สวัสดีครับ จขกท มีเรื่องอยากแชร์ประสบการณ์ เรื่องมีอยู่ว่า ผมสั่ง นาฬิกา จากร้านขายของ online ใน face book ร้านหนึ่งโดยมัดจำค่าของเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผมได้ฝากพี่ชายซื้อนาฬิกา ตอนที่พี่ชายไปเที่ยว ตปท ครับ ซึ่งพอพี่ชายไปถึง เขาก็ตามหาของได้อยู่สองวัน หลังจากนั้นเขาก็โทรบอกผมว่าของหาไม่ได้ ซึ่งขณะเดียวกันตัวผมได้ติดตามร้านค้า onlineร้านนี้อยู่สักระยะหนึ่ง ซึ่งก็ได้สอบถามข้อมูลเรื่องนาฬิกามาแล้วคร่าวๆเผื่อพี่ชายหาไม่ได้ หลังจากที่ได้คำตอบของพี่ชายว่าหาไม่ได้ ผมจึงตัดสินใจ pre order นาฬิกาจากร้านนี้ ในทันที และได้มัดจำเงินค่าของ 5,000 บาทซึ่งเจ้าของร้านได้สรุปรายการสินค้าและ ยอดเต็มจำนวนที่ต้องจ่าย พร้อมวันรับสินค้า และวันต่อมาเป็นวันกลับของพี่ชายแล้วเขาก็ไปเจอร้านขายนาฬิกาซึ่งมีของที่ต้องการพอดี
พี่ชายผมเขาก็ไม่ได้คิดว่าผมจะรีบไปสั่งของ เลยไม่ได้โทรบอกผมก่อนว่า ซื้อนาฬิกามาให้แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นวันที่จะกลับพอดีเซอร์ไพรไเลย พอพี่ชายผมกลับมาถึง ผมรู้เรื่องนาฬิกา ก็ตกใจ รีบพิมพ์ไปหาเจ้าของร้านแจ้งขอยกเลิกสินค้าและได้แจ้งถึงเหตุผลที่ยกเลิก พร้อมกล่าวคำขอโทษ ซึ่งมันเป็นความบังเอิญจริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะยกเลิกสินค้าของร้าน
เขาเลยครับ และช่วงเวลาที่ผมยกเลิกทางร้านผมมั่นใจว่าทางร้านก็ยังไม่ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าแน่นอนครับ แค่รับ order ของผมไป พร้อมกับ order อื่นๆ แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ เขาแจ้งผมมาว่า สินค้าของเขาก่อนที่คนของเขาจะบินไป เขาได้ทำการสั่งจองสินค้าและใช้บัตรเครดิตมัดจำค่าสินค้าไปแล้ว 10% ถ้าเรายกเลิก เขาจะโดนหัก 5% ซึ่งมันมากกว่าเงินที่รับมัดจำจากผมอีก(มันเสี่ยงเกินไปไหมที่เขาจะรับภาระเงินส่วนที่เกินตรงนั้น?)
