สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราจบอักษรศาสตร์ ในอดีตเคยทำงานนักแปลเป็นอาขีพหลักค่ะ ปัจจุบันทำงานสอน แต่ทำงานนักแปลเป็นอาชีพเสริมค่ะ แปลtextด้านการแพทย์บ่อยพอสมควร(เพราะสามีเป็นหมอ หลายครั้งเลยได้งานจากคนรู้จักของสามี)
อาจตอบไม่ตรงคำถามมาก แต่ขอตอบที่พอเป็นประโยชน์ทีละข้อนะคะ
หนึ่ง ส่วนมากคนทำงานเป็นนักแปลเป็นเด็กสายภาษาโดยตรงอยู่แล้วค่ะ เพราะเป็นงานที่ตรงสาย และเงินดี ส่วนมากคนจบสายอื่นเขาก็จะไปทำงานสายของเขา ไม่ค่อยเป็นนักแปลเท่าไหร่
สอง หลายคนยังเข้าใจคำว่าการแปลผิด บางทีคิดว่าแค่สื่อสารอังกฤษได้ เขียนอีเมล พูดคุยกับฝรั่งได้ก็ทำงานแปลได้แล้ว อันนั้นมันแค่ระดับการสื่อสารทั่วไปค่ะที่ใครจบอะไรมาก็ทำได้หมด แต่ในกรณีการแปล มันข้ามขั้นหลายขั้นไปอีกระดับ แตกต่างกันการแค่สื่อสารเป็นโดยสิ้นเชิง ต้องมีskillภาษาในขั้นสูงพอสมควร
อย่างเช่น การแปลไทย-อังกฤษ คุณต้องทราบว่าคำแบบนี้ใช้กับสถานการณ์แบบไหน โครงสร้างsyntaxของประโยคประหลาดไหม อ่านแล้วรื่นหูไหม เป็นต้น
สาม จะแปลได้ไม่ใช่แค่แปลให้คนอ่านรู้เรื่อง แต่คิดว่าต้องเป็นคนมีsenseทางภาษา วรรณศิลป์ในระดับนึงเลยค่ะ หมายความว่า อ่านแล้วต้องทราบว่าประโยคนี้สละสลวยไหม แปลแล้วเพราะไหม เขียนและถ่ายทอดอย่างไรให้รื่นหู
การมีsenseทางภาษาไม่ใช่แค่พรสวรรค์ แต่เกิดจากการอ่านบ่อย เขียนบ่อย ส่วนตัวแล้วชอบอ่านนิยายและนสพ.ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ชอบเขียนessayและนิยายด้วย คิดว่าพวกนี้ช่วยได้เยอะเลย
สี่ textพวกวิศวะ การแพทย์ ความเห็นส่วนตัวนะคะ เราคิดว่าพวกนี้แปลไม่ยากค่ะ อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก พออ่านเข้าใจก็แปลได้ (ที่เราเคยแปลมาไม่มีที่อ่านไม่เข้าใจค่ะ ยกเว้นเกิดความสงสัยเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัวก็ถามสามี หรือศัพท์เฉพาะทางเราก็หาข้อมูลเพิ่มเอา) ที่ยากจริงๆคือtextด้านนิติศาสตร์ เพราะมีภาษากฎหมายของมันอยู่
เพื่อนที่ชอบแปลด้านนี้ เล่าว่าแปลช่วงแรกๆเขาก็ต้องให้คนสายนิติมาeditให้อีกขั้น แต่ตอนนี้เขาแปลมาหลายปีจนชินแล้วค่ะ
บริษัทที่เราแปลงานให้ นักแปลประจำส่วนมากที่แปลtextในสายอื่น ก็จบด้านอักษรฯมานี่แหละ ยกเว้นด้านนิติศาสตร์ถ้านักแปลหน้าใหม่แปลต้องฝึกและมีeditมากพอสมควรเลยค่ะ
อาจตอบไม่ตรงคำถามมาก แต่ขอตอบที่พอเป็นประโยชน์ทีละข้อนะคะ
หนึ่ง ส่วนมากคนทำงานเป็นนักแปลเป็นเด็กสายภาษาโดยตรงอยู่แล้วค่ะ เพราะเป็นงานที่ตรงสาย และเงินดี ส่วนมากคนจบสายอื่นเขาก็จะไปทำงานสายของเขา ไม่ค่อยเป็นนักแปลเท่าไหร่
สอง หลายคนยังเข้าใจคำว่าการแปลผิด บางทีคิดว่าแค่สื่อสารอังกฤษได้ เขียนอีเมล พูดคุยกับฝรั่งได้ก็ทำงานแปลได้แล้ว อันนั้นมันแค่ระดับการสื่อสารทั่วไปค่ะที่ใครจบอะไรมาก็ทำได้หมด แต่ในกรณีการแปล มันข้ามขั้นหลายขั้นไปอีกระดับ แตกต่างกันการแค่สื่อสารเป็นโดยสิ้นเชิง ต้องมีskillภาษาในขั้นสูงพอสมควร
อย่างเช่น การแปลไทย-อังกฤษ คุณต้องทราบว่าคำแบบนี้ใช้กับสถานการณ์แบบไหน โครงสร้างsyntaxของประโยคประหลาดไหม อ่านแล้วรื่นหูไหม เป็นต้น
