ผมมีอิสรภาพทางการเงินจากหุ้นที่คนไม่สนใจเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

กระทู้สนทนา
ไม่น่าเชื่อว่าหุ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นหุ้นหมดอนาคตไม่มีคนเหลียวแล และ มีปัญหามากมายจากภาษีน้ำตาล และ ยอดขายที่ตกลงจากหวยชาเขียวที่ไม่เวิร์คแล้ว กลับทำให้ผมมีอิสรภาพทางการเงินได้ในทุกวันนี้ ผมกำลังพูดถึงหุ้นอิชิตันครับ

เท้าความก่อนนะครับ ก่อนหน้าที่ผมจะมีเงินมาลงทุนหุ้น ICHI พอร์ตผมก้าวกระโดดจากหุ้น SGP หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิตผมตัวแรกครับ ผมถัวหุ้นที่ราคา 11 บาทกว่าผมทนถือตัวนี้เกือบ 4 ปี ด้วยเงินเกือบทั้งหมดของผมที่สะสมมาจากการลงทุนตั้งแต่ปี 2008 ตอนนั้นเงินเริ่มต้นผมอยู่ที่ 1 ล้านบาทแล้วค่อยๆเพิ่มเป็น 5 ล้านและผมเก็บกำไรมาเรื่อยๆที่ละน้อยๆ ไม่เคยได้กำไรจากหุ้น 1 ตัวเกิน 30% เลยครับ ( ตอนนั้นผมแทบไม่เข้าใจการลงทุนแบบ VI อย่างถ่องแท้เลยครับ ทั้งๆทีช่วงเริ่มลงทุนผมก็ซื้อหนังสือตีแตกของท่านอาจารย์นิเวศมาอ่านแล้ว ) ตอนนั้นผมมองว่า SGP มีอนาคตจากการซื้อคลังเก็บแก๊ส 2 แห่งที่จีนและราคายังถูกผมเลยสะสมมาเรื่อยๆแล้วก็รอครับ ด้วยความเชื่อของผมพอถึงเวลาของมัน หุ้นก็ค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปจาก 9 บาทขึ้นไปพีคที่ราคา32 บาท ( ราคาก่อนแตกพาร์ ) ผมขายเฉลี่ยไปที่ราคา 29 บาทครับ จากนั้นผมก็เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนต่อกับอิชิครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนจะไปต่อมาดูพอร์ตตอนติดลบกันก่อนนะครับ
ปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ " ถ้าคุณทนเห็นพอร์ตคุณ -50% ไม่ได้ ก็อย่ามาเล่นหุ้น "
ผมก็ทำตามท่านสอนไว้เป๊ะๆเลยครับ ทนถือขาดทุนด้วยความเชื่ออะไรบางอย่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมจำได้เวลานั้นผมเข้ามาอ่านในพันทิพย์มีแต่คนด้อยค่าอิชิ แต่ผมกลับคิดต่างเพราะผมเห็นอะไรบางอย่างจากการที่ได้อ่านหนังสือของคุณตันชื่อ "วิถีไม่ตัน" อ่านจบผมรู้สึกนับถือในความใจสู้ และ ไม่ยอมแพ้ของคุณตันตั้งแต่เอาหนังสือใส่รถทัวร์จากกรุงเทพฯไปขายที่ชลบุรีแล้วเจอฝนตกหนังสือเสียหายจนหมดก็ยังไม่ยอมแพ้ไปกู้เงินมาทำต่อจนแผงหนังสือประสบความสำเร็จด้วยความขยันของคุณตันเอง และ สามารถต่อยอดเปิดร้านเครื่องเขียน และ ทำอสังหาริมทรัพย์จนมีทรัพย์สินระดับนึง แต่ก็มาสะดุดเพราะปี 40 เป็นหนี้สินหลักร้อยล้านจากการลงทุนอสังหาแต่คุณตันก็ไม่ยอมแพ้ไปเปิดร้านถ่ายรูปwedding และ ต่อมาก็ทำโออิชิบุฟเฟ่ต์จากนั้นก็มาเป็นชาเขียวโออิชิ และ มาเป็นอิชิตันอย่างทุกวันนี้.....เรื่องราวการสู้ชีวิตของคุณตันมันค่อนข้างยาวมาก ผมขอสรุปสั้นๆแค่นี้แล้วกันครับ ใครยังไม่เคยอ่านไปหาอ่านกันเอาเองนะครับ.... ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้มีนักลงทุนอ่านกันเยอะแหละแต่อาจมีไม่กี่คนที่อินกับหนังสือเหมือนผม เพราะเวลาผมอ่านหนังสือผมจะอ่านไปถึงความคิดและความรู้สึกของผู้เขียน ณ.เวลานั้นด้วยครับ

ตอนนั้นผมเลือกหุ้นอยู่ 2-3 ตัวตัวแรกคือ อิชิ อีกตัวนึงคือ LPN เพราะมีปันผลดี แต่สาเหตุที่ผมเลือกอิชิเพราะช่วงนั้นผมสามารถรับความเสี่ยงได้ ผมลงเงินเกือบทั้งหมดไปกับหุ้นอิชิแค่ตัวเดียวเพราะผมมีความเชื่อว่าคุณตันสามารถชุบชีวิตอิชิกลับมาได้ ( การลงทุนแบบผมไม่ควรลอกเลียนแบบนะครับ บอกเลยว่ามีความเสี่ยงมาก ถ้าไม่มั่นใจในตัวเองจริงๆอย่าทำนะครับ )

