ข้อความเต็มๆ กระทู้นี้ คือ
วิญญาณฐิติ ๔ - วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ เนื่องกับ (วิญญาณ) ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน (คือ วิญญาณนั้นคืออุปาทาน= วิญญูปาทานักขันธ์ ตัวทุกข์อริยสัจ) อย่างไร?
^^^^^^^^^
อาสัย 4 พระสูตร
(๑) วิญญาณฐิติ ๔ --------------------------------- ขนฺธ สํ ๑๗/๖๗/๑๐๖-๑๐๗ (สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๐๕-๒๐๗)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
วิญญาณ (ธาตุ ๖ หรือ วิญญาณขันธ์ ๖) เมื่อ ทำหน้าที้เป็นพืช (สด --- ผมเพิ่มเองคำว่ สด)
(๒) วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ ---------------------------------- มหา ที ๑๐/๘๑-๘๓/๖๕ (สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๖๖๓-๖๖๕)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
ผู้ปัญญาวิมุตต์ อีกนัยหนึ่ง
(๓) ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน --------------------------------- อุปริ ม ๑๔/๑๐๑/๑๒๑ ((สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๑๓)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
อุปาทาน กับอุปาทานขันธ์ มิใช่อันเดียวกัน
---- แต่อุปาทานนั้น ก็มิได้มีในที่อื่น นอกไปจาก ปัญจุปาทานักขันธ์ทั้งหลาย
เพราะว่า ตัว ฉันทะราคะ (อาการ ?) ที่มีอยู่ใน ปัญจุปาทานักขันธ์ นั่นแหละ คือ ตัวอุปาทาน
(๔) วิญญาณนั่นคืออุปาทาน --------------------------------------- สูตรที่ ๕ โลกกามคุณวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๒๘/๑๗๘
สูตรที่ ๖ โลกกามคุณวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๒๙/๑๘๑
สูตรที่ ๑ คหปติวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๓๗/๑๙๑
ดูในปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๑๗-๒๐
^^^^^^^^^^^^^^^^
พระบาลีพุทธภาษิต ---- วิญญาณํ โหติ ตทุปาทานํ ฯ ------------- ท่านพุทธทาสแปลไว้ (ในวงเล็บผมเพิ่มเอง)
---- ถ้าหากว่า ภิกษุย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป นั้น แล้วไซร้
(อันเนื่องมาจาก กิริยาที่รู้แจ้งรูปนั้นด้วยตา (จักขุวิญญาณ) / ตรัสครบ วิญญาณหก - ผมเพิ่มตรงนี้เอง)
---- เมื่อภิกษุนั้น เพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะรูปนั้น
(จะกี่ วินาทียกไว้ --แล้วเนื่องกับ (๑) ยังมี จิตอนุเสติในรูป (๒) มีมโนปวิจาร ๑๘ เพระยังมี อวิชชา - ตรงนี้ผมเพิ่มเอง)
--- วิญญาณนั้น อันตัณหา ในอารมณ์คือรูป อาสัยแล้ว ย่อมมีแก่เธอ
(เพราะมีเวทนาในรูป เป็นปัจจัย จึงมีตัณหา - วิญญาณจึง ตั้งอยู่ที่ เวทนา = วิญญาณฐิติ ๔ นั่นเอง - แล้ว เนื่องกับ วิญญาณบิติ ๗ อายตนะ ๒ ?- ตรงนี้ผมเพิ่มเอง)
วิญญาณนั้น คืออุปาทาน
************************
วิญญาณนั้น คืออุปาทาน -------------------------------- อุปาทาน ---------------------- กับ อุปาทานขันธ์---------------------มิใช่อันเดียวกัน แต่มิอื่นจากกัน
เพราะมีตัณหา จึงมีอุปาทาน ฉันทราคะที่มีในอุปาทานขันธ์
ฉันทะราคะ คืออุปาทาน
ประเด็นที่ ๑
วิญญาณ (ที่ตรัสว่า วิญญาณนั้น คืออุปาทาน) ในกรณีนี้ ตามที่อ้าง
ทรงหมายถึง ----- "หมู่วิญญาณหก ที่กำลัง ทำกิจคือ รู้แจ้ง อายตนะนอก" ---------------------- ใช่หรือไม่? ---------- ถ้าใช่ = วิญญาณขันธ์ ? (ขันธ์)
วิญญาณหก ที่กำลังมีอาการ เพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะ คู่ของมันนั้น = ----------------- วิญญูปาทานักขันธ์ ? (อุปาทานขันธ์)
ประเด็นที่ ๒
จากประเด็นที่ ๑ ขันธ์ อุปาทานขันธ์ ---------(กำหนด ที่ วิญญาณ) ---------------------------- เนื่องกับ วิญญาณฐิติ ๔ หรือไม่? ถ้าเนื่อง เนื่อง ? (อธิบาย)
เนื่องกับ วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ หรือไม่? ถ้าเนื่อง เนื่อง ? (อธิบาย)
(ดู ที่ตรัส วิญญาณฐิติ เนื่องกับ ?)
กระทู้นี้ ๔ หัวข้อสนทนา ------------------------------------------------------------------------ (จะเนื่องกับ ขันธ์๑ ขันธ์ ขันธ์ ๕ ขันธ์ ในมุมมองที่แตกต่างจากกระแสหลัก)
^^^^^^^^^^^ ไม่ ใช่ประเด็น กระทู้นี้ ^^^^^^^^^^^^^^
วิญญาณฐิติ ๔ - วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ เนื่องกับ วิญญาณนั้นคืออุปาทาน ?
