Pruek Food เค้า เป็นร้าน ที่นำเข้าวัตถุดิบ พรีเมียม ส่ง รร. และ ร้านอาหาร Fine Dine และมี เพจ FB โปรโมทอาหาร
เค้าจะจัด Royal Buffet วันละะ 4 รอบ 12:00-14:00 , 14:30-16:30 , 17-19 และ 19:30 -21:30 โดยต้องจองล่วงหน้า ผ่านลิ้งค์ที่เพจ เค้าจะส่งให้ มีมัดจำ จองคนล่ะ 200 บาท
ส่วนใหญ่ ก็จองล่วงหน้า ประมาณ 2-3 สัปดาห์
และ เมนูอาหารจะจัดหมุนเวียนไป ตามเทศกาล รอบล่ะ สองเดือน มีตัวหลักเหมือนกัน แต่ ก็มี สลับเปลี่ยนไป เรื่อยๆ ตามฤดูกาล ของวัตถุดิบ
อันนี้ เป็นเมนู ของรอบ ล่าสุดตอนนี้ 1 ธันวา ถึง 31 มกรา ยังมีปูขน ที่น่าจะเป็นชุดสุดท้าย
ส่วนข้างล่างนี้เป็น ชุดที่ผมทานเมื่อวาน เป็น วันสุดท้ายของ Season นี้
ราคาแพ็คเกจต่อคน 1690 NET
ร้านอยู่ที่ ซอยสุขุม 49 ใกล้ๆทองหล่อ แต่เวลาจอดรถ ให้จอดที่ โครงการพิมาณ49 แล้ว รับบัตรมาแสตมป์ที่ร้านได้ ร้านเองเดินเลยต่อไปจาก ที่จอดรถ ประมาณ สองร้อย เมตรดูหมุดใน Google ได้
ร้านค่อนข้างเล็กนะครับ ประมาณ ตึกแถวห้องเดียว ดังนั้น ด้านนึงเป็นเค้าเตอร์ อีกฝั่งจัดเป็นโต๊ะ ถ้าทาน โต๊ะล่ะสองคน ได้ ประมาณ 6-7 โต๊ะ หรือ รอบนึง ประมาณ 14 คน

ราคา บุฟเฟต์รวมน้ำ และ Soft drink แต่คอไวน์เพิ่ม 390 ทาน Free Flow Wine เสริฟตัวเองได้
เมนูอาหารแต่ล่ะรอบ จะมีหลัก 15 รายการ สั่งได้ ไม่จำกัด ยกเว้น Cavier จะเสริฟ ให้คนล่ะสามกระป๋อง กระป๋องล่ะ 10 กรัม พร้อมเครื่องเคียง ถ้าเด็ก ครึ่งราคา แต่จะไม่มี คาเวียร์ให้ ครับ

คาเวียร์ ปกติ กินได้หลายแบบ แบบที่นิยมกินกันง่ายๆ เช่นตักใส่ Cracker บางๆ ก็นิยมกัน
กับอีก แบบ คือการ ใช้ช้อนมุกตักวางบนหลังมือ ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ หรือ ตรง V Web แล้ว ใช้ปากทาน ตรงเลย ที่เรียกกันว่า Knuckle Shot อันนี้ไม่ใช่แค่ความเท่ห์ แต่เป็นการควบคุมอุณหภูมิคาเวียร์ให้ พอเหมาะได้รสชาติธรรม มากสุด
แต่วันนี้ เค้าเสิร์ฟมาแบบ Full Set มี คาเวียร์ 3 ตัว สามรสชาติ ให้เลือกผสมทานตามสไตล์
เทคนิคมาตรฐาน คือ ใช้ แป้ง Blinis แป้งคล้ายแพนเค็กนุ่มๆ ชิ้นเล็ก แล้ว ป้ายด้วย
Crème Fraîche (ครีม เฟรช) หรือ
Sour Cream ที่เป็นมูสสีขาว ใช้เป็น ฐานรอง แล้ว ตักคาเวียร์ ด้วยช้อนมุก ก่อนโรยด้วย ไข่ขาวสับ และ ไข่แดงสับ และ หอมแดง สับที่ให้ มา แล้ว อาจจะบีบเลม่อน เติมได้ ถ้าชอบ
สำหรับ ผมทั้งสามตัว รสชาติผมแยกความต่างไม่ได้มากนั ก็หอมมันเค็มๆ อร่อยดี แต่เป็นคนไม่ได้ปลื้มคาเวียร์มาก แต่ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นหนึ่งเมนูที่ เราควรจะต้องเคยลองให้รู้ จักมัน