คนเจรจาคนแรกบอกว่าคืนมัดจำไม่ได้เพราะว่าเขาได้ส่งคนไปรูดบัตรเพื่อมัดจำสินค้าไว้แล้ว (ไปถึง Shop จะรูดมัดจำทำไมครับ ในเมื่อคุณได้มัดจำผมไปเท่ากับคุณมีออเดอร์แล้ว คุณจะเสียเวลากลับไปซื้ออีกครั้ง) สว่นคนเจรจาคนที่สองผู้ที่เป็นหุ้นส่วนบอกว่า การดำเนินการของร้านคือ ต้องอีเมลไปสอบถามสินค้าตามShop ต่างๆก่อนและจึงทำการจองมัดจำ (เท่าที่ผมสืบข้อมูลมาShop AD ไม่รับการจองสินค้าผ่านอีเมลครับ) สรุปแล้ว ร้านของเขาดำเนินงานแบบไหนกันแน่ครับ พูดไม่ตรงกันเลย
เรื่องนี้ผมเป็นคนผิดตั้งแต่ต้นผมทราบดีและไม่เคยปฏิเสธ แต่ข้อมูลที่ทางร้านแจ้งมานั้นผมได้ปรึกษา พี่ชายกับพี่สาวซึ่งก็มีเพื่อนๆที่เขามีอาชีพเหมือนกับร้านนี้เค้า confirm กับผมว่า การรับ order บินไปซื้อแบบนั้นไม่มีใครมัดจำจองค่าสินค้าทาง Shop AD ก่อนหรอกครับ ส่วนใหญ่จะบินไปและไปหาของตามร้านประจำที่คุ้นเคย และจะมัดจำจองสินค้าได้ต่อเมื่อเดินทางไปที่หน้าร้านเอง(แบบwalk in) ไม่มีการโทรเพื่อไปจองของและกรณีเปลี่ยนแบบเปลี่ยนรุ่นก็ไม่มีการหักค่ามัดจำใดๆทั้งสิ้นครับ เพราะผมได้ทำการสอบถามเช็คกับ Shop AD เรียบร้อยแล้ว
และผมก็ได้อธิบายให้กับทางเจ้าของร้านonline เข้าใจในเหตุผลของผมซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญเป็นเหตุสุดวิสัยและผมก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ครับ เจ้าของร้าน ได้เสนอทางออกให้ผมในวาจาเริ่มไม่พอใจคือ เขาให้โอกาสผม 6 เดือน สามารถสั่งซื้อสินค้าในร้านของเค้าได้รุ่นอะไรก็ได้เปลี่ยนแบบได้และเค้าจะหักเงิน 5,000 คืนผม แต่ราคาของมันไม่ใช่หลักหมื่นครับ มันหลักแสน ระยะเวลาภายใน 6 เดือนผมไม่สามารถที่จะซื้อนาฬิกา เรือนเป็นแสนได้ติดกันหรอกครับ เขากล่าวว่า
“นี่พี่ให้โอกาสน้อง 6 เดือนแล้วนะค่ะ นี่พี่จองของทางADมากกว่า 5,000 ที่น้องมัดจำพี่อีก ลูกค้าบางคนยกเลิกยังขอโทษและเสียค่าชดเชยให้พี่เพิ่มอีกด้วย” แล้ววางสายผม
ผมพยายามโทรหาเขาหลายสาย จึงรับ บอกผมว่า
“พี่ไม่มีเวลาคุยกับน้อง ขอทำงานก่อนค่ะ”ผมควรจะคิดมากไหม เพราะหนึ่ง เหตุผลที่ทางร้านอ้างมาเรื่องตรงค่ามัดจำตรงนี้ ผมเข้าใจ แต่ที่ผมรู้มามันไม่มีวิธีการจองที่เขาบอก และสอง ระยะเวลา 6 เดือนที่เขาให้โอกาสผม ไม่รู้ได้จะซื้อป่าว
