หลายคนสงสัยว่าทำไมกินก็น้อย ออกกำลังกายก็แล้ว แต่ร่างกายกลับอ่อนเพลีย น้ำหนักไม่ลง หน้าท้องยังมาไม่หยุด คำตอบคือระบบเผาผลาญของเราอาจกำลังทำงานช้าลงแบบเงียบ ๆ ครับ เมื่อร่างกายเราเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ทุกอย่างจะช้าตามไปหมด ทั้งพลังงาน การเผาผลาญไขมัน การย่อยอาหาร และแม้แต่สมองก็จะตื้อกว่าเดิมครับ วันนี้ผมเลยจะพามาดูว่าสัญญาณร่างกายเผาผลาญพังมีอะไรบ้าง
1) เหนื่อยง่าย พลังงานลดลงตั้งแต่ตื่น
ถ้าใครที่ตื่นมารู้สึกหมดแรง แม้นอนครบคืน แต่ถ้ายังง่วง เพลีย สมองไม่แล่น นี่เป็นสัญญาณว่าระบบผลิตพลังงานระดับเซลล์เริ่มรวน เมตาบอลิซึมต่ำลงทำให้ร่างกายสร้าง ATP ได้น้อยกว่าเดิม ส่งผลให้กิจกรรมเบาๆ ก็ทำให้หมดแรงเร็วขึ้น คนที่เผาผลาญตกมักรู้สึกล้าเรื้อรังแม้ไม่ได้ทำงานหนักเลยครับ
2) น้ำหนักขึ้นง่ายผิดปกติ ทั้งที่กินเหมือนเดิม
เมื่อการเผาผลาญลดลง ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรีน้อยลงแม้ว่าจะกินเท่าเดิม ทำให้น้ำหนักขึ้นง่ายกว่าปกติ ไขมันสะสมเร็ว โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง และยิ่งคุมอาหารแบบหนัก ๆ ระบบจะชะลอตัวกว่าเดิมอีก ร่างกายจะเข้าสู่โหมดเก็บพลังงานทันทีครับ
3) หนาวง่าย มือเท้าเย็น บ่งบอกไทรอยด์ทำงานช้า
รู้ไหมครับว่าฮอร์โมนไทรอยด์คือเครื่องยนต์ควบคุมเมตาบอลิซึมทั้งระบบเลยนะ ถ้าเริ่มรู้สึกหนาวง่าย มือเท้าเย็น แม้อากาศปกติ แสดงว่าอัตราเผาผลาญเริ่มลดลง ไทรอยด์ทำงานช้าลง ทำให้การไหลเวียนลดลง อุณหภูมิภายในร่างกายต่ำกว่าปกติ และอาจรู้สึกอารมณ์แปรปรวนร่วมด้วยครับ
4) ระบบย่อยช้าลง ท้องอืดง่าย ขับถ่ายติดขัด
เมตาบอลิซึมที่ช้าทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง พอมีอาหารค้างนาน ย่อยไม่หมด ทำให้ท้องอืด แน่นท้อง มีก๊าซมากขึ้น และท้องผูกบ่อยกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่ลดแป้งหนักๆ แบบผิดวิธี ลำไส้มักผิดจังหวะทันที จนเกิดอาการไม่สบายท้องเรื้อรังไปด้วยครับ
5) ผมร่วง ผิวหมอง ตัวล้า ดูแก่เร็ว
เมื่อร่างกายเราต้องประหยัดพลังงาน ระบบที่ไม่จำเป็นต่อการอยู่รอดจะถูกลดการทำงานทันที ส่งผลให้ผิวหมองง่าย ขาดน้ำ ผมร่วงเร็ว เล็บเปราะง่าย และรู้สึกว่าสุขภาพโดยรวมโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้คือสัญญาณว่าระบบเผาผลาญกำลังพังแบบช้า ๆ
วิธีฟื้นระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานดีอีกครั้ง
• กินโปรตีนให้ถึงทุกวัน ช่วยเพิ่มอัตราการใช้พลังงานหลังอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญมากขึ้น เป้าหมายคือ1-1.2 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
• เดินเพิ่มวันละ 6,000-8,000 ก้าว ช่วยลดดื้ออินซูลิน ใช้พลังงานต่อเนื่อง และลดการสะสมไขมัน โดยเฉพาะหลังมื้ออาหารควรเดินเบาๆ สิบนาทีช่วยให้ระบบกลับมาตื่นตัวได้ดีมากครับ
• นอนให้พอและนอนให้ลึก การนอนน้อยแค่ 2-3 คืนก็ทำให้ระบบเผาผลาญลดลงทันทีครับ ลองตั้งเป้านอน7-8 ชม. และลดหน้าจอก่อนนอนเพื่อให้หลับลึกขึ้นด้วยนะ
• เลิกอดหนักและหยุดทำ IF แบบโหด การงดอาหาร 18-20ชม. ทุกวันทำให้ระบบตกลงอย่างรวดเร็วเลยนะ ควรเริ่มที่ 12-14 ชม. ก็พอครับ ให้ร่างกายมีพลังงานพอที่จะกระตุ้นเมตาบอลิซึมตามธรรมชาติครับ
• เพิ่มกล้ามเนื้อด้วยเวทเทรนนิ่ง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แค่การมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นหนึ่งกิโลกรัมก็ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้นแม้ตอนพักเลยนะครับ
• ลดความเครียดที่สะสมทั้งวัน คอร์ติซอลสูงทำให้ร่างกายเก็บไขมันหน้าท้องและลดอัตราเผาผลาญ การหายใจลึก การยืดกล้ามเนื้อ หรือนั่งเงียบๆ วันละห้านาทีช่วยให้ระบบกลับมาสมดุลได้ครับ
• กินคาร์บให้พอ ไม่ใช่ตัดทิ้ง การตัดคาร์บมากจนเกินไปทำให้ไทรอยด์ทำงานต่ำลงทันทีครับ เลือกคาร์บเชิงซ้อนอย่างข้าวกล้อง มันม่วง ธัญพืชแทนก็คุมระดับน้ำตาลได้และยังช่วยให้เผาผลาญไม่ตกครับ
ถ้าเราเริ่มรู้สึกเหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้นเร็ว หนาวง่าย ท้องอืดไม่หาย และร่างกายดูโทรมแม้จะกินไม่เยอะ นั่นคือสัญญาณว่าระบบเผาผลาญกำลังพังแบบเงียบๆ แต่ถ้าเราฟื้นร่างกายได้ด้วยการกินโปรตีนให้พอ เดินมากขึ้น นอนพอ ลดเครียด และไม่อดอาหารหนัก ทำต่อเนื่องภายใน 4-8 สัปดาห์ ระบบเผาผลาญจะกลับมาแน่นอนครับ
Cr. FB หมอเจด
ไขมันพุ่ง ทั้งที่กินไม่เยอะ! เผาผลาญพัง เพราะ 5 สัญญาณนี้!!