"นอบน้อมแด่ พุทธธรรมสงฆ์ อันเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า"
********
เหตุ ๘ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญาอันเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
1.อาศัยพระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจรรย์รูปใด รูปหนึ่งผู้ตั้งอยู่ในฐานะครู
2.เมื่ออาศัยพระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจรรย์เป็นครูแล้วเข้าไปหาไต่ถาม สอบถามว่าธรรมนี้เป็นอย่างไร เนื้อความแห่งธรรมนี้เป็นอย่างไร เพื่อบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
3.เมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว ย่อมยังความสงบ ๒ อย่าง คือ ความสงบกายและ ความสงบจิต ให้ถึงพร้อม
4.เป็นผู้มีศีล สำรวมระวังในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
5.เป็นพหูสูต ทรงจำสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก ทรงจำไว้คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงาม ในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
6.ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรม เพื่อความพร้อมมูลแห่งกุศลธรรม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม
7.ไม่พูดเรื่องต่างๆ ไม่พูดเรื่องไม่เป็นประโยชน์ ย่อมแสดงธรรมเองบ้าง ย่อมเชื้อเชิญผู้อื่นให้แสดงบ้าง ย่อมไม่ดูหมิ่นการนิ่งอย่างพระอริยเจ้า
8.พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมในอุปาทานขันธ์ ๕ ว่า รูปเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็นดังนี้ ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็น ดังนี้ ... สัญญาเป็นดังนี้ ... สังขารทั้งหลายเป็นดังนี้ ... วิญญาณเป็นดังนี้ ความ เกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้
เนื้อหาเต็ม "ปัญญาสูตร"
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=3111&Z=3197 
เหตุ ๘ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญาอันเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
********
เหตุ ๘ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญาอันเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
1.อาศัยพระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจรรย์รูปใด รูปหนึ่งผู้ตั้งอยู่ในฐานะครู
2.เมื่ออาศัยพระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจรรย์เป็นครูแล้วเข้าไปหาไต่ถาม สอบถามว่าธรรมนี้เป็นอย่างไร เนื้อความแห่งธรรมนี้เป็นอย่างไร เพื่อบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
3.เมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว ย่อมยังความสงบ ๒ อย่าง คือ ความสงบกายและ ความสงบจิต ให้ถึงพร้อม
4.เป็นผู้มีศีล สำรวมระวังในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
5.เป็นพหูสูต ทรงจำสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก ทรงจำไว้คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงาม ในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
6.ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรม เพื่อความพร้อมมูลแห่งกุศลธรรม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม
7.ไม่พูดเรื่องต่างๆ ไม่พูดเรื่องไม่เป็นประโยชน์ ย่อมแสดงธรรมเองบ้าง ย่อมเชื้อเชิญผู้อื่นให้แสดงบ้าง ย่อมไม่ดูหมิ่นการนิ่งอย่างพระอริยเจ้า
8.พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมในอุปาทานขันธ์ ๕ ว่า รูปเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็นดังนี้ ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็น ดังนี้ ... สัญญาเป็นดังนี้ ... สังขารทั้งหลายเป็นดังนี้ ... วิญญาณเป็นดังนี้ ความ เกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้
เนื้อหาเต็ม "ปัญญาสูตร"
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=3111&Z=3197