Apitizer ตัวต่อมาเป็น Truffle Soup ที่ครีมหอมมัน และ สไลด์ Black Truffle มาให้ด้วยเลย โปรโมทของเพราะว่า ที่นี่เค้านำเข้าทรัพเฟิ่ลทั้งจาก จีน และ ยุโรป

Menu นึงที่ผมจองที่นี่แหละอยากลอง คือกุ้ง Premium สามตัวนี้
masara red pawn กุ้งแดงหวานตัวดัง จาก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนitaly
Budo ebi(grapepawn) กุ้งหัวองุ่น จากญี่ปุ่น
Carabeneros กุ้งแดงหวาน จาก เม็กซิโก (ตัวนี้โลละ เกือบสี่พัน)
แต่วันนี้เค้าได้เสริฟ Carabeneros แต่เสริฟตัว Langousitine จากเกาหลีมาแทน
แต่กุ้งก็หวานอร่อย ดี โดยเฉาพะ Budo Ebi หวานมันเป็นพิเศษ

ส่วนอีกเมนู Carvir Langoustino Roll เป็น กุ้ง Langustino ตัวโต ห่อด้วยแป้ง และ Top Up ด้วยคาเวียร์ แต่มื้อนี้แป้งหมดเลยเสิรฟมาบนผักสลัดแทน เมนูนี้ กุ้ง คง จะ Freeze และละลายไม่ดี เลยไม่สดเด้งเนื้อกุ้งเละ แอบเสียดาย และ คอมเพลน ฝากเชฟ ปรับ แก้ไปแล้ว

ส่วนอันนี้ Truffle Bacon Spinach Tart อันนี้ อร่อยมาก ใช้ ทรัฟเฟิล ฝอย กับ เบค่อนกรอบ ใส่ลงในกระทงแป้งที่ผสมผักโขมทำเป็นเรือสีเขียว แป้งบางกรอบหอม กัดรวมกับทรัฟเฟิ่ล และ เบค่อนฟินมาก จนตั้งสั่งเบิ้ล อีกคนล่ะสองคำ

ตัวนี้ Foie Graz Parfeit Choux เค้าใช้ ฟรัวกราซ์ มาทำเป็น พาเฟ่ต์ (
มูสเนื้อเนียน (Smooth Mousse) โดยปั่นกับไขมัน, ครีม, ปั่นจนเนียน แต่ลงบนแป้ง ชูส์( คล้ายพวก ชูครึม ) แต่ว่า เค้าทำเป็นสีดำ อันนี้ ไม่แน่ใจว่า ใช้หมึกดำหรือป่าว แต่รสออกติดคาวนิดๆนิด และเค็ม แต่ เมนูนี้ติดเค็มมากเกิน จนแอบ คอมเพลนกับเชฟไป แต่หน้าตาสวยงามเลย เสียดาย เค็ม 55555555555

ปูขนจาก หยางเฉิง เมนูนี้คือ เมนูที่ทำให้ผมมารู้จัก Pruek เลย เพราะว่า เพิ่งกลับจากกินปูขนทีเสิ่นเจิ้น มันถูก และอร่อย
กลับมา FB ส่ง ปูขนที่ Pruek ขาย กิโลล่ะ พันสามกว่าๆมาให้ จะเข้าไปสั่ง แต่เห็น Royal Buffet นี้เลยเปลี่ยนแผน
รอบแรกที่สั่งเค้าเค้าเสริฟมาลอง ก่อน 3 ตัวได้ปูตัวผู้ปูเนื้อ แอบผิดผิดหวังๆเล็กๆ เพราะว่า มันอร่อย สู้ปูไข่ตัวเมียไม่ได้
เลยให้เด็กถามในครัวมีตัวเมีย ไข่แน่นๆมั้ย