เรื่องนี้ผมเป็นคนที่ผิดครับตั้งแต่แรก แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผมไม่เคยบ่ายเบี่ยงตอนที่เค้าแจ้งยอดมาเลยครับ ราคาเท่าไหร่ ไม่ลดเราก็ตามนั้น แจ้งยอดมัดจำ ผมก็โอนให้ทันที ซึ่งในความเห็นของผม ถ้าทางร้าน รับฟังเหตุผลและเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเห็นใจคืนเงิน 5,000 ให้กับผม ต่อให้เขาไม่พูดว่าต้องมาซื้อของร้านเขา ผมก็ต้องซื้อแน่นอนครับ ร้านค้าที่ดี จริงใจกับลูกค้า ซื้อใจผมไปเต็มๆครับ แต่ที่เค้าทำแบบนี้ผมก็เสียความรู้สึกครับประกอบกับพูดจาไม่เอาลูกค้าและมองอีกแง่นึงนะครับ ถ้าเขาบอกว่าการที่เขาให้โอกาสผม 6 เดือนเพื่อตัดสินใจซื้อสินค้าของเขาและคืนเงิน 5,000 โดยหักจากยอดซื้อ คิดให้ดีๆก็เท่ากับเขาคืนเงิน 5,000 ให้ผมอยู่ดี ถ้าเขาบอกว่าเขาเสียเงินค่าจองตรงนี้ไปแล้ว เขาใจดีเกินไปไหม เขาทำได้หรอครับ แล้วทำไมไม่คืนให้ผมตั้งแต่วันที่ยกเลิก เพราะจริงๆก็มีค่าเท่ากันและจะไม่ทำให้เสียความรู้สึกต่อกันแบบนี้ครับ
พอพี่สาวผมรุ้เรื่องเขาก็ขอเจรจาให้ โดยสนทนาทางโทรศัพท์อยู่เป็นชั่วโมง อธิบายเหตุผลของทั้งสองฝ่ายและเริ่มมีอารมณ์เล็กน้อย เมื่อถามถึงขอหลักฐานการจองใช้บัตรเครดิตว่าเขาเสียหายจริงก็จะยอมรับและให้ริบเงินไป แต่พอถาม เขาก็เงียบไปและตอบกลับด้วยเสียงไม่พอใจว่า สรุปจะคืนเงินให้ ในตอนสุดท้าย พร้อมพูดว่า
“ได้เงินคืนและจะสำนึกไหมคะ แล้วช่วยสั่งสอนน้องชายด้วยนะคะว่าให้มีความรับผิดชอบ” หลังจากนั้นตัดสายพี่สาวผมไปเลยครับ
ต่อมาไม่เกิน 10 นาที โทรกลับมาบอกว่า สรุปเงินยังไม่คืนให้นะคะ ไปแจ้งกับเจ้านายแล้วเจ้านายจะคุยเอง ซึ่งถามว่าถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของร้าน คุณจะมีสิทธิมาตัดสินใจและด่าลูกค้าแบบนี้หรอครับ แล้วเขาแจ้งว่าเขาไม่ใช่เจ้าของร้าน ผม งง?มากครับ กับ ร้านนี้
ตอนพี่สาวผมสอบถามว่า ใช่คุณ(ชื่อเจ้าของร้าน)ใช่ไหมคะ เขาตอบว่าใช่ แต่ตอนที่โทรกลับมาครับ เขาบอกว่าเขาไม่ใช่เจ้าของและไม่มีสิทธิในการตัดสินใจ และเงื่อนไขของทางร้านเขา ตอนตกลงซื้อขายไม่ได้แจ้งอะไรผมเลยครับ นอกจากวันรับซึ่งถ้าเป็นกติกาของทางร้านเขาแบบนั้นจริงๆควรแจ้งอย่างเป็นทางการที่หน้าเว็บเพจครับ แต่มาแจ้งตอนที่เกิดปัญหาผมว่าใครจะอ้างยังไงก็ได้ เพื่อเป็นทางออก วันต่อมาพี่ชายได้ขอเจรจาเพื่อให้ชัดเจนอีกครั้งโดยทางร้านได้ให้เจ้านาย(ผู้ชาย) เขาแนะนำตัวว่าเป็นหุ้นส่วนของร้าน ได้มาเจรจากับพี่ชายผมใน Line อยู่เป็นชั่วโมงเขาเล่าถึงวิธีการทำงานของเขาต่างๆนาๆ สรุปได้ทำนองว่า พยายามพูดให้ผมยอมรับคำว่ามัดจำ เพราะเขาจะบอกความหมายของการมัดจำว่าคืออะไร ในวาจาที่ไม่เริ่มไม่พอใจ โดยไม่ได้รับฟังเหตุผลของลูกค้าที่เกิดขึ้น
ผมย้อนไปดูกติกาในเว็บของเขาอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อตอนแรกที่ผมสั่งซื้อ เขาได้ให้ข้อ กติกา และผมเห็นใน
