ถ้าซื้อคอนโดช่วงนี้ แล้วเกิดวิกฤต เศรษฐกิจตกต่ำขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น?

ราคาคอนโดที่ซื้อมาจะตกลง หรือทรงตัวเท่าเดิม?

คอนโดที่กำลังจะลงเสาเข็ม จะมีผลให้ไม่ได้สร้าง?

คอนโดที่ขายอยู่เมื่อขายไม่ออก จะลดราคาลงมามั๊ย?

พอจะมีใครทราบมั๊ยคะ?

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
วิกฤตเศรษฐกิจไทยรอบนี้อาจจะเกิดจากหนี้ภาคครัวเรือนก็ได้ครับ

ปี 2551 หนี้ภาคครัวเรือน 55% ของ GDP  ผ่านมา 5 ปีหนี้ภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นแตะ 80 % ของ GDP ไปเรียบร้อย  ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา

80% ของ GDP นี่มันประมาณเท่าไหร่ ?   ก็น่าจะราว ๆ 8 ล้านล้านบาทได้ครับ

หนี้ครัวเรือนเหล่านี้มาจากแหล่งใดบ้าง ?

ธนาคารพาณิชย์ 42%

สถาบันการเงินของรัฐ 30%

สหกรณ์ออมทรัพย์ 15%

บริษัทบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 10% และ

อื่นๆ เช่น บริษัทประกัน โรงรับจำนำ 3%

แบ่งเป็นหนี้อะไรบ้าง ?

สินเชื่อเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ 46%

สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 29% และ

สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคอื่นๆ รวมสินเชื่อเงินสดมีสัดส่วน 24%

ถ้าเศรษฐกิจไทยเกิดการชะลอตัว  หรือถ้าถึงขึ้นติดลบ  ปัญหาอาจจะเกิดได้ครับ

หากเกิด NPL สัก 15 - 20 %  แค่นี้ก็น่าจะเกิดการตั้งสำรองของธนาคารแล้วครับ (ตัวเลขไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าจะเกิน 1.6 ล้านล้านบาท)

หนี้ครัวเรือนไม่ได้ลดลงง่ายๆ  เพราะอย่างที่เห็นสัดส่วนของหนี้ครัวเรือน  ว่าส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์  กับรถยนต์  ซึ่ง  บ้านส่วนใหญ่ผ่อนยาว 20 - 30 ปี  รถยนต์อย่างต่ำ 4 ปี  ขณะที่การก่อหนี้สินใหม่ก็ยังขยายตัวอยู่  จากสินเชื่อปีนี้ที่ผ่านมา  6 - 7 เดือน

ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหา  ก็ต้องทำเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 4 - 6 % ไปเรื่อยๆ ห้ามสะดุด  คิดว่าในโลกของความเป็นจริงนั้น  สามารถทำได้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ได้จริงหรือ ?  

ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์  ตอนนี้คนส่วนใหญ่มองแล้วไม่มีอะไร

ไปดูยอดขาย (Backlog)  ซึ่งยังไม่ได้โอน  รับรู้เป็นรายได้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์   รวมๆ กันแล้วมียอดเยอะมาก   ก็เห็นแต่ละบริษัทต่างออกข่าวว่า  บริษัทตนทำยอดขาย (ยังไม่ได้โอน)  สูงสุดเป็นประวัติการณ์กันทั้งนั้น

Backlog นี้  กว่าจะรับรู้เป็นรายได้  ก็ต้องรอให้บ้าน  ทาวน์เฮ้า  ทาวน์โฮม  และคอนโดสร้างเสร็จก่อน  ซึ่งกว่าจะรับรู้เป็นรายได้ก็ต้องใช้เวลา 1 - 3 ปี  ตรงนี้แหละที่ไม่ได้ประกันว่าคนซื้อที่จองแล้ว  ทุกคนจะสามารถโอนกรรมสิทธิได้  เพราะส่วนใหญ่คนซื้ออสังหาฯ  จะใช้สินเชื่อ  ถ้าอนาคตเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ  คนซื้อเหล่านี้  อาจจะมีกู้ไม่ผ่านก็ได้  ตรงนี้แหละที่จะไปกระทบต่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  เพราะเงินที่นำมาพัฒนาโครงการนั้น  เป็นเงินกู้จากธนาคารทั้งนั้น  

เมื่อบริษัทพัฒนาอสังหาฯ  มีปัญหา  ก็จะส่งผลกระทบต่อไปยังธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ด้วย

ที่เห็นนี้ก็ 2 ปัญหาแระ

นอกจาก 2 ปัญหานี้ยังมีปัญหาอื่นๆ อีก

ดอกเบี้ยขาขึ้น  ซึ่งตรงนี้จะไปซ้ำเติมลูกหนี้  เช่น  ลูกหนี้ที่กู้ไปซื้ออสังหาฯ  ที่ดอกเบี้ยลอยตัว  ซึ่งมีสัดส่วน 46%

หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงดอกเบี้ยขาขึ้น ?  ไหนบอกว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัว  ตามตำราต้องลดดอกเบี้ยซิ  ถึงจะถูก

ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง  เช่น  

อเมริกาเริ่มฟื้น  ต่อไปคงต้องเริ่มขึ้นดอกเบี้ย  หากไทยดอกเบี้ยลดดอกเบี้ย  ส่วนต่างดอกเบี้ยไม่มากพอที่จะจูงใจ  Fund Flow ไหนออก  ตรงนี้มีผลต่อสภาพคล่อง  เพราะตอนเงินออก  ก็เอาบาทไปแลก USD  บาทในระบบก็ลดลง

โครงการของรัฐบาล  ทำให้สภาพคล่องทางการเงินลดลง  ดอกเบี้ยก็ขึ้น

การบริโภคที่เกินตัว  สร้างหนี้สร้างสิน  ตอนนี้ตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนสูงถึง 80% เมื่อเปรียบเทียบกับ GDP ฉะนั้นการลดดอกเบี้ย  ยิ่งจะไปซ้ำเติมให้เกิดการบริโภคเกินตัวมากขึ้น

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของไทย  เกิดจากการบริโภคหดตัว  เนื่องจากคนไทยมีภาระหนี้สินเยอะ  เดือนๆ หนึ่งต้องแบ่งเงินไปจ่ายสถาบันการเงิน  และภาคการส่งออกที่หดตัว  ตามประเทศคู่ค้าสำคัญๆ  เช่น  จีน  สหรัฐ  และยุโรป  แต่สถานการณ์ของประเทศคู่ค้าก็เริ่มค่อยๆ ดีขึ้น  ฉะนั้นก็จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกในอนาคต  ซึ่งจะเป็นตัวช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตแทนการบริโภคภายในประเทศ  จึงไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย

ที่สำคัญออกจากปากผู้ว่าแบงก์ชาติไทยเองเลย  คือ  นับจากนี้ดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น

ปัญหาที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอีกอย่าง  คือการส่งออกที่ขยายตัวติดลบ

การบริโภคในประเทศติดลบ  มาเจอกับการส่งออกติดลบอีก  แล้วเศรษฐกิจไทยจะเติบโตตามเป้าได้อย่างไร ?

ทั้งหมดที่ผมสาธยายมานั้น  ถ้าจัดการไม่ดี  ก็อาจจะทำให้ไทยเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในอนาคตได้  แต่ถ้าจัดการได้ดี  ก็อาจจะแค่ Solf landing คือเศรษฐกิจแค่ชะลอตัว  และสามารถประคองตัวผ่านไปได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่