หลังจากนั้น เสริฟต่อมา เป็นปูไข่ตัวโต ไข่และมันแน่นจุกๆ อร่อยมากๆ ใครสาวกปูขน ควรไปตำ ยังเหลือ อีก Season นึง คงหมดแล้ว

เมนูนี้ เหมือน เป็นเมนูเสริม นอกโปรแกรม เป็น Risotto หมึกดำ กับ กุ้ง Mazara จานเล็ก ไม่ต้องกลัวอิ่มเกิน อร่อยทั้งกุ้งและ ข้าวรสดี ชอบ

สลับด้วยเมนูที่แอบผิดหวังบ้าง พาสต้าหมึกดำ ท้อปอัพด้วย Ankimo (ตับปลาคอด เจ้าของฉายา ฟรัวกราซ์แห่งท้องทะเล ) เส้นดีนะ ว่า อังกิโมะ วันนี้เหมือนเละไปและรสชาติ กับกลิ่นไม่หอมเท่าที่คาดหวัง

กลับมาที่เมนูที่ดีเกินคาดหวัง คือ นกพิราบฮ่องกงย่าง ตัวนี้เค้าว่า หมักปรุงมาจากฮ่องกง แล้วมาทอดย่างในไทย เนื้อมันนุ่มหอม รสอร่อยมาก นุ่มจนต้องถามว่า เค้าใช้ทอด หรือ กงฟี (Confit การตุ๋นด้วยน้ำมุนอุณหภุมิไม่ร้อนจัดๆนานๆให้สุกช้าๆ) น้องบอก ทอดปกติค่ อร่อยมาก แอบเห็นโต๊ะข้างสั่ง เบิ้ล 3 ตัว

Unagi Ochazuke Ankimo ตัว Ochazuke เมนูแปลกที่คนญี่ปุ่นนิยมกินกัน เรียกง่ายๆว่าข้าวราดน้ำชา โดยจะรินชาลงไปบนข้าวสวย และเครื่องปรุง ซึ่ง จานนี้ ใช้ ปลาไหลน้ำจืด Unagi และ อังกิโมะ ตับปลาค่อด เพิ่มความมันและสาหร่าย และมีความมันของถั่วแระ ญี่ปุ่น รสชาติ แปลกใหม่ มีทั้งเปรั้ยว เค็ม อูมามิ มาครบ กินสดชื่นดี แปลกกว่า กิน คอนซูเม่ต์ ปกติ

Pan Seared Fois Gras อันนี้ ธรรมาด ฟรัวกราซ นาบกระทะร้อน เสริฟ บนขนมปังซับมันราดซอร์ส อร่อยตามมาตรฐาน แต่สั่งมา ลองแค่คำเดียว

Gochujang Mignonette Oyster เมนูนี้เป็นการ Fusion การเสริฟ หอยนางรม แบบ ตะวัน คือ แบบ มิญญอเน็ตต์ ใช้ซอร์สเบสน้ำส้มสายชูกับหอมสับ ที่เราเห็นตาม คอคเทล เสิร์ฟกันบ่อย กับ Gochujang พริกแกงหมักของเกาหลี ที่ให้รสเผ็ดร้อน และ อูมามิ ของสาหร่าย อร่อยดีนะ แต่ผม ชอบ แบบไทยๆ เรามากกว่า แต่ หอยนางรม นี่แบบไหนก็กินได้ ยกเว้น Oyster Shooter ที่ใส่ถ้วยช้อต เติมเหล้า และ ซอร์สพริก คือ Ketchup อันนั้นรสชาติ สำหรับผม ชวนอ้วก 55555555

