ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับยกฟ้อง2พิธีกรรายการคันปาก"บ๊วย-เอ๋"หมิ่นประมาท"ไผ่ ลิกค์"พานางเอกสาวไปอัพยาที่บ้าน ชี้การเอ่ยชื่อ"ไผ่ วันพอยท์"ไม่ใช่ชื่อสกุลจริง ไม่ทำให้ปชช.เข้าใจผิด ด้าน"บ๊วย"ดีใจไม่ห่วงฎีกาเพราะผู้ใหญ่คุยกันแล้ว

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.56 ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.1888/2552 ที่ นายไผ่ ลิกค์ หรือ"ไผ่ วันพอยท์" เป็นโจทก์ฟ้อง นายเชษฐวุฒิ หรือ "บ๊วย" วัชรคุณ และ น.ส.พรทิพย์ หรือ "เอ๋" วงศ์กิจจานนท์ พิธีกรรายการคันปาก ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีที่จำเลยทั้ง 2 คน ได้พูดหมิ่นประมาทออกรายการคันปาก ทำนองว่า โจทก์ พานางเอกสาวรายหนึ่งไปเสพยาเสพติดที่บ้านพัก ซึ่งล้วนแต่เป็นความเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไป เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 53 ว่า จำเลยทั้ง 2 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 โทษจำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 30 ,000 บาท แต่คำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 2 ไว้คนละ 2 เดือน ปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ซึ่งจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง
โดยศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะนำสืบว่า นอกจากโจทก์จะทำงานด้านการเมืองแล้ว ยังได้ตั้งกลุ่มแข่งรถโดยใช้ชื่อว่า “วันพอยท์” มีสมาชิกกว่า 100 คน แต่โจทก์ก็ตอบคำถามทนายความว่า ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และเอกสารต่างๆ ของโจทก์จะใช้ ชื่อ –สกุล จริง ดังนั้น การที่จำเลย กล่าวในรายการคันปาก เอ่ยชื่อ "ไผ่ วันพอยท์" ไม่ได้กล่าวชื่อ-สกุลจริง จึงไม่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า เป็นตัวโจทก์ หากประชาชนต้องการทราบก็ต้องไปสืบค้นหาเอง ดังการกระทำของจำเลยทั้ง 2 คน ยังไม่เป็นการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายโจทก์ ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย ดังนั้น การอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับยกฟ้อง
ทั้งนี้ภายหลังรับทราบคำพิพากษา ทั้ง"บ๊วย"และ "เอ๋" ต่างมีสีหน้า ยิ้มแย้มดีใจ โดย บ๊วย เชษฐวุฒิ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณศาล ถือว่าคดี จบแล้ว และไม่ห่วงเรื่องฎีกา เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้พูดคุยตกลงกันแล้ว
>>
http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%8B%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9C%E0%B9%88-%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2
ดีใจสุดขีด!"บ๊วย-เอ๋"คันปาก ศาลยกฟ้องหมิ่น"ไผ่ ลิกค์"พาสาวอัพยา
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.56 ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.1888/2552 ที่ นายไผ่ ลิกค์ หรือ"ไผ่ วันพอยท์" เป็นโจทก์ฟ้อง นายเชษฐวุฒิ หรือ "บ๊วย" วัชรคุณ และ น.ส.พรทิพย์ หรือ "เอ๋" วงศ์กิจจานนท์ พิธีกรรายการคันปาก ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีที่จำเลยทั้ง 2 คน ได้พูดหมิ่นประมาทออกรายการคันปาก ทำนองว่า โจทก์ พานางเอกสาวรายหนึ่งไปเสพยาเสพติดที่บ้านพัก ซึ่งล้วนแต่เป็นความเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไป เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 53 ว่า จำเลยทั้ง 2 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 โทษจำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 30 ,000 บาท แต่คำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 2 ไว้คนละ 2 เดือน ปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ซึ่งจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง
โดยศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะนำสืบว่า นอกจากโจทก์จะทำงานด้านการเมืองแล้ว ยังได้ตั้งกลุ่มแข่งรถโดยใช้ชื่อว่า “วันพอยท์” มีสมาชิกกว่า 100 คน แต่โจทก์ก็ตอบคำถามทนายความว่า ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และเอกสารต่างๆ ของโจทก์จะใช้ ชื่อ –สกุล จริง ดังนั้น การที่จำเลย กล่าวในรายการคันปาก เอ่ยชื่อ "ไผ่ วันพอยท์" ไม่ได้กล่าวชื่อ-สกุลจริง จึงไม่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า เป็นตัวโจทก์ หากประชาชนต้องการทราบก็ต้องไปสืบค้นหาเอง ดังการกระทำของจำเลยทั้ง 2 คน ยังไม่เป็นการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายโจทก์ ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย ดังนั้น การอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับยกฟ้อง
ทั้งนี้ภายหลังรับทราบคำพิพากษา ทั้ง"บ๊วย"และ "เอ๋" ต่างมีสีหน้า ยิ้มแย้มดีใจ โดย บ๊วย เชษฐวุฒิ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณศาล ถือว่าคดี จบแล้ว และไม่ห่วงเรื่องฎีกา เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้พูดคุยตกลงกันแล้ว
>> http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%8B%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9C%E0%B9%88-%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2