วิกฤตขาดแคลนหม้อแปลงทั่วโลก บ.จีน ‘กินรวบ’ ตลาดแสนล้าน
.
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 อุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ของจีนกำลังเข้าสู่ยุคทองอย่างเงียบๆ โรงงานผลิตในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงซู เดินเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมง คำสั่งซื้อยาวเหยียดไปจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2026 ลูกค้าต่างชาติต้องจองคิวล่วงหน้านานขึ้นกว่าเดิมมาก ตัวเลขจากศุลกากรจีนเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 มูลค่าการส่งออกหม้อแปลงพุ่งสูงถึง 4.64 หมื่นล้านหยวน (ราว 2 แสนล้านบาท) (เพิ่มขึ้น 39.9%) โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 138%
.
■ ทำไม "หม้อแปลง" ถึงกลายเป็นสินค้าขาดตลาด
.
ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนโลกยุคใหม่
.
1.กระแส AI: ปัญญาประดิษฐ์ต้องการพลังงานมหาศาล ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ระดับสูงอย่างของ Elon Musk ใช้ไฟฟ้าเทียบเท่าเมืองขนาดกลาง ซึ่งต้องใช้หม้อแปลงแรงดันสูงจำนวนมากเพื่อรองรับ
.
2.การปฏิวัติพลังงานสะอาด: โรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์ จำเป็นต้องมีการแปลงแรงดันไฟฟ้าบ่อยครั้งกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเดิม ทำให้ต้องใช้หม้อแปลงมากกว่าเดิมถึง 1.8 เท่า
.
3.รถยนต์ไฟฟ้า (EV): การขยายตัวของสถานีชาร์จทั่วโลกเปรียบเสมือนการเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดยักษ์เข้าสู่ระบบ ทำให้ความต้องการหม้อแปลงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
.
คาดการณ์ว่าตลาดหม้อแปลงโลกจะมีมูลค่าแตะ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2031 แต่ในขณะที่ความต้องการพุ่งสูง ภาคการผลิตทั่วโลกกลับติดหล่ม สหรัฐฯ เผชิญภาวะขาดแคลนถึง 35% ระยะเวลารอสินค้า ยืดเยื้อไปถึง 12-18 เดือน ส่วนยุโรปต้องรอนานถึงปี 2026 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญอย่าง "เหล็กซิลิคอน" (Oriented Silicon Steel) และข้อจำกัดด้านเทคนิค
.
■ จีนคือผู้ชนะในสมรภูมินี้
.
ในขณะที่ทั่วโลกวิกฤต จีนกลับได้เปรียบมหาศาลจากปัจจัย 4 ประการ
.
1.ห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง: จีนครองกำลังการผลิต 60% ของโลก มีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้ผลิตได้รวดเร็วกว่า
.
2.ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี: จีนสามารถผลิตเหล็กซิลิคอนคุณภาพสูงได้เอง (ลดการนำเข้าเหลือเพียง 2.41%) และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีส่งไฟฟ้าระบบแรงดันสูงพิเศษ (UHV) ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยหม้อแปลงของจีนทนความร้อนได้ถึง 60°C ในขณะที่มาตรฐานตะวันตกอยู่ที่ 45°C
.
3.ราคาและความเร็ว: สินค้าจีนราคาถูกกว่าคู่แข่งตะวันตก 20-30% ในสเปกเดียวกัน และสามารถส่งมอบได้ภายใน 10-12 เดือน (เร็วกว่าคู่แข่งที่ใช้เวลา 1.5-2 ปี)
.
4.ความยืดหยุ่น: วิศวกรจีนสามารถปรับเปลี่ยนสเปกสินค้า (Customization) ตามความต้องการของลูกค้าในแอฟริกาหรือเอเชียได้รวดเร็ว ต่างจากค่ายตะวันตกที่กระบวนการล่าช้า
.
■ อุปสรรคและก้าวต่อไป
.
แม้จีนจะครองตลาด แต่ยังมีความท้าทายเรื่อง "มาตรฐานไฟฟ้า" ที่แตกต่างกัน (เช่น สหรัฐฯ ใช้ 120V, ยุโรป 230V, จีน 220V) รวมถึงมาตรฐานการออกแบบโครงข่าย (IEC ของสากล vs GB ของจีน) ซึ่งจีนมีความเข้มงวดกว่าในเรื่องการรองรับพลังงานหมุนเวียน
.
นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ตะวันตกอย่าง Siemens และ GE เริ่มปรับกลยุทธ์จากการกีดกันด้วยเทคโนโลยี มาเป็นการสร้าง "ระบบนิเวศ" (Ecosystem) ผ่านมาตรฐาน Smart Grid และการควบรวมกิจการเพื่อสกัดกั้นจีน
.
■ บทสรุป
.
ทางรอดของจีนเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำคือการเปลี่ยนจาก "ผู้ผลิตตามสั่ง" ไปสู่ "ผู้กำหนดมาตรฐานโลก" และนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจร สถานการณ์ในปี 2025 นี้ชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมหม้อแปลงอาจกลายเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่จีนครองความเป็นเจ้าโลกได้ เบียดคู่ไปกับอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์และรถยนต์ EV
.
.
ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
.