Madai Sashimi ปลาไทแดง ปลาเนื้อขาวยอดนิยม อีกตัว ตัวนี้เนื้อ สดกรอบน้อยไปนิด แต่ก็อร่อย

Lamb chop เนื้อดี แต่ปรุงสุกไปนิด ลืมสั่ง Medium Rafe แต่ก็อร่อย

ภาระหนักของมื้อนี้ คือ ตัวนี้แหละ ปกติตามเมนู จะเป็น Turbot ปลาตาเดียว จากทางยุโรปที่เนื้อนุ่มมันละเอียด แต่ว่าวันนี้หมด
เค้าจัดเป็น Hirame ปลาตาเดียวญี่ปุ่น ที่ เค้าเอาส่วนครีบไปทำ เอนกาวะ นั่นแหละ ตัวนี้เนื้อแน่น มัน อร่อย คล้าย จารเม็ด แต่แน่นกว่า นึ่งซีอิ๊วมา รสชาติดีเลย
แต่จานอื่นเค้ามากันจานเล็กทานสบาย จานนี้นิ่งมาทั้งตัว ตัวนึงน่าจะเกิน โล แม้จะอร่อย แต่สองคน ถ้ากินเมนูอื่นเยอะๆ ด้วย ผมทานกันไม่ถึงครึ่งตัวยอมแพ้ (แต่เห็นโต๊ะข้างๆ มีสั่งเบิ้ลด้วยนะ สุดยอดทานได้ไง)
แต่เหลือเค้าไม่ปรับนะ เหลือ ได้ แต่ไม่ไ้ดให้เอากลับบ้าน จริง เสนอเค้าว่า เข้าใจแหละ เสริฟทั้งตัวให้ดูดี และ พรีเมียม แต่ กินไม่หมด ต้องทิ้งอย่างนี้ เสียดาย ทรัพยากรโลก อยากขอให้แบ่งเสริฟ ครึ่งตัว สำหรับลูกค้า ที่ไม่อยากทานมาก แนะนำร้านเค้าไปและ จะได้ทานแบบสบายใจ

ขนมหวาน ใน เมนู เป็น ขนมหวาน สไตลฝรั่งเศษ Petit fours ไอ้ตัวนี้ผมเคย งงกับชื่อมัน รู้ว่า Petit แปลว่า เล็กๆ ส่วน Fours เข้าใจว่า มันคือ ขนมหวานเล็กๆสี่ชิ้น แต่เอ๊ะ กินบางร้าน มี 5 บางร้านมี 6 ชิ้นแต่ก็เรียก Petit fours จนไปค้นถึงรู้ว่า อ้อ มันคือ โฟร์ที่ แปลเหมือนเฟอร์คือ ขนมอบ ไม่ใช่ 4
วันนี้ สามชิ้นคำเล็กอร่อย ที้ง้ช้อคโกแลต และ Madeleine ขนมอบยอดฮิตของ ฝรั่งเศษก็อร่อย

