หลายท่าน
อาจคาดไม่ถึง ผมได้แนบมาให้อ่าน เพื่อช่วย
เป็นข้อมูลความรู้

สำหรับเมนูเครื่องดื่มสมุนไพรนี้
หลายๆท่านคงรู้จักกันแล้วแน่นอน แต่คงมีน้อยคนที่มีโอกาส
นำมาผสมกันทั้งสามสิ่งอย่างนี้เพื่อดื่มพร้อมๆกัน จริงๆแล้วไม่ได้ผิดหรือเพี้ยน
ใดๆเลย มีแต่ได้ประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ จขกท.จึงได้นำ link ที่เกี่ยวข้องมาแนะนำ
เริ่มจากตัวหลักคือ ใบบัวบก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.greenerald.com/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81/
ตามมาด้วย รางจืด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.greenerald.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94/
ตามด้วย ใบเตย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/
ครับดังนั้นก็คือน้ำใบบัวบกผสมว่านรางจืดและใบเตย
ใบบัวบก ทางเหนือและอิสานเรียก ผักหนอก ทางใต้หรือบางที่ทางภาคกลาง เรียกผักแว่น
รางจืด เป็นสมุนไพรที่มีติดในสวนที่บ้านมานานมาก ปลูกง่ายมากและเติบโตง่ายอย่างคาดไม่ถึง
เตย ใบเตย หลายๆบ้านที่ชอบทำอาหารและขนมและมีที่สักหน่อย มักจะมีปลูกติดบ้านเพื่อได้เก็บมาใช้
เมื่อวานไปที่ตลาดนัดแถวบ้าน เจอเขาขายใบบัวบก 5 มัด 20 บาท ถูกแสนถูก เลยซื้อติดมา
ก่อนทำนึกได้ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ สีก็เขียวๆเช่นกัน ใส่ลงไปให้หมด ให้ได้คุณประโยชน์ครบถ้วนในครั้งเดียว
มาดูชิ้นส่วน และวิธีทำกันครับ
ใบบัวบก 5 มัด ใบว่านรางจืด 30 ใบ ใบเตยแก่ 5 - 6 ใบ เกลือป่น 1/3 ช้อนชา น้ำตาลอ้อย 1/2 ถ้วยตวง

เริ่มแรกแช่และล้างใบบัวบก และใบรางจืด และใบเตย ในน้ำสะอาดให้สะอาด เสร็จแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
หั่นทุกอย่างซอยให้เป็นฝอยเล็กๆ เพื่อที่จะนำเข้าเครื่องปั่นได้ง่าย
เตรียมโถเครื่องปั่น ผ้ากรอง หรือถุงกรอง ( ผมใช้ถุงกรองผ้าป่านเย็บเองครับ ) และกระชอนตาถี่
และหม้อสะอาดๆ และกะละมังสำหรับใส่กากที่เหลือ ถุงมือพลากสติกสำหรับใช้ทำอาหาร
หากไม่มี ก็พยายามรักษาและล้างมือให้สะอาด

นำใบต่างๆที่ได้ใส่ลงในโถปั่น กะความสูงที่ได้ในโถให้เกินครึ่งโถปั่นเล็กน้อย แล้วเติมน้ำดื่มสะอาด
จะใช้น้ำเเช่เย็นก็ได้เช่นกันครับ แต่ไม่แนะนำน้ำร้อนเด็ดขาด เพราะคุณประโยชน์จะเสื่อมไปมาก
เติมน้ำให้เกินจากใบบัวบกและใบต่างๆที่ใส่ลงไปสัก 1 - 2 นิ้ว จากนั้นเปิดเครื่องปั่นจนละเอียด
เมื่อได้ที่แล้ว ก็นำมาเทลงหม้อสะอาดที่เตรียมไว้ ผ่านผ้ากรองหรือถุงกรอง และกระชอนที่รองอีกที
ใช้มือบีบไล่น้ำในถุงกรอง หรือผ้ากรองจนแห้งสนิท แล้วนำกากทิ้งไป ( ผมนำไปใส่โคนต้นไม้ทีหลังครับ )
ทำแบบนี้จนใบสมุนไพรที่เตรียมไว้หมด เมื่อได้น้ำทั้งหมดแล้วเราก็เตรียมปรุงรสชาติกันครับ

