* ขอออกตัวก่อนนะครับว่าเป็นความเห็นส่วนตัวและประสบการณ์ของผมครับ แค่แชร์ให้ฟังครับ *
ผมจบด้านนิเทศศาสตร์มาครับ ตอนจบมาใหม่ๆ ก็หางานในสายงาน ที่จบมาโดยตรง แต่ไม่มีที่ไหนให้โอกาสเด็กจบใหม่เลย
วันนึง.. ผมเห็นประกาศรับสมัครงาน Call Center ของค่ายมือถือแห่งหนึ่ง การันตีเงินเดือนขึ้นต่ำ
เฮ้ย ! รายได้เยอะแฮะ เด็กจบใหม่อย่างเรา รายได้เยอะขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ
ผมจึงลองสมัครเข้าไป ผ่านการ Test ต่างๆ จนได้ทำงานจริง
รายได้ (ณ ตอนนั้น) จะประกอบด้วย
เงินเดือน + ค่าครองชีพ + เบี้ยขยัน (ไม่ขาดลามาสาย) + Competency + Incentive + ค่าเข้ากะ(หลัง22.00) + ค่ารถ (เลิกหลัง 24.00)
โห.... รวมๆแล้วก็ 18,000 - 30,000
แต่กว่าจะได้ขนาดนั้นจริงๆ คุณต้องสอบ Competency ให้ผ่าน ถึงจะได้ค่า Competency
แต่เมื่อสอบ Competency ผ่าน ใช้ว่าจะได้ตังค์นะครับ
เงื่อนไขคือ... (ณ ตอนนั้น)
คุณก็ต้องรับสายลูกค้า ให้ได้ตาม Target ใน 1 เดือน (ซึ่งเยอะมาก)
คุณต้องขาย Promotion, Package ให้ได้ตามเป้า (ซึ่งเยอะมาก)
คุณต้องไม่มี Case Complaint จากลูกค้าในเดือนนั้นๆ
คุณต้องผ่านการประเมินจาก QA ด้วย
* ซึ่งส่วนใหญ่ผมได้แค่ เงินเดือน + ค่าครองชีพ อย่างเดียวซะมากกว่า นานๆถึงได้ครบทั้งหมด
วันๆนึง ก็จะเจอแต่ลูกค้าวีนใส่ โวยวายใส่ บางวันผมถึงขนาดกินข้าวไป ร้องไห้ไปก็มี แล้วถามตัวเองว่า เรามาทำอะไรที่นี่(ว่ะ)
เวลาทำงาน/วันหยุด ก็ไม่เหมือนใครๆ แทบไม่ได้เจอเพื่อน แฟน เพราะเวลาไม่ตรงกัน (แอบมีข้อดีคือ ไม่ต้องเจอรถติด ไม่เบียดเสียดใคร)
ทำไปทำมา 3 ปีแล้ว ยังไม่ได้เป็นพนง.ประจำนะครับ คุณต้องทำงาน 5 ปีขึ้นไป ถึงได้สิทธิประเมินเป็นพนง.ประจำ
ย้ำนะครับ แค่ได้สิทธิประเมินเป็นพนง.ประจำ ไม่ใช่ปรับเป็นพนง.ประจำเลย (สวัสดิการของพนง.สัญญาจ้าง กับ พนง.ประจำ มันต่างกัน)
จนวันนึง ผมไม่ไหว โดนกดดันเรื่อง Target จากบริษัท เป็นที่รองรับอารมณ์ของลูกค้า ต้องเจอลูกค้าโวยวาย ด่าใส่ทุกวันอีก
ผมสังเกตพี่ๆที่อายุงานมากแล้ว Performance ดีๆ ก็ไม่ได้เติบโตไปไหน ยังนั่งรับสายอยู่ตลอด ผมคิดว่ามันไม่ใช่แล้วซิ
ขืนทำงาน Call Center ต่อไป สภาพจิตใจผมคงแย่มาก เครียด จิตตก ผมจึงตัดสินใจลาออกครับ
(พี่ๆบางคนถึงขนาดบอกผมว่าอายุเรายังน้อย รีบหางานใหม่นะ งานนี้มันไม่โตไปไหน พี่แก่แล้วไปไหนไม่ได้ คงเก็บเงินรอทำธุระกิจ)