วิญญาณฐิติ ๔ - วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ เนื่องกับ (วิญญาณ) ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน (คือ วิญญาณนั้นคืออุปาทาน= วิญญูปาทานักขันธ์ ตัวทุกข์อริยสัจ) อย่างไร?
^^^^^^^^^
อาสัย 4 พระสูตร
(๑) วิญญาณฐิติ ๔ --------------------------------- ขนฺธ สํ ๑๗/๖๗/๑๐๖-๑๐๗ (สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๐๕-๒๐๗)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
วิญญาณ (ธาตุ ๖ หรือ วิญญาณขันธ์ ๖) เมื่อ ทำหน้าที้เป็นพืช (สด --- ผมเพิ่มเองคำว่ สด)
(๒) วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ ---------------------------------- มหา ที ๑๐/๘๑-๘๓/๖๕ (สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๖๖๓-๖๖๕)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
ผู้ปัญญาวิมุตต์ อีกนัยหนึ่ง
(๓) ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน --------------------------------- อุปริ ม ๑๔/๑๐๑/๑๒๑ ((สำนวนแปลหนึ่ง อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๑๓)
ท่านพุทธทาส แปลพระสูตรนี้ ตั้งหัวข้อว่า
อุปาทาน กับอุปาทานขันธ์ มิใช่อันเดียวกัน
---- แต่อุปาทานนั้น ก็มิได้มีในที่อื่น นอกไปจาก ปัญจุปาทานักขันธ์ทั้งหลาย
เพราะว่า ตัว ฉันทะราคะ (อาการ ?) ที่มีอยู่ใน ปัญจุปาทานักขันธ์ นั่นแหละ คือ ตัวอุปาทาน
(๔) วิญญาณนั่นคืออุปาทาน --------------------------------------- สูตรที่ ๕ โลกกามคุณวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๒๘/๑๗๘
สูตรที่ ๖ โลกกามคุณวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๒๙/๑๘๑
สูตรที่ ๑ คหปติวรรค สฬายตนสังยุตต์ สฬา สํ ๑๘/๑๓๗/๑๙๑
ดูในปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๑๗-๒๐
^^^^^^^^^^^^^^^^
พระบาลีพุทธภาษิต ---- วิญญาณํ โหติ ตทุปาทานํ ฯ ------------- ท่านพุทธทาสแปลไว้ (ในวงเล็บผมเพิ่มเอง)
---- ถ้าหากว่า ภิกษุย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูป นั้น แล้วไซร้
(อันเนื่องมาจาก กิริยาที่รู้แจ้งรูปนั้นด้วยตา (จักขุวิญญาณ) / ตรัสครบ วิญญาณหก - ผมเพิ่มตรงนี้เอง)
---- เมื่อภิกษุนั้น เพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะรูปนั้น
(จะกี่ วินาทียกไว้ --แล้วเนื่องกับ (๑) ยังมี จิตอนุเสติในรูป (๒) มีมโนปวิจาร ๑๘ เพระยังมี อวิชชา - ตรงนี้ผมเพิ่มเอง)
--- วิญญาณนั้น อันตัณหา ในอารมณ์คือรูป อาสัยแล้ว ย่อมมีแก่เธอ
(เพราะมีเวทนาในรูป เป็นปัจจัย จึงมีตัณหา - วิญญาณจึง ตั้งอยู่ที่ เวทนา = วิญญาณฐิติ ๔ นั่นเอง - แล้ว เนื่องกับ วิญญาณบิติ ๗ อายตนะ ๒ ?- ตรงนี้ผมเพิ่มเอง)
วิญญาณนั้น คืออุปาทาน
************************
วิญญาณนั้น คืออุปาทาน -------------------------------- อุปาทาน ---------------------- กับ อุปาทานขันธ์---------------------มิใช่อันเดียวกัน แต่มิอื่นจากกัน
เพราะมีตัณหา จึงมีอุปาทาน ฉันทราคะที่มีในอุปาทานขันธ์
ฉันทะราคะ คืออุปาทาน
ประเด็นที่ ๑
วิญญาณ (ที่ตรัสว่า วิญญาณนั้น คืออุปาทาน) ในกรณีนี้ ตามที่อ้าง
ทรงหมายถึง ----- "หมู่วิญญาณหก ที่กำลัง ทำกิจคือ รู้แจ้ง อายตนะนอก" ---------------------- ใช่หรือไม่? ---------- ถ้าใช่ = วิญญาณขันธ์ ? (ขันธ์)
วิญญาณหก ที่กำลังมีอาการ เพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะ คู่ของมันนั้น = ----------------- วิญญูปาทานักขันธ์ ? (อุปาทานขันธ์)
ประเด็นที่ ๒
จากประเด็นที่ ๑ ขันธ์ อุปาทานขันธ์ ---------(กำหนด ที่ วิญญาณ) ---------------------------- เนื่องกับ วิญญาณฐิติ ๔ หรือไม่? ถ้าเนื่อง เนื่อง ? (อธิบาย)
เนื่องกับ วิญญาณฐิติ ๗ อายตนะ ๒ หรือไม่? ถ้าเนื่อง เนื่อง ? (อธิบาย)
(ดู ที่ตรัส วิญญาณฐิติ เนื่องกับ ?)
กระทู้นี้ ๔ หัวข้อสนทนา ------------------------------------------------------------------------ (จะเนื่องกับ ขันธ์๑ ขันธ์ ขันธ์ ๕ ขันธ์ ในมุมมองที่แตกต่างจากกระแสหลัก)
^^^^^^^^^^^ ไม่ ใช่ประเด็น กระทู้นี้ ^^^^^^^^^^^^^^