ข้อ 4. สินค้าใหม่ กล่อง ใบรับประกัน เหรียญ COSC ครบ ไม่พอใจตอนตรวจสินค้ายินดีคืนเงินมัดจำให้ค่ะ (ไม่เคยมีประวัติลูกค้าไม่พอใจค่ะ)
ผมว่า นี่ผมยังไม่เห็นสินค้า และ เขาก็ยังไม่ได้สั่งสินค้ามาด้วยครับ มันยังไม่ถึงขั้นตอนที่มีของเลย แล้วอย่างนี้กติกาที่เขาตั้งขึ้นมาเล่นๆหรอครับ
ผมเลือกร้านนี้เพราะ search แล้วเจอมาเป็นร้านต้นๆจึงคิดว่าดูน่าเชื่อถือและประกอบกับร้านนี้เปิดมาได้ยังไม่ถึงปี มียอดlikeเกือบ 190,000 like จึงคิดว่าเชื่อถือได้แน่นอน ขอบคุนที่ได้เข้ามาอ่านครับ
ผมขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้และแสดงความคิดเห็นครับ
ซื้อของร้านค้า Online เสียความรู้สึกมากครับ T T อยากแชร์ประสบการณ์
พี่ชายผมเขาก็ไม่ได้คิดว่าผมจะรีบไปสั่งของ เลยไม่ได้โทรบอกผมก่อนว่า ซื้อนาฬิกามาให้แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นวันที่จะกลับพอดีเซอร์ไพรไเลย พอพี่ชายผมกลับมาถึง ผมรู้เรื่องนาฬิกา ก็ตกใจ รีบพิมพ์ไปหาเจ้าของร้านแจ้งขอยกเลิกสินค้าและได้แจ้งถึงเหตุผลที่ยกเลิก พร้อมกล่าวคำขอโทษ ซึ่งมันเป็นความบังเอิญจริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะยกเลิกสินค้าของร้าน
เขาเลยครับ และช่วงเวลาที่ผมยกเลิกทางร้านผมมั่นใจว่าทางร้านก็ยังไม่ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าแน่นอนครับ แค่รับ order ของผมไป พร้อมกับ order อื่นๆ แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ เขาแจ้งผมมาว่า สินค้าของเขาก่อนที่คนของเขาจะบินไป เขาได้ทำการสั่งจองสินค้าและใช้บัตรเครดิตมัดจำค่าสินค้าไปแล้ว 10% ถ้าเรายกเลิก เขาจะโดนหัก 5% ซึ่งมันมากกว่าเงินที่รับมัดจำจากผมอีก(มันเสี่ยงเกินไปไหมที่เขาจะรับภาระเงินส่วนที่เกินตรงนั้น?)
คนเจรจาคนแรกบอกว่าคืนมัดจำไม่ได้เพราะว่าเขาได้ส่งคนไปรูดบัตรเพื่อมัดจำสินค้าไว้แล้ว (ไปถึง Shop จะรูดมัดจำทำไมครับ ในเมื่อคุณได้มัดจำผมไปเท่ากับคุณมีออเดอร์แล้ว คุณจะเสียเวลากลับไปซื้ออีกครั้ง) สว่นคนเจรจาคนที่สองผู้ที่เป็นหุ้นส่วนบอกว่า การดำเนินการของร้านคือ ต้องอีเมลไปสอบถามสินค้าตามShop ต่างๆก่อนและจึงทำการจองมัดจำ (เท่าที่ผมสืบข้อมูลมาShop AD ไม่รับการจองสินค้าผ่านอีเมลครับ) สรุปแล้ว ร้านของเขาดำเนินงานแบบไหนกันแน่ครับ พูดไม่ตรงกันเลย
เรื่องนี้ผมเป็นคนผิดตั้งแต่ต้นผมทราบดีและไม่เคยปฏิเสธ แต่ข้อมูลที่ทางร้านแจ้งมานั้นผมได้ปรึกษา พี่ชายกับพี่สาวซึ่งก็มีเพื่อนๆที่เขามีอาชีพเหมือนกับร้านนี้เค้า confirm กับผมว่า การรับ order บินไปซื้อแบบนั้นไม่มีใครมัดจำจองค่าสินค้าทาง Shop AD ก่อนหรอกครับ ส่วนใหญ่จะบินไปและไปหาของตามร้านประจำที่คุ้นเคย และจะมัดจำจองสินค้าได้ต่อเมื่อเดินทางไปที่หน้าร้านเอง(แบบwalk in) ไม่มีการโทรเพื่อไปจองของและกรณีเปลี่ยนแบบเปลี่ยนรุ่นก็ไม่มีการหักค่ามัดจำใดๆทั้งสิ้นครับ เพราะผมได้ทำการสอบถามเช็คกับ Shop AD เรียบร้อยแล้ว
และผมก็ได้อธิบายให้กับทางเจ้าของร้านonline เข้าใจในเหตุผลของผมซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญเป็นเหตุสุดวิสัยและผมก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ครับ เจ้าของร้าน ได้เสนอทางออกให้ผมในวาจาเริ่มไม่พอใจคือ เขาให้โอกาสผม 6 เดือน สามารถสั่งซื้อสินค้าในร้านของเค้าได้รุ่นอะไรก็ได้เปลี่ยนแบบได้และเค้าจะหักเงิน 5,000 คืนผม แต่ราคาของมันไม่ใช่หลักหมื่นครับ มันหลักแสน ระยะเวลาภายใน 6 เดือนผมไม่สามารถที่จะซื้อนาฬิกา เรือนเป็นแสนได้ติดกันหรอกครับ เขากล่าวว่า “นี่พี่ให้โอกาสน้อง 6 เดือนแล้วนะค่ะ นี่พี่จองของทางADมากกว่า 5,000 ที่น้องมัดจำพี่อีก ลูกค้าบางคนยกเลิกยังขอโทษและเสียค่าชดเชยให้พี่เพิ่มอีกด้วย” แล้ววางสายผม
ผมพยายามโทรหาเขาหลายสาย จึงรับ บอกผมว่า “พี่ไม่มีเวลาคุยกับน้อง ขอทำงานก่อนค่ะ”ผมควรจะคิดมากไหม เพราะหนึ่ง เหตุผลที่ทางร้านอ้างมาเรื่องตรงค่ามัดจำตรงนี้ ผมเข้าใจ แต่ที่ผมรู้มามันไม่มีวิธีการจองที่เขาบอก และสอง ระยะเวลา 6 เดือนที่เขาให้โอกาสผม ไม่รู้ได้จะซื้อป่าว
เรื่องนี้ผมเป็นคนที่ผิดครับตั้งแต่แรก แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผมไม่เคยบ่ายเบี่ยงตอนที่เค้าแจ้งยอดมาเลยครับ ราคาเท่าไหร่ ไม่ลดเราก็ตามนั้น แจ้งยอดมัดจำ ผมก็โอนให้ทันที ซึ่งในความเห็นของผม ถ้าทางร้าน รับฟังเหตุผลและเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเห็นใจคืนเงิน 5,000 ให้กับผม ต่อให้เขาไม่พูดว่าต้องมาซื้อของร้านเขา ผมก็ต้องซื้อแน่นอนครับ ร้านค้าที่ดี จริงใจกับลูกค้า ซื้อใจผมไปเต็มๆครับ แต่ที่เค้าทำแบบนี้ผมก็เสียความรู้สึกครับประกอบกับพูดจาไม่เอาลูกค้าและมองอีกแง่นึงนะครับ ถ้าเขาบอกว่าการที่เขาให้โอกาสผม 6 เดือนเพื่อตัดสินใจซื้อสินค้าของเขาและคืนเงิน 5,000 โดยหักจากยอดซื้อ คิดให้ดีๆก็เท่ากับเขาคืนเงิน 5,000 ให้ผมอยู่ดี ถ้าเขาบอกว่าเขาเสียเงินค่าจองตรงนี้ไปแล้ว เขาใจดีเกินไปไหม เขาทำได้หรอครับ แล้วทำไมไม่คืนให้ผมตั้งแต่วันที่ยกเลิก เพราะจริงๆก็มีค่าเท่ากันและจะไม่ทำให้เสียความรู้สึกต่อกันแบบนี้ครับ