สาม จะแปลได้ไม่ใช่แค่แปลให้คนอ่านรู้เรื่อง แต่คิดว่าต้องเป็นคนมีsenseทางภาษา วรรณศิลป์ในระดับนึงเลยค่ะ หมายความว่า อ่านแล้วต้องทราบว่าประโยคนี้สละสลวยไหม แปลแล้วเพราะไหม เขียนและถ่ายทอดอย่างไรให้รื่นหู
การมีsenseทางภาษาไม่ใช่แค่พรสวรรค์ แต่เกิดจากการอ่านบ่อย เขียนบ่อย ส่วนตัวแล้วชอบอ่านนิยายและนสพ.ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ชอบเขียนessayและนิยายด้วย คิดว่าพวกนี้ช่วยได้เยอะเลย
สี่ textพวกวิศวะ การแพทย์ ความเห็นส่วนตัวนะคะ เราคิดว่าพวกนี้แปลไม่ยากค่ะ อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก พออ่านเข้าใจก็แปลได้ (ที่เราเคยแปลมาไม่มีที่อ่านไม่เข้าใจค่ะ ยกเว้นเกิดความสงสัยเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัวก็ถามสามี หรือศัพท์เฉพาะทางเราก็หาข้อมูลเพิ่มเอา) ที่ยากจริงๆคือtextด้านนิติศาสตร์ เพราะมีภาษากฎหมายของมันอยู่
เพื่อนที่ชอบแปลด้านนี้ เล่าว่าแปลช่วงแรกๆเขาก็ต้องให้คนสายนิติมาeditให้อีกขั้น แต่ตอนนี้เขาแปลมาหลายปีจนชินแล้วค่ะ
บริษัทที่เราแปลงานให้ นักแปลประจำส่วนมากที่แปลtextในสายอื่น ก็จบด้านอักษรฯมานี่แหละ ยกเว้นด้านนิติศาสตร์ถ้านักแปลหน้าใหม่แปลต้องฝึกและมีeditมากพอสมควรเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ที่บอกกันว่าจบอะไรมาก็ทำงานแปลได้นี่จริงหรือคะ ทำไมเจอแต่คนจบสายภาษาโดยตรงที่ทำกัน มีหมอพยาบาลท่านใดแปลงานเป็นไหม
พอดีว่าจบด้านอื่นมา(ครั้งนึงเคยอยากเข้าคณะมนุษย์ อักษร แต่จับพลุดจับผลูได้เรียนรัฐศาสตร์ และซิ่วอีกทีเพราะได้ทุนเรียนด้านวิทย์สุขภาพ เลยมาเรียนวิทย์สุขภาพ แต่ยังสนใจการแปลอยู่ และพักนี้ต้องทำงานที่ต้องติดต่อบริษัทแปล และนักแปลเยอะมาก)
ส่วนตัวเรียนจบตปท.มาด้วย อ่านtextอังกฤษด้านการแพทย์พวกนี้รู้เรื่องหมดนะคะ แต่ลองแปลดูแล้ว เอ้อ มันยากจริงๆ บอกตรงๆดิฉันแปลไม่ได้ ตอนแรกเคยอยากแปลtextด้านการแพทย์เป็นอาชีพเสริมเพราะทราบว่างานนักแปลได้เงินดีมาก เคยพยายามหลายครั้งนะคะก็แปลไม่ได้ ไม่ทราบว่าจะขัดเกลา จะเขียนเรียบเรียงออกมาอย่างไร สุดท้ายเวลาจะแปลพวกนี้ก็ต้องเอาไปให้คนที่จบเอกภาษาเขาแปลให้ทุกครั้ง
ตอนนี้ที่ทำงานติดต่อนักแปลบริษัทแปล เป็นtextการแพทย์นะคะ หาหมอหลายคนมากให้แปลให้ คือ ก็ไม่มีใครรับแปล บอกว่าอ่านรู้เรื่องนะ แต่แปลไม่เป็น ไม่รู้จะแปลยังไง สุดท้ายไปเจอหมอที่ภรรยาเป็นนักแปล เลยให้ภรรยาเขาที่จบสายภาษามาแปลให้
พอติดต่อบริษัทแปลเพื่อแปลtextฉบับอื่น สุดท้ายคนที่แปลให้ก็จบสายภาษามาอีก หาคนจบสายนี้มาแปลไม่ได้ เขาบอกหาคนแปลเป็นยาก ที่แปลกคือเด็กสายภาษาเขาแปลได้และแปลออกมาดีมาก
บ่นมานาน เข้าเรื่องนะคะ อยากทราบว่าถ้าดิฉันซึ่งจบสายอื่นมา อยากข้ามขั้นไปแปลได้ต้องฝึกฝนขนาดไหน เวลาจะเขียนแต่ละอย่างออกมาบอกจริงๆไม่ทราบว่าจะสละสลวยไหม เคยแปลให้ว่าที่สามีอ่านเขาก็บอกไม่รู้เรื่อง เขาจบด้านกฎหมายมาเคยอยากช่วยแปลเอกสารกฎหมายให้ก็ทำไม่ได้อีก