ระหว่างทางที่ผมถือ ICHI ผมได้มีการขายหุ้นออกไปบ้างระหว่างทางช่วงที่หุ้นขึ้นไปพีค 18บาทกว่า แต่เป็นจำนวนไม่มาก ตอนนั้นผมไม่ได้โฟกัสไปที่ราคาหุ้น ผมโฟกัสไปที่ เงินปันผล กับ พื้นฐานเป็นหลักว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือป่าว....เอาจริงๆถ้าผม Focus ไปที่ราคาหุ้นผมน่าจะขายไปตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วแล้วครับ เพราะราคาหุ้นขึ้นมา 1 เด้งของต้นทุนผม แล้วถ้าผมขายออกไป ผมก็อาจจะไม่ได้กลับมาซื้อหุ้นตัวนี้อีกก็ได้ครับ.....

....เพราะนิสัยนักลงทุนทุกคนรวมทั้งผมด้วย เวลาขายหุ้นได้กำไรแล้วมักจะเหลิงคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว และ ช่วงเวลานั้นมักจะทำอะไรที่ผิดพลาดด้วยการเอาเงินที่เรากำไรมาไปลงทุนในสิ่งที่เราไม่เข้าใจจริงๆ จนทำให้กำไรที่สะสมมากหายเกลี้ยงครับ ดีไม่ดีทุนเราก็อาจจะไม่เหลือไปด้วยนะครับ ผมเลยไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ผมไมได้ขายในราคาที่สูงที่สุดครับ....

ผมมาลองคำนวณเงินปันผลที่ผมได้รับในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา.... ถ้าเอาเงินปันผลรวมกับ Capital gains ณ. วันนี้ เท่ากับผลตอบแทน 14.9 % ทบต้นครับ..
อาจจะไม่ได้มากเมื่อเทียบกับปรมาจารย์หลายๆท่าน แต่ผมรู้สึกว่าผมสามารถเอาชนะตลาดได้ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาได้ผมก็ดีใจแล้วครับ เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ตลาดเป็นขาลงตลอด ลงทุนตัวไหนก็ขาดทุน ICHI เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดถือว่าลงน้อยมากแล้วครับ

หุ้น ICHI ที่ผมถืออยู่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เงินปันผลที่ผมได้รับช่วง 7ปีที่ผ่านมา ลองเอามาคำนวณเป็นผลตอบแทนทบต้นครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมอยากจะสรุปง่ายๆกับการลงทุนแบบของผมนะครับ

1. อย่ามองข้ามทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามาครับ บางครั้งสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น หรือ เห็นแต่ไม่ให้ความสำคัญ อาจเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราก็ได้นะครับ และ ถ้าโอกาสนั้นมาถึง และ เราเห็นมัน พยายามคว้ามันไว้ให้มั่นๆครับ เพราะโอกาสทองไม่ได้ผ่านมาบ่อยๆครับ

2. สิ่งที่ผมให้ความสำคัญในการลงทุนมากที่สุดคือผู้บริหารครับ.....มองให้ออกว่าสิ่งที่ผบห.สื่อออกมาไม่ว่าใน Oppday หรือตามสื่อต่างๆว่า ผบห. มีความจริงใจแค่ไหนหรือแค่พูดสวยๆไปอย่างนั้นเอง แต่พอทำจริงกลับทำไม่ได้อย่างที่พูด สิ่งนี้ไม่ได้มองออกง่ายๆนะครับต้องดู Oppday ทุกครั้งหลายๆไตรมาสถึงจะพอมองออกครับ.....ถ้าเราหาผู้บริหารที่เก่งและมีความจริงใจกับผถห.ได้คุณชนะไปครึ่งนึงแล้วครับ ส่วนอีกครื่งนึงอยู่ที่ธุรกิจว่าจะเวิร์คไปกับตลาดหรือไม่ครับ....เก่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีเฮงด้วยครับ

3. งบการเงินสำคัญมาก ใครยังอ่านงบการเงินไม่เป็น ผมแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมครับ เพราะช่วงที่ ICHI กำไรเหลือแค่ 60 ล้านเพราะพิษภาษีน้ำตาล ผมกลับเห็นกระแสเงินสด และ ยอดขายที่ยังดูดีอยู่ แถมหนี้สินยังลดลงอีก ทำให้ผมมั่นใจเป็น 2 เท่าที่จะถือหุ้นในสภาวะที่กดดันแบบนั้นได้ครับ.....หลังจากถือหุ้นแบบถูกกดดันอยู่เป็นปี ในช่วงโควิท ICHI ปันผล 0.35 บาทให้ผม ผมโล่งเลยครับเพราะสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอดมันถูกต้องครับ....ช่วงเวลานั้น บ.ส่วนใหญ่จ่ายปันผลน้อยลง และ หลายบริษัทงดจ่ายปันผลด้วยซ้ำ แต่อิชิกลับจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น และ หนี้สินยังลดลงอีก..... ปีนั้นเป็นปีที่ผมอยู่ได้ทั้งปีเพราะเงินปันผลของอิชิเลยครับ.....นับจากวันนั้นผมพูดกับตัวเองว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีและผมจะถือหุ้นอิชิไปอีกหลายปีตราบที่บริษัทยังจ่ายปันผลให้ผมดีแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ....

ถ้าวันนั้นเป็นวันของคุณ และ คุณมีความรู้เพียงพอโอกาสที่คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินแบบผมก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ

หวังว่าสิ่งที่ผมเขียนมาจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่