#หม้อแปลงไฟฟ้า
💰วิกฤตขาดแคลนหม้อแปลงทั่วโลก บ.จีน ‘กินรวบ’ ตลาดแสนล้าน
.
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 อุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ของจีนกำลังเข้าสู่ยุคทองอย่างเงียบๆ โรงงานผลิตในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงซู เดินเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมง คำสั่งซื้อยาวเหยียดไปจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2026 ลูกค้าต่างชาติต้องจองคิวล่วงหน้านานขึ้นกว่าเดิมมาก ตัวเลขจากศุลกากรจีนเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 มูลค่าการส่งออกหม้อแปลงพุ่งสูงถึง 4.64 หมื่นล้านหยวน (ราว 2 แสนล้านบาท) (เพิ่มขึ้น 39.9%) โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 138%
.
■ ทำไม "หม้อแปลง" ถึงกลายเป็นสินค้าขาดตลาด
.
ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนโลกยุคใหม่
.
1.กระแส AI: ปัญญาประดิษฐ์ต้องการพลังงานมหาศาล ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ระดับสูงอย่างของ Elon Musk ใช้ไฟฟ้าเทียบเท่าเมืองขนาดกลาง ซึ่งต้องใช้หม้อแปลงแรงดันสูงจำนวนมากเพื่อรองรับ
.
2.การปฏิวัติพลังงานสะอาด: โรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์ จำเป็นต้องมีการแปลงแรงดันไฟฟ้าบ่อยครั้งกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเดิม ทำให้ต้องใช้หม้อแปลงมากกว่าเดิมถึง 1.8 เท่า
.
3.รถยนต์ไฟฟ้า (EV): การขยายตัวของสถานีชาร์จทั่วโลกเปรียบเสมือนการเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดยักษ์เข้าสู่ระบบ ทำให้ความต้องการหม้อแปลงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
.
คาดการณ์ว่าตลาดหม้อแปลงโลกจะมีมูลค่าแตะ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2031 แต่ในขณะที่ความต้องการพุ่งสูง ภาคการผลิตทั่วโลกกลับติดหล่ม สหรัฐฯ เผชิญภาวะขาดแคลนถึง 35% ระยะเวลารอสินค้า ยืดเยื้อไปถึง 12-18 เดือน ส่วนยุโรปต้องรอนานถึงปี 2026 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญอย่าง "เหล็กซิลิคอน" (Oriented Silicon Steel) และข้อจำกัดด้านเทคนิค
.
■ จีนคือผู้ชนะในสมรภูมินี้
.
ในขณะที่ทั่วโลกวิกฤต จีนกลับได้เปรียบมหาศาลจากปัจจัย 4 ประการ
.
1.ห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง: จีนครองกำลังการผลิต 60% ของโลก มีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้ผลิตได้รวดเร็วกว่า
.
2.ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี: จีนสามารถผลิตเหล็กซิลิคอนคุณภาพสูงได้เอง (ลดการนำเข้าเหลือเพียง 2.41%) และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีส่งไฟฟ้าระบบแรงดันสูงพิเศษ (UHV) ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยหม้อแปลงของจีนทนความร้อนได้ถึง 60°C ในขณะที่มาตรฐานตะวันตกอยู่ที่ 45°C
.
3.ราคาและความเร็ว: สินค้าจีนราคาถูกกว่าคู่แข่งตะวันตก 20-30% ในสเปกเดียวกัน และสามารถส่งมอบได้ภายใน 10-12 เดือน (เร็วกว่าคู่แข่งที่ใช้เวลา 1.5-2 ปี)
.
4.ความยืดหยุ่น: วิศวกรจีนสามารถปรับเปลี่ยนสเปกสินค้า (Customization) ตามความต้องการของลูกค้าในแอฟริกาหรือเอเชียได้รวดเร็ว ต่างจากค่ายตะวันตกที่กระบวนการล่าช้า
.
■ อุปสรรคและก้าวต่อไป
.
แม้จีนจะครองตลาด แต่ยังมีความท้าทายเรื่อง "มาตรฐานไฟฟ้า" ที่แตกต่างกัน (เช่น สหรัฐฯ ใช้ 120V, ยุโรป 230V, จีน 220V) รวมถึงมาตรฐานการออกแบบโครงข่าย (IEC ของสากล vs GB ของจีน) ซึ่งจีนมีความเข้มงวดกว่าในเรื่องการรองรับพลังงานหมุนเวียน
.
นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ตะวันตกอย่าง Siemens และ GE เริ่มปรับกลยุทธ์จากการกีดกันด้วยเทคโนโลยี มาเป็นการสร้าง "ระบบนิเวศ" (Ecosystem) ผ่านมาตรฐาน Smart Grid และการควบรวมกิจการเพื่อสกัดกั้นจีน
.
■ บทสรุป
.
ทางรอดของจีนเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำคือการเปลี่ยนจาก "ผู้ผลิตตามสั่ง" ไปสู่ "ผู้กำหนดมาตรฐานโลก" และนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจร สถานการณ์ในปี 2025 นี้ชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมหม้อแปลงอาจกลายเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่จีนครองความเป็นเจ้าโลกได้ เบียดคู่ไปกับอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์และรถยนต์ EV
.
.
ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
.
#หม้อแปลงไฟฟ้า