อยากจะฝากเตือนมารยาทในการเดินทางด้วยรถทัวร์โดยสารของน้องๆคะ

เมื่ออาทิตย์ก่อน มีโอกาสได้ไปงานบวชที่จังหวัดภูเก็ต  เดินทางไปกับพ่อ 2 คน เวลาประมาณ 1ทุ่ม
หลังเลิกงานก็ไปขึ้นรถทัวร์ที่สายใต้ปกติ พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ ชีวิตก็หาความสงบสุขไม่ได้อีกเลยคะ

เหตุการณ์มีอยู่ว่า เรานั่งรถทัวร์กรุงเทพ - ภูเก็ต เป็นรถ ป.1 มี 2 ชั้น วันนั้นรถเต็มทุกที่นั่ง  เดินทางตั้งแต่ 1ทุ่ม ถึงที่หมาย 7โมงเช้าของอีกวัน
พ่อเราซึ่งมีอายุมากแล้วได้เดินทางมาจองตั๋วตอนบ่ายโมง  แกจองชั้นล่าง เพราะแกบอกว่าเดินขึ้นชั้นบนไม่ไหว เราก็โอเค แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบนั่งล่างเพราะมันเหม็นห้องน้ำมากๆ
ทีนี้พอเข้ามานั่ง ระหว่างรอคนขึ้นรถทัวร์ ก็นั่งเล่นมือถือรอไปพลางๆ ชั้นล่าง มี 8 ที่นั่ง นั่งเป็นคู่ๆ เราก็นั่งกับพ่อ
หลังจากนั้น มีกลุ่มเด็กวัยรุ่น ประมาณ 6 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 3 คน กระเทย 3 คน อายุประมาณ 20-22ปี เรียนอยู่มหาลัยชื่อดังแห่งนึง(ของรัฐ)
น่าจะอยู่ประมาณ ปี 3-4ได้ ก็เข้ามานั่งด้วย  ตอนแรกเราก็สบายใจ พ่อเราก็ยิ้ม มีเด็กมานั่งด้วยก็คงจะดี   แต่!!!! คิดผิดมหันต์ !!!! เพราะ
หายนะกำลังจะเกิดขึ้น ในไม่ช้านี้

พอรถเริ่มออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ภูเก็ต เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ ก็พูดคุยกันตามประสาเพื่อนๆ เม้าส์มอยไปเรื่อย  เด็กคนนึงก็บ่นว่าแอร์ไม่เย็นเลย(เหมือนแอร์มันมีปัญหา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับร้อน นอนไม่ได้ ) แล้วเด็กมันก็โม้ต่อ แรกๆก็เบาๆและเริ่มดังขึ้นๆเรื่อยๆ จนหัวเราะคิกคัก กริ้ดกร๊าดวี้ดว๊าย เราก็หันไปมอง ก็ไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ไม่มีความเกรงใจเลยผู้ใหญ่นั่งอยู่ถึง 2คน ถ้าเป็นสุภาษิตสมัยก่อนก็คงจะเปรียบว่า "ผีเจาะปากมาให้พูดหรอ"  เราเลยคิดว่าข่มตานอนดีกว่า เอาแบบหลับตื่นมาพรุ่งนี้เลย จะได้ไม่ต้องมาได้ยินเสียงเด็กพวกนี้  แล้วก็หลับไม่ลง เพราะเสียงมันดังมาก มากจนเวียนหัว ทีนี้มันพูดอีก โอ้ยแอร์ไม่เย็นเลย เราเลยคิดในใจว่า ถ้าน้องหุบปาก ไม่ใช้พลังงานไปกับการพูดแอร์มันก็เย็น แล้วมันก็พูดต่อว่า งั้นเราหาเรื่องเม้าส์กันต่อเถอะ  เราเลยคิดว่า เวรแล้วไง  เลยเอาหูฟังมาใส่หู เราหันไปมองพ่อ พ่อก็ส่ายหัวบอกว่าไม่ไหวเลยเด็กสมัยนี้  แล้วกลั้นใจข่มตานอนอีกครั้ง แต่ก็หลับไม่ลง  ทีนี้  พ่อเราเลยบอกว่าเดี่ยวพ่อไปเข้าห้องน้ำก่อน แต่ที่ไหนได้ แกไปนั่งอยู่ตรงบันได แกรำคาณเสียงเด็กพวกนี้
ที่นี้ถึงจุดพักรถ ประมาณ ตี 2 ได้
เราก็ลงไปหาอะไรกิน  เลยถามพ่อว่าจะว่าเลยดีมั้ย เด็กมันจะได้หุบปากสักที พ่อบอกอย่าเลย ช่างมัน มันอยากพูดก็ปล่อยมันพูดไป คนเราโตๆแล้วมันน่าจะคิดได้ พอกลับขึ้นรถ คิดว่าเดี๋ยวสักพักมันคงจะนอน แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด มันลงไปกินข้าวเสร็จ กลับมามีแรงพูดต่อ มันก็พูดๆจน มี 1ในเด็กกลุ่มนั้นพูดออกมาว่า  จะตี 5แล้ว "กุว่านอนกันเถอะ" ในใจเราคิด น่าจะนอนตั้งนานแล้วนะ  สักพักเสียงก็ค่อยๆเงียบลง กลับเข้าสู่สภาวะปกติ  
พอตอนเช้า มันลงรถไปพ่อบอกว่า ลงไปได้สักที ไม่ไหวเลย เด็กสมัยนี้  สงสารแกมาก เพราะแกเป็นโรคหัวใจด้วย
สรุปเลย พ่อบอกไม่ได้นอนทั้งคืนตลอด 12ชั่วโมงของการเดินทาง

เลยอยากจะฝากเตือนกลุ่มน้องๆวัยรุ่น  การที่น้องมาเดินทางสาธารณะ น้องไม่ได้เดินทางแค่กับกลุ่มเพื่อน แต่ยังมีผู้โดยสารท่านอื่นร่วมเดินทางไปกับน้อง เพราะฉะนั้น ควรจะมีมารยาทในการใช้รถสาธารณะ ไม่รบกวน ผู้โดยสารท่านอื่น  มีความเกรงใจ นึกถึงใจเขาใจเรา ไม่ใช่ว่าเอาแต่สนุก โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง เพราะน้องไม่ได้ใช้ชีวิตในโลกนี้เพียงคนเดียว หรือเพียงกับเพื่อน 6คน ฝากไว้ให้คิดด้วยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่