ใส่น้ำตาลอ้อย ( น้ำตาลทรายผงละเอียดที่ใช้ทำขนมหรือปรุงกับยา ) และเกลือลงไป
ผมใส่เกลือลงไปนิดหน่อย เพียงหยิบมือเดียวเพื่อตัดรสเฉยๆ และไม่ได้ปรุงให้หวานมาก ใส่เพียง
ให้เพื่อเป็นส่วนผสมของยาเท่านั้น ใช้ทับพีสะอาดๆ ลงไปคนในหม้อให้น้ำตาลและเกลือละลายจนหมด
เทผ่านผ้ากรองหรอกระชอนตาถี่อีกครั้งเพื่อบรรจุลงเหยือกเพื่อนำไปทาน เสร็จแล้วครับง่ายๆแค่นี้
ใครชอบเย็นๆ ใส่น้ำแข็งก็ได้ ไม่ผิดกติกาใดๆ ใครสามารถทานในอุรหภูมิปกติห้อง ก็ได้ไม่ว่ากัน
นำเหยือกไปแช่ในตู้เย็น เก็บไว้ทานได้ สอง - สามวันครับ

ทั้งหมดนี้ผมทำได้ 1 เหยือกใหญ่ กับอีก 1 แก้ว พอดี ได้น้ำสีเข้มๆดำๆ ซึ่งนี่แหละประโยชน์จริงๆ
หากจะให้ได้เป็นยาจริงนั้น ต้องออกมาสีเข้มๆดำๆเช่นนี้ครับ ผมเองไม่มีปัยหากับการกินหรือดื่ม
จากผักสมุนไพรแบบนี้ จึงไม่ต้องกลั้นใจหรือปรุงแต่งใดๆเพื่อให้ดื่มง่าย เพียงแต่นึกอย่างเดียว
ว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกาย คำตามคติพจน์ในสมัยโบราณ หวานเป็นลม ขมเป็นยา ...