ส่วน Sorbet ล้างปากวันนี้เป็น เสาวรส เปรี้ยว หวานสดชื่น อร่อย ชอบ
สรุปเป็นอีกมื้อที่ทานสนุกอร่อย ได้ลอง อาหารแปลกใหม่ หลายตัว
รอให้ย่อยหมด ค่อยจอง Season หน้าต่อ
[CR] Pruek Food Royal Buffet ( จัดเต็ม Cavier + Truffle +Foie Gras + ปูขน + Ankimo + Tripple Pawn +นกพิราบฮ่องกง etc )
เค้าจะจัด Royal Buffet วันละะ 4 รอบ 12:00-14:00 , 14:30-16:30 , 17-19 และ 19:30 -21:30 โดยต้องจองล่วงหน้า ผ่านลิ้งค์ที่เพจ เค้าจะส่งให้ มีมัดจำ จองคนล่ะ 200 บาท
ส่วนใหญ่ ก็จองล่วงหน้า ประมาณ 2-3 สัปดาห์
และ เมนูอาหารจะจัดหมุนเวียนไป ตามเทศกาล รอบล่ะ สองเดือน มีตัวหลักเหมือนกัน แต่ ก็มี สลับเปลี่ยนไป เรื่อยๆ ตามฤดูกาล ของวัตถุดิบ
อันนี้ เป็นเมนู ของรอบ ล่าสุดตอนนี้ 1 ธันวา ถึง 31 มกรา ยังมีปูขน ที่น่าจะเป็นชุดสุดท้าย
ส่วนข้างล่างนี้เป็น ชุดที่ผมทานเมื่อวาน เป็น วันสุดท้ายของ Season นี้
ราคาแพ็คเกจต่อคน 1690 NET
ร้านอยู่ที่ ซอยสุขุม 49 ใกล้ๆทองหล่อ แต่เวลาจอดรถ ให้จอดที่ โครงการพิมาณ49 แล้ว รับบัตรมาแสตมป์ที่ร้านได้ ร้านเองเดินเลยต่อไปจาก ที่จอดรถ ประมาณ สองร้อย เมตรดูหมุดใน Google ได้
ร้านค่อนข้างเล็กนะครับ ประมาณ ตึกแถวห้องเดียว ดังนั้น ด้านนึงเป็นเค้าเตอร์ อีกฝั่งจัดเป็นโต๊ะ ถ้าทาน โต๊ะล่ะสองคน ได้ ประมาณ 6-7 โต๊ะ หรือ รอบนึง ประมาณ 14 คน
ราคา บุฟเฟต์รวมน้ำ และ Soft drink แต่คอไวน์เพิ่ม 390 ทาน Free Flow Wine เสริฟตัวเองได้
เมนูอาหารแต่ล่ะรอบ จะมีหลัก 15 รายการ สั่งได้ ไม่จำกัด ยกเว้น Cavier จะเสริฟ ให้คนล่ะสามกระป๋อง กระป๋องล่ะ 10 กรัม พร้อมเครื่องเคียง ถ้าเด็ก ครึ่งราคา แต่จะไม่มี คาเวียร์ให้ ครับ
คาเวียร์ ปกติ กินได้หลายแบบ แบบที่นิยมกินกันง่ายๆ เช่นตักใส่ Cracker บางๆ ก็นิยมกัน
กับอีก แบบ คือการ ใช้ช้อนมุกตักวางบนหลังมือ ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ หรือ ตรง V Web แล้ว ใช้ปากทาน ตรงเลย ที่เรียกกันว่า Knuckle Shot อันนี้ไม่ใช่แค่ความเท่ห์ แต่เป็นการควบคุมอุณหภูมิคาเวียร์ให้ พอเหมาะได้รสชาติธรรม มากสุด
แต่วันนี้ เค้าเสิร์ฟมาแบบ Full Set มี คาเวียร์ 3 ตัว สามรสชาติ ให้เลือกผสมทานตามสไตล์
เทคนิคมาตรฐาน คือ ใช้ แป้ง Blinis แป้งคล้ายแพนเค็กนุ่มๆ ชิ้นเล็ก แล้ว ป้ายด้วย Crème Fraîche (ครีม เฟรช) หรือ Sour Cream ที่เป็นมูสสีขาว ใช้เป็น ฐานรอง แล้ว ตักคาเวียร์ ด้วยช้อนมุก ก่อนโรยด้วย ไข่ขาวสับ และ ไข่แดงสับ และ หอมแดง สับที่ให้ มา แล้ว อาจจะบีบเลม่อน เติมได้ ถ้าชอบ