ช่วงลาออกมา กว่าผมจะหางานได้จริงๆ ใช้เวลาถึง 5 เดือนเต็ม
โชคดีที่ได้รับโอกาสดีๆจากบริษัทแห่งหนึ่ง ผมจึงได้ทำงานที่ตรงกับสาขาที่เรียนมา
รู้สึกมีความสุขมากๆเลยครับ ตื่นเช้ามาแล้วอยากไปทำงาน (ถึงแม้ว่ารายได้จะลดลงไปกว่าครึ่ง)
ชั่วโมงการทำงานผ่านไปเร็วมาก เฮ้ย.. เลิกงานแล้วเหรอเนี่ย ไวมาก.. (ต่างกับเมื่อก่อน นั่งรับสายมานาน ผ่านไป 2 ชม. เองเหรอ)
วันจันทร์ - วันศุกร์ ผ่านไปเร็วมากๆ วันศุกร์แล้วเหรอเนี่ย ไวจัง.. (ต่างกับเมื่อก่อน เมื่อไหร่จะถึงวันหยุดสักที ช้ามาก)
ชีวิตที่ไม่มี Target มากดดัน ไม่มีลูกค้ามาวีน มาด่าใส่ โคตรมีความสุขเลยครับ เสาร์ - อาทิตย์ ก็ได้หยุดตรงกับเพื่อนๆ ได้เจอเพื่อนๆ
ที่มาแชร์ เพราะผมเห็นประกาศรับสมัครงาน Call Center หลายๆบริษัท ณ ตอนนี้
" ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่ เงินเดือน 20,XXX ขึ้นไป พูดภาษาอังกฤษได้บวกค่าภาษาเพิ่ม 3,XXX "
เลยอยากฝากให้น้องๆ คิดดีๆ วางแผนดีๆ ก่อนนะครับ
ประสบการณ์ทำงานของ Call Center มันค่อนข้างแคบ เอาไปต่อยอดไม่ค่อยได้ครับ
ประสบการณ์ Call Center 3 ปี เอาไปต่อยอดอะไรไม่ได้เลย ฝากถึงน้องๆที่คิดจะทำงานด้านนี้ครับ
ผมจบด้านนิเทศศาสตร์มาครับ ตอนจบมาใหม่ๆ ก็หางานในสายงาน ที่จบมาโดยตรง แต่ไม่มีที่ไหนให้โอกาสเด็กจบใหม่เลย
วันนึง.. ผมเห็นประกาศรับสมัครงาน Call Center ของค่ายมือถือแห่งหนึ่ง การันตีเงินเดือนขึ้นต่ำ
เฮ้ย ! รายได้เยอะแฮะ เด็กจบใหม่อย่างเรา รายได้เยอะขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ
ผมจึงลองสมัครเข้าไป ผ่านการ Test ต่างๆ จนได้ทำงานจริง
รายได้ (ณ ตอนนั้น) จะประกอบด้วย
เงินเดือน + ค่าครองชีพ + เบี้ยขยัน (ไม่ขาดลามาสาย) + Competency + Incentive + ค่าเข้ากะ(หลัง22.00) + ค่ารถ (เลิกหลัง 24.00)
โห.... รวมๆแล้วก็ 18,000 - 30,000
แต่กว่าจะได้ขนาดนั้นจริงๆ คุณต้องสอบ Competency ให้ผ่าน ถึงจะได้ค่า Competency
แต่เมื่อสอบ Competency ผ่าน ใช้ว่าจะได้ตังค์นะครับ
เงื่อนไขคือ... (ณ ตอนนั้น)
คุณก็ต้องรับสายลูกค้า ให้ได้ตาม Target ใน 1 เดือน (ซึ่งเยอะมาก)
คุณต้องขาย Promotion, Package ให้ได้ตามเป้า (ซึ่งเยอะมาก)
คุณต้องไม่มี Case Complaint จากลูกค้าในเดือนนั้นๆ