ขอลาไปด้วยภาพนี้ครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันนะครับ


[CR] ``..'[...^...] ..อกเขา - อกเรา เครื่องดื่มรักษาใจ เตรียมให้พร้อมเพื่อรับ Valentine's Day .. [...^...]'..`
อีกเพียง 15 วันนับแต่วันนี้ก็จะถึงเทศกาล
ที่หลายๆท่านมีความมุ่งมั่น คาดหมายกัน
มีทั้งสมหวัง และผิดหวัง ไม่มากก็น้อยราย
ไม่รู้ว่าเทศกาลนี้เริ่มมาโด่งดังและมีบทบาท
มากมายกับคนไทยเมื่อไร แต่เห็นมีแต่คน
คลั่งไคล้รอคอย หลายท่านมุ่งหวังทุ่มสุดตัว
ผิดหวังก็เจ็บ ก็ช้ำใจ.... ดังนั้นจึงต้องเตรียม
ตัว เตรียมใจ เตรียมร่างกาย เพื่อรับมือกัน
กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งมาเยาะเย้ยหรือเสียดสี
ใดๆ แต่วัตถุดิบที่ใช้มันสอดคล้องและเป็น
สรรพคุณหนึ่งที่มันมี และใช้รักษาทั้งภายใน
และหัวใจ และอื่นๆอีกมากมายที่หลายท่าน
อาจคาดไม่ถึง ผมได้แนบมาให้อ่าน เพื่อช่วย
เป็นข้อมูลความรู้
สำหรับเมนูเครื่องดื่มสมุนไพรนี้
หลายๆท่านคงรู้จักกันแล้วแน่นอน แต่คงมีน้อยคนที่มีโอกาส
นำมาผสมกันทั้งสามสิ่งอย่างนี้เพื่อดื่มพร้อมๆกัน จริงๆแล้วไม่ได้ผิดหรือเพี้ยน
ใดๆเลย มีแต่ได้ประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ จขกท.จึงได้นำ link ที่เกี่ยวข้องมาแนะนำ
เริ่มจากตัวหลักคือ ใบบัวบก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามมาด้วย รางจืด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามด้วย ใบเตย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครับดังนั้นก็คือน้ำใบบัวบกผสมว่านรางจืดและใบเตย
ใบบัวบก ทางเหนือและอิสานเรียก ผักหนอก ทางใต้หรือบางที่ทางภาคกลาง เรียกผักแว่น
รางจืด เป็นสมุนไพรที่มีติดในสวนที่บ้านมานานมาก ปลูกง่ายมากและเติบโตง่ายอย่างคาดไม่ถึง
เตย ใบเตย หลายๆบ้านที่ชอบทำอาหารและขนมและมีที่สักหน่อย มักจะมีปลูกติดบ้านเพื่อได้เก็บมาใช้
เมื่อวานไปที่ตลาดนัดแถวบ้าน เจอเขาขายใบบัวบก 5 มัด 20 บาท ถูกแสนถูก เลยซื้อติดมา
ก่อนทำนึกได้ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ สีก็เขียวๆเช่นกัน ใส่ลงไปให้หมด ให้ได้คุณประโยชน์ครบถ้วนในครั้งเดียว
มาดูชิ้นส่วน และวิธีทำกันครับ
ใบบัวบก 5 มัด ใบว่านรางจืด 30 ใบ ใบเตยแก่ 5 - 6 ใบ เกลือป่น 1/3 ช้อนชา น้ำตาลอ้อย 1/2 ถ้วยตวง
เริ่มแรกแช่และล้างใบบัวบก และใบรางจืด และใบเตย ในน้ำสะอาดให้สะอาด เสร็จแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
หั่นทุกอย่างซอยให้เป็นฝอยเล็กๆ เพื่อที่จะนำเข้าเครื่องปั่นได้ง่าย
เตรียมโถเครื่องปั่น ผ้ากรอง หรือถุงกรอง ( ผมใช้ถุงกรองผ้าป่านเย็บเองครับ ) และกระชอนตาถี่
และหม้อสะอาดๆ และกะละมังสำหรับใส่กากที่เหลือ ถุงมือพลากสติกสำหรับใช้ทำอาหาร
หากไม่มี ก็พยายามรักษาและล้างมือให้สะอาด
นำใบต่างๆที่ได้ใส่ลงในโถปั่น กะความสูงที่ได้ในโถให้เกินครึ่งโถปั่นเล็กน้อย แล้วเติมน้ำดื่มสะอาด
จะใช้น้ำเเช่เย็นก็ได้เช่นกันครับ แต่ไม่แนะนำน้ำร้อนเด็ดขาด เพราะคุณประโยชน์จะเสื่อมไปมาก
เติมน้ำให้เกินจากใบบัวบกและใบต่างๆที่ใส่ลงไปสัก 1 - 2 นิ้ว จากนั้นเปิดเครื่องปั่นจนละเอียด
เมื่อได้ที่แล้ว ก็นำมาเทลงหม้อสะอาดที่เตรียมไว้ ผ่านผ้ากรองหรือถุงกรอง และกระชอนที่รองอีกที
ใช้มือบีบไล่น้ำในถุงกรอง หรือผ้ากรองจนแห้งสนิท แล้วนำกากทิ้งไป ( ผมนำไปใส่โคนต้นไม้ทีหลังครับ )
ทำแบบนี้จนใบสมุนไพรที่เตรียมไว้หมด เมื่อได้น้ำทั้งหมดแล้วเราก็เตรียมปรุงรสชาติกันครับ
ใส่น้ำตาลอ้อย ( น้ำตาลทรายผงละเอียดที่ใช้ทำขนมหรือปรุงกับยา ) และเกลือลงไป
ผมใส่เกลือลงไปนิดหน่อย เพียงหยิบมือเดียวเพื่อตัดรสเฉยๆ และไม่ได้ปรุงให้หวานมาก ใส่เพียง
ให้เพื่อเป็นส่วนผสมของยาเท่านั้น ใช้ทับพีสะอาดๆ ลงไปคนในหม้อให้น้ำตาลและเกลือละลายจนหมด
เทผ่านผ้ากรองหรอกระชอนตาถี่อีกครั้งเพื่อบรรจุลงเหยือกเพื่อนำไปทาน เสร็จแล้วครับง่ายๆแค่นี้
ใครชอบเย็นๆ ใส่น้ำแข็งก็ได้ ไม่ผิดกติกาใดๆ ใครสามารถทานในอุรหภูมิปกติห้อง ก็ได้ไม่ว่ากัน
นำเหยือกไปแช่ในตู้เย็น เก็บไว้ทานได้ สอง - สามวันครับ
ทั้งหมดนี้ผมทำได้ 1 เหยือกใหญ่ กับอีก 1 แก้ว พอดี ได้น้ำสีเข้มๆดำๆ ซึ่งนี่แหละประโยชน์จริงๆ
หากจะให้ได้เป็นยาจริงนั้น ต้องออกมาสีเข้มๆดำๆเช่นนี้ครับ ผมเองไม่มีปัยหากับการกินหรือดื่ม
จากผักสมุนไพรแบบนี้ จึงไม่ต้องกลั้นใจหรือปรุงแต่งใดๆเพื่อให้ดื่มง่าย เพียงแต่นึกอย่างเดียว
ว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกาย คำตามคติพจน์ในสมัยโบราณ หวานเป็นลม ขมเป็นยา ...
ขอลาไปด้วยภาพนี้ครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันนะครับ