การทำกาละ แล้วไปเกิด ถือความหมายอย่างไร ไม่เป็นสัสสตทิฎฐิ

กระทู้นี้ปรารถ   กระทู้

เมื่อบอกว่าพระโสดาบันต้องเกิดอีกไม่เกิน ๗ ภพ คือภพทางใจเจอกามารมณ์อีก ๗ ครั้ง เอ๊ะ! แล้วนี่จะอธิบายยังไง
http://pantip.com/topic/31274901/comment146

ก่อนจะที่จะไปวินิจฉัย  กระทำกาละ  แล้วไปเกิดใหม่    ถือเอาความหมายอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นสัสสติทิฎฐิ   
ขอให้มาพิจารณาหลัก  พุทธธรรม   จากพระโอษฐ์เพื่อเป็นพื้นความรู้ก่อนจะไปวินิจฉัยกันต่อไป

๑.ปฎิจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ ทุก ๆ  พระสูตร  พระองค์ทรงแสดงหลักแห่งเหตุปัจจจัย  
เพราะสิ่งนี้มี  สิ่งนี้จึงมี   เป็นหลักธรรมที่แสดงถึงการเกิด และการดับของทุกข์   
เพราะพระองค์ทรงตรัสแต่เรื่องทุกข์และการดับของทุกข์

ดังที่ตรัสไว้ ใน  พระสูตร อนุราธสูตร ว่าด้วยสัตว์บุคคลไม่มีในขันธ์ ๕

อนุราธะ ทั้งเมื่อก่อนและทั้งบัดนี้ เราย่อมบัญญัติทุกข์ และความดับทุกข์

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=2586&Z=2679&pagebreak=0

นั่นย่อมหมายความว่า  ในปฏิจจสมุปบาท พระองค์ไม่ได้ตรัสถึง  
การตาย(เข้าโลง) การเกิด(จากครรภ์มารดา) ของสัตว์ บุคคลแบบข้ามภพข้ามชาติเลย

มาดูคำอธิบาย ของท่านพระพรหมคุณาภรณ์  ปราชญ์แห่งยุคปัจจุบัน
ว่าด้วยการอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาท  ในหนังสือพุทธธรรม ฉบับปรับขยาย



ท่านสรุปไว้ชัดเจนว่า   การอธิบายปฏิจจสมุปบาทแบบข้ามภพข้ามชาติ  เป็นการอธิบายตามคัมภีร์รุ่นอรรถกถา   
ในขณะที่ปฏิจจสมุปบาท ที่หมุนเวียนในชีวิตประจำวัน  เป็นพุทธประสงค์หรือเจตนารมณ์ของหลักธรรม  
โดยยืนยันด้วยการมีพุทธจน์ที่ตรัสไว้เอง

และท่านพระพรหมคุณาภรณ์ก็ได้ให้ความหมาย  ของปฏิจจสมุปบาทไว้ว่า


มิใช่เป็นการอธิบายการเกิดและตายของ "คน"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่