ก่อนจะโพสต์กระทู้นี้ ผมขออนุญาตแนะนำตัวละครขอสล่าปู่ เผื่อท่านที่เข้ามาทีหลังจะได้ไม่งงว่า
ผมพูดถึงมือโน้นมือนี้ มันเป็นอย่างไร ไม่เห็นจะรู้เรื่อง มันเป็นตัวละครที่มีตัวตน ไม่ใช่เรื่องสมมุติ
เพียงแต่ว่าก็ไม่อยากเปิดเผยมากนัก ยกเว้นมือ 5 ที่มักจะโชว์ตัวบ่อย ๆ คงเป็นเพราะความเห่อ
ตอนผมเข้ามาในห้องนี้ใหม่ ๆ ผมจะแนะนำตัวละครอยู่ 5 สล่า
* สล่ามือ 1 คิดว่าจะเป็นใครละครับ ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ทุกคนย่อมทราบดี
*สล่ามือ 2 คือ สล่าปู่ ที่มาของชื่อสล่าปู่ ก็เพราะเห่อความเป็นปู่เสียเหลือเกิน ไม่ใช่แก่งั๊ก เหมือนปู่ใน
จินตนาการทั่ว ๆ ไป เป็นคุณปู่อายุยังน้อย หนุ่มแน่นอยู่ครับ ว่างงานเลยมาฝึกเป็นสล่าทำกับข้าว
คำว่า "สล่า" ในภาษาเหนือหมายถึงช่างครับ ผมเอามาอนุโลมว่าผมเป็นช่างทำกับข้าว ซึ่งไม่ถูกเสียทีเดียว
คนทำกับข้าว คนเมืองเรียก พ่อครัว หรือแม่ครัวครับ
*สล่ามือ 3 เป็นผู้ชาย เป็นผู้สืบสันดาน สืบสกุล เป็นเจ้าของกิจการที่บ้าน ที่พ่อมันและมัน ช่วยกันทำขึ้นมา
*สล่ามือ 4 เป็นผู้หญิง ไม่ได้อยู่ในบ้านด้วย ไปทำกิจการเขาเอง นาน ๆ จะได้ประสานงานกันสักครัง
*สล่ามือ 5 โชว์ตัวบ่อย ๆ ครับ ใครยังไม่เห็นลองย้อนกลับไปดูได้ครับ
ขออภัยเอาเรื่องส่วนตัว มาเล่าเสียยืดยาว
อย่างวันนี้ก็เหมือนกันผมพูดถึงมือหนึ่ง ถ้าเป็นพวกเราเก่าแก่ก็จะรู้กันดี แต่ถ้าเป็นสมาชิกที่ผ่านไปผ่านมาหรือเพิ่งเข้ามาอาจจะงงได้
นี่ครับ มือห้า ทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจยิ่งกว่าทุก ๆ คนในบ้านละครับ
ทุกวันนี้ ที่บ้านถ้ามีใครได้ไปทางแปดริ้วหรือมีใครมาจากแปดริ้วมาทางเหนือ เราจะมักจะได้รับเครื่องบรรณาการอยู่เป็นประจำ
ที่ไม่เคยขาดเลย ก็จะมี 2 อย่างนี้เป็นพื้น
นี่ก็เพิ่งได้มา เมื่อ 4-5 วันก่อนนี้เอง
แต่ว่าเที่ยวนี้มีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 อย่าง คือ สายบัว ผมพูดเอาเท่ไปอย่างนั้นเองว่าเครื่องบรรณาการ
ที่แท้ก็คือ มือสี่ มักจะหาโอกาสฝากมาให้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพราะว่าทางบ้านเราหากินของพวกนี้
ลำบาก มีเงินก็ไม่อาจจะหากินได้
ถ้าเป็นอย่างนี้ผมจะไม่ได้เลยสักแอะ ถ้าเป็นมือหนึ่งก็พอจะทำได้ โดยอาศัยความที่เป็นคนภาคกลางมาก่อน
ผมก็เลยแอบ ๆ ดู มีโอกาสก็กดรูปเพื่อเอามาแบ่งกันดู เล่าสู่กันฟัง
เตรียมน้ำพริก มีพริกไทย หอมแดง กะปิ เอาลงปั่นจนละเอียด
หางกะทิ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนให้อุ่นแต่ไม่เดือด
เอาน้ำพริกที่ปั่นไว้ เทใส่ลงไป
คนให้น้ำพริกละลาย แล้วเร่งไฟเพื่อให้น้ำแกงเดือด
เสร็จแล้วก็ใส่สายบัว ที่เตรียมไว้แล้ว ลงไปต้ม
ระหว่างนั้นก็เตรียมนี่เลยครับ ตัวปรุงรสสำคัญที่ขาดไม่ได้ น้ำมะขามเปียก
ต้มไฟกลางจนสายบัวยุบตัว ปรุงเค็ม หวาน เปรี้ยว
เนื่องจากเป็นการทำตั้งแต่เมื่อวานเย็น เพื่อกะจะให้ได้กินวันนี้ จึงปิดไฟ ปิดฝาข้ามคืนทิ้งไว้ให้เข้าเนื้อ
เช้ามา ก็เลยเห็นเป็นอย่างนี้ครับ