สำหรับ ผมทั้งสามตัว รสชาติผมแยกความต่างไม่ได้มากนั ก็หอมมันเค็มๆ อร่อยดี แต่เป็นคนไม่ได้ปลื้มคาเวียร์มาก แต่ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นหนึ่งเมนูที่ เราควรจะต้องเคยลองให้รู้ จักมัน
Apitizer ตัวต่อมาเป็น Truffle Soup ที่ครีมหอมมัน และ สไลด์ Black Truffle มาให้ด้วยเลย โปรโมทของเพราะว่า ที่นี่เค้านำเข้าทรัพเฟิ่ลทั้งจาก จีน และ ยุโรป
Menu นึงที่ผมจองที่นี่แหละอยากลอง คือกุ้ง Premium สามตัวนี้
masara red pawn กุ้งแดงหวานตัวดัง จาก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนitaly
แต่วันนี้เค้าได้เสริฟ Carabeneros แต่เสริฟตัว Langousitine จากเกาหลีมาแทน
แต่กุ้งก็หวานอร่อย ดี โดยเฉาพะ Budo Ebi หวานมันเป็นพิเศษ
ส่วนอันนี้ Truffle Bacon Spinach Tart อันนี้ อร่อยมาก ใช้ ทรัฟเฟิล ฝอย กับ เบค่อนกรอบ ใส่ลงในกระทงแป้งที่ผสมผักโขมทำเป็นเรือสีเขียว แป้งบางกรอบหอม กัดรวมกับทรัฟเฟิ่ล และ เบค่อนฟินมาก จนตั้งสั่งเบิ้ล อีกคนล่ะสองคำ
ตัวนี้ Foie Graz Parfeit Choux เค้าใช้ ฟรัวกราซ์ มาทำเป็น พาเฟ่ต์ ( มูสเนื้อเนียน (Smooth Mousse) โดยปั่นกับไขมัน, ครีม, ปั่นจนเนียน แต่ลงบนแป้ง ชูส์( คล้ายพวก ชูครึม ) แต่ว่า เค้าทำเป็นสีดำ อันนี้ ไม่แน่ใจว่า ใช้หมึกดำหรือป่าว แต่รสออกติดคาวนิดๆนิด และเค็ม แต่ เมนูนี้ติดเค็มมากเกิน จนแอบ คอมเพลนกับเชฟไป แต่หน้าตาสวยงามเลย เสียดาย เค็ม 55555555555
ปูขนจาก หยางเฉิง เมนูนี้คือ เมนูที่ทำให้ผมมารู้จัก Pruek เลย เพราะว่า เพิ่งกลับจากกินปูขนทีเสิ่นเจิ้น มันถูก และอร่อย
กลับมา FB ส่ง ปูขนที่ Pruek ขาย กิโลล่ะ พันสามกว่าๆมาให้ จะเข้าไปสั่ง แต่เห็น Royal Buffet นี้เลยเปลี่ยนแผน
รอบแรกที่สั่งเค้าเค้าเสริฟมาลอง ก่อน 3 ตัวได้ปูตัวผู้ปูเนื้อ แอบผิดผิดหวังๆเล็กๆ เพราะว่า มันอร่อย สู้ปูไข่ตัวเมียไม่ได้
เลยให้เด็กถามในครัวมีตัวเมีย ไข่แน่นๆมั้ย
หลังจากนั้น เสริฟต่อมา เป็นปูไข่ตัวโต ไข่และมันแน่นจุกๆ อร่อยมากๆ ใครสาวกปูขน ควรไปตำ ยังเหลือ อีก Season นึง คงหมดแล้ว
เมนูนี้ เหมือน เป็นเมนูเสริม นอกโปรแกรม เป็น Risotto หมึกดำ กับ กุ้ง Mazara จานเล็ก ไม่ต้องกลัวอิ่มเกิน อร่อยทั้งกุ้งและ ข้าวรสดี ชอบ