พอพี่สาวผมรุ้เรื่องเขาก็ขอเจรจาให้ โดยสนทนาทางโทรศัพท์อยู่เป็นชั่วโมง อธิบายเหตุผลของทั้งสองฝ่ายและเริ่มมีอารมณ์เล็กน้อย เมื่อถามถึงขอหลักฐานการจองใช้บัตรเครดิตว่าเขาเสียหายจริงก็จะยอมรับและให้ริบเงินไป แต่พอถาม เขาก็เงียบไปและตอบกลับด้วยเสียงไม่พอใจว่า สรุปจะคืนเงินให้ ในตอนสุดท้าย พร้อมพูดว่า “ได้เงินคืนและจะสำนึกไหมคะ แล้วช่วยสั่งสอนน้องชายด้วยนะคะว่าให้มีความรับผิดชอบ” หลังจากนั้นตัดสายพี่สาวผมไปเลยครับ
ต่อมาไม่เกิน 10 นาที โทรกลับมาบอกว่า สรุปเงินยังไม่คืนให้นะคะ ไปแจ้งกับเจ้านายแล้วเจ้านายจะคุยเอง ซึ่งถามว่าถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของร้าน คุณจะมีสิทธิมาตัดสินใจและด่าลูกค้าแบบนี้หรอครับ แล้วเขาแจ้งว่าเขาไม่ใช่เจ้าของร้าน ผม งง?มากครับ กับ ร้านนี้
ตอนพี่สาวผมสอบถามว่า ใช่คุณ(ชื่อเจ้าของร้าน)ใช่ไหมคะ เขาตอบว่าใช่ แต่ตอนที่โทรกลับมาครับ เขาบอกว่าเขาไม่ใช่เจ้าของและไม่มีสิทธิในการตัดสินใจ และเงื่อนไขของทางร้านเขา ตอนตกลงซื้อขายไม่ได้แจ้งอะไรผมเลยครับ นอกจากวันรับซึ่งถ้าเป็นกติกาของทางร้านเขาแบบนั้นจริงๆควรแจ้งอย่างเป็นทางการที่หน้าเว็บเพจครับ แต่มาแจ้งตอนที่เกิดปัญหาผมว่าใครจะอ้างยังไงก็ได้ เพื่อเป็นทางออก วันต่อมาพี่ชายได้ขอเจรจาเพื่อให้ชัดเจนอีกครั้งโดยทางร้านได้ให้เจ้านาย(ผู้ชาย) เขาแนะนำตัวว่าเป็นหุ้นส่วนของร้าน ได้มาเจรจากับพี่ชายผมใน Line อยู่เป็นชั่วโมงเขาเล่าถึงวิธีการทำงานของเขาต่างๆนาๆ สรุปได้ทำนองว่า พยายามพูดให้ผมยอมรับคำว่ามัดจำ เพราะเขาจะบอกความหมายของการมัดจำว่าคืออะไร ในวาจาที่ไม่เริ่มไม่พอใจ โดยไม่ได้รับฟังเหตุผลของลูกค้าที่เกิดขึ้น
ผมย้อนไปดูกติกาในเว็บของเขาอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อตอนแรกที่ผมสั่งซื้อ เขาได้ให้ข้อ กติกา และผมเห็นใน
ข้อ 4. สินค้าใหม่ กล่อง ใบรับประกัน เหรียญ COSC ครบ ไม่พอใจตอนตรวจสินค้ายินดีคืนเงินมัดจำให้ค่ะ (ไม่เคยมีประวัติลูกค้าไม่พอใจค่ะ)
ผมว่า นี่ผมยังไม่เห็นสินค้า และ เขาก็ยังไม่ได้สั่งสินค้ามาด้วยครับ มันยังไม่ถึงขั้นตอนที่มีของเลย แล้วอย่างนี้กติกาที่เขาตั้งขึ้นมาเล่นๆหรอครับ
ผมเลือกร้านนี้เพราะ search แล้วเจอมาเป็นร้านต้นๆจึงคิดว่าดูน่าเชื่อถือและประกอบกับร้านนี้เปิดมาได้ยังไม่ถึงปี มียอดlikeเกือบ 190,000 like จึงคิดว่าเชื่อถือได้แน่นอน ขอบคุนที่ได้เข้ามาอ่านครับ
ผมขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้และแสดงความคิดเห็นครับ