คุณต้องผ่านการประเมินจาก QA ด้วย
* ซึ่งส่วนใหญ่ผมได้แค่ เงินเดือน + ค่าครองชีพ อย่างเดียวซะมากกว่า นานๆถึงได้ครบทั้งหมด
วันๆนึง ก็จะเจอแต่ลูกค้าวีนใส่ โวยวายใส่ บางวันผมถึงขนาดกินข้าวไป ร้องไห้ไปก็มี แล้วถามตัวเองว่า เรามาทำอะไรที่นี่(ว่ะ)
เวลาทำงาน/วันหยุด ก็ไม่เหมือนใครๆ แทบไม่ได้เจอเพื่อน แฟน เพราะเวลาไม่ตรงกัน (แอบมีข้อดีคือ ไม่ต้องเจอรถติด ไม่เบียดเสียดใคร)
ทำไปทำมา 3 ปีแล้ว ยังไม่ได้เป็นพนง.ประจำนะครับ คุณต้องทำงาน 5 ปีขึ้นไป ถึงได้สิทธิประเมินเป็นพนง.ประจำ
ย้ำนะครับ แค่ได้สิทธิประเมินเป็นพนง.ประจำ ไม่ใช่ปรับเป็นพนง.ประจำเลย (สวัสดิการของพนง.สัญญาจ้าง กับ พนง.ประจำ มันต่างกัน)
จนวันนึง ผมไม่ไหว โดนกดดันเรื่อง Target จากบริษัท เป็นที่รองรับอารมณ์ของลูกค้า ต้องเจอลูกค้าโวยวาย ด่าใส่ทุกวันอีก
ผมสังเกตพี่ๆที่อายุงานมากแล้ว Performance ดีๆ ก็ไม่ได้เติบโตไปไหน ยังนั่งรับสายอยู่ตลอด ผมคิดว่ามันไม่ใช่แล้วซิ
ขืนทำงาน Call Center ต่อไป สภาพจิตใจผมคงแย่มาก เครียด จิตตก ผมจึงตัดสินใจลาออกครับ
(พี่ๆบางคนถึงขนาดบอกผมว่าอายุเรายังน้อย รีบหางานใหม่นะ งานนี้มันไม่โตไปไหน พี่แก่แล้วไปไหนไม่ได้ คงเก็บเงินรอทำธุระกิจ)
ช่วงลาออกมา กว่าผมจะหางานได้จริงๆ ใช้เวลาถึง 5 เดือนเต็ม
โชคดีที่ได้รับโอกาสดีๆจากบริษัทแห่งหนึ่ง ผมจึงได้ทำงานที่ตรงกับสาขาที่เรียนมา
รู้สึกมีความสุขมากๆเลยครับ ตื่นเช้ามาแล้วอยากไปทำงาน (ถึงแม้ว่ารายได้จะลดลงไปกว่าครึ่ง)
ชั่วโมงการทำงานผ่านไปเร็วมาก เฮ้ย.. เลิกงานแล้วเหรอเนี่ย ไวมาก.. (ต่างกับเมื่อก่อน นั่งรับสายมานาน ผ่านไป 2 ชม. เองเหรอ)
วันจันทร์ - วันศุกร์ ผ่านไปเร็วมากๆ วันศุกร์แล้วเหรอเนี่ย ไวจัง.. (ต่างกับเมื่อก่อน เมื่อไหร่จะถึงวันหยุดสักที ช้ามาก)
ชีวิตที่ไม่มี Target มากดดัน ไม่มีลูกค้ามาวีน มาด่าใส่ โคตรมีความสุขเลยครับ เสาร์ - อาทิตย์ ก็ได้หยุดตรงกับเพื่อนๆ ได้เจอเพื่อนๆ
ที่มาแชร์ เพราะผมเห็นประกาศรับสมัครงาน Call Center หลายๆบริษัท ณ ตอนนี้
" ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่ เงินเดือน 20,XXX ขึ้นไป พูดภาษาอังกฤษได้บวกค่าภาษาเพิ่ม 3,XXX "
เลยอยากฝากให้น้องๆ คิดดีๆ วางแผนดีๆ ก่อนนะครับ
ประสบการณ์ทำงานของ Call Center มันค่อนข้างแคบ เอาไปต่อยอดไม่ค่อยได้ครับ