พักโฆษณาซัก 1 ยก
มือหนึ่งขอออกสื่อ "แกงกะทิสายบัว" ติชมด้วยครับ
ผมพูดถึงมือโน้นมือนี้ มันเป็นอย่างไร ไม่เห็นจะรู้เรื่อง มันเป็นตัวละครที่มีตัวตน ไม่ใช่เรื่องสมมุติ
เพียงแต่ว่าก็ไม่อยากเปิดเผยมากนัก ยกเว้นมือ 5 ที่มักจะโชว์ตัวบ่อย ๆ คงเป็นเพราะความเห่อ
ตอนผมเข้ามาในห้องนี้ใหม่ ๆ ผมจะแนะนำตัวละครอยู่ 5 สล่า
* สล่ามือ 1 คิดว่าจะเป็นใครละครับ ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ทุกคนย่อมทราบดี
*สล่ามือ 2 คือ สล่าปู่ ที่มาของชื่อสล่าปู่ ก็เพราะเห่อความเป็นปู่เสียเหลือเกิน ไม่ใช่แก่งั๊ก เหมือนปู่ใน
จินตนาการทั่ว ๆ ไป เป็นคุณปู่อายุยังน้อย หนุ่มแน่นอยู่ครับ ว่างงานเลยมาฝึกเป็นสล่าทำกับข้าว
คำว่า "สล่า" ในภาษาเหนือหมายถึงช่างครับ ผมเอามาอนุโลมว่าผมเป็นช่างทำกับข้าว ซึ่งไม่ถูกเสียทีเดียว
คนทำกับข้าว คนเมืองเรียก พ่อครัว หรือแม่ครัวครับ
*สล่ามือ 3 เป็นผู้ชาย เป็นผู้สืบสันดาน สืบสกุล เป็นเจ้าของกิจการที่บ้าน ที่พ่อมันและมัน ช่วยกันทำขึ้นมา
*สล่ามือ 4 เป็นผู้หญิง ไม่ได้อยู่ในบ้านด้วย ไปทำกิจการเขาเอง นาน ๆ จะได้ประสานงานกันสักครัง
*สล่ามือ 5 โชว์ตัวบ่อย ๆ ครับ ใครยังไม่เห็นลองย้อนกลับไปดูได้ครับ
ขออภัยเอาเรื่องส่วนตัว มาเล่าเสียยืดยาว
อย่างวันนี้ก็เหมือนกันผมพูดถึงมือหนึ่ง ถ้าเป็นพวกเราเก่าแก่ก็จะรู้กันดี แต่ถ้าเป็นสมาชิกที่ผ่านไปผ่านมาหรือเพิ่งเข้ามาอาจจะงงได้
นี่ครับ มือห้า ทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจยิ่งกว่าทุก ๆ คนในบ้านละครับ
ทุกวันนี้ ที่บ้านถ้ามีใครได้ไปทางแปดริ้วหรือมีใครมาจากแปดริ้วมาทางเหนือ เราจะมักจะได้รับเครื่องบรรณาการอยู่เป็นประจำ
ที่ไม่เคยขาดเลย ก็จะมี 2 อย่างนี้เป็นพื้น
นี่ก็เพิ่งได้มา เมื่อ 4-5 วันก่อนนี้เอง
แต่ว่าเที่ยวนี้มีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 อย่าง คือ สายบัว ผมพูดเอาเท่ไปอย่างนั้นเองว่าเครื่องบรรณาการ
ที่แท้ก็คือ มือสี่ มักจะหาโอกาสฝากมาให้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพราะว่าทางบ้านเราหากินของพวกนี้
ลำบาก มีเงินก็ไม่อาจจะหากินได้
ถ้าเป็นอย่างนี้ผมจะไม่ได้เลยสักแอะ ถ้าเป็นมือหนึ่งก็พอจะทำได้ โดยอาศัยความที่เป็นคนภาคกลางมาก่อน
ผมก็เลยแอบ ๆ ดู มีโอกาสก็กดรูปเพื่อเอามาแบ่งกันดู เล่าสู่กันฟัง
เตรียมน้ำพริก มีพริกไทย หอมแดง กะปิ เอาลงปั่นจนละเอียด
หางกะทิ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนให้อุ่นแต่ไม่เดือด
เอาน้ำพริกที่ปั่นไว้ เทใส่ลงไป
คนให้น้ำพริกละลาย แล้วเร่งไฟเพื่อให้น้ำแกงเดือด
เสร็จแล้วก็ใส่สายบัว ที่เตรียมไว้แล้ว ลงไปต้ม
ระหว่างนั้นก็เตรียมนี่เลยครับ ตัวปรุงรสสำคัญที่ขาดไม่ได้ น้ำมะขามเปียก
ต้มไฟกลางจนสายบัวยุบตัว ปรุงเค็ม หวาน เปรี้ยว
เนื่องจากเป็นการทำตั้งแต่เมื่อวานเย็น เพื่อกะจะให้ได้กินวันนี้ จึงปิดไฟ ปิดฝาข้ามคืนทิ้งไว้ให้เข้าเนื้อ
เช้ามา ก็เลยเห็นเป็นอย่างนี้ครับ
พักโฆษณาซัก 1 ยก