สลับด้วยเมนูที่แอบผิดหวังบ้าง พาสต้าหมึกดำ ท้อปอัพด้วย Ankimo (ตับปลาคอด เจ้าของฉายา ฟรัวกราซ์แห่งท้องทะเล ) เส้นดีนะ ว่า อังกิโมะ วันนี้เหมือนเละไปและรสชาติ กับกลิ่นไม่หอมเท่าที่คาดหวัง
กลับมาที่เมนูที่ดีเกินคาดหวัง คือ นกพิราบฮ่องกงย่าง ตัวนี้เค้าว่า หมักปรุงมาจากฮ่องกง แล้วมาทอดย่างในไทย เนื้อมันนุ่มหอม รสอร่อยมาก นุ่มจนต้องถามว่า เค้าใช้ทอด หรือ กงฟี (Confit การตุ๋นด้วยน้ำมุนอุณหภุมิไม่ร้อนจัดๆนานๆให้สุกช้าๆ) น้องบอก ทอดปกติค่ อร่อยมาก แอบเห็นโต๊ะข้างสั่ง เบิ้ล 3 ตัว
Unagi Ochazuke Ankimo ตัว Ochazuke เมนูแปลกที่คนญี่ปุ่นนิยมกินกัน เรียกง่ายๆว่าข้าวราดน้ำชา โดยจะรินชาลงไปบนข้าวสวย และเครื่องปรุง ซึ่ง จานนี้ ใช้ ปลาไหลน้ำจืด Unagi และ อังกิโมะ ตับปลาค่อด เพิ่มความมันและสาหร่าย และมีความมันของถั่วแระ ญี่ปุ่น รสชาติ แปลกใหม่ มีทั้งเปรั้ยว เค็ม อูมามิ มาครบ กินสดชื่นดี แปลกกว่า กิน คอนซูเม่ต์ ปกติ
Pan Seared Fois Gras อันนี้ ธรรมาด ฟรัวกราซ นาบกระทะร้อน เสริฟ บนขนมปังซับมันราดซอร์ส อร่อยตามมาตรฐาน แต่สั่งมา ลองแค่คำเดียว
Gochujang Mignonette Oyster เมนูนี้เป็นการ Fusion การเสริฟ หอยนางรม แบบ ตะวัน คือ แบบ มิญญอเน็ตต์ ใช้ซอร์สเบสน้ำส้มสายชูกับหอมสับ ที่เราเห็นตาม คอคเทล เสิร์ฟกันบ่อย กับ Gochujang พริกแกงหมักของเกาหลี ที่ให้รสเผ็ดร้อน และ อูมามิ ของสาหร่าย อร่อยดีนะ แต่ผม ชอบ แบบไทยๆ เรามากกว่า แต่ หอยนางรม นี่แบบไหนก็กินได้ ยกเว้น Oyster Shooter ที่ใส่ถ้วยช้อต เติมเหล้า และ ซอร์สพริก คือ Ketchup อันนั้นรสชาติ สำหรับผม ชวนอ้วก 55555555
Madai Sashimi ปลาไทแดง ปลาเนื้อขาวยอดนิยม อีกตัว ตัวนี้เนื้อ สดกรอบน้อยไปนิด แต่ก็อร่อย
Lamb chop เนื้อดี แต่ปรุงสุกไปนิด ลืมสั่ง Medium Rafe แต่ก็อร่อย
ภาระหนักของมื้อนี้ คือ ตัวนี้แหละ ปกติตามเมนู จะเป็น Turbot ปลาตาเดียว จากทางยุโรปที่เนื้อนุ่มมันละเอียด แต่ว่าวันนี้หมด
เค้าจัดเป็น Hirame ปลาตาเดียวญี่ปุ่น ที่ เค้าเอาส่วนครีบไปทำ เอนกาวะ นั่นแหละ ตัวนี้เนื้อแน่น มัน อร่อย คล้าย จารเม็ด แต่แน่นกว่า นึ่งซีอิ๊วมา รสชาติดีเลย
แต่จานอื่นเค้ามากันจานเล็กทานสบาย จานนี้นิ่งมาทั้งตัว ตัวนึงน่าจะเกิน โล แม้จะอร่อย แต่สองคน ถ้ากินเมนูอื่นเยอะๆ ด้วย ผมทานกันไม่ถึงครึ่งตัวยอมแพ้ (แต่เห็นโต๊ะข้างๆ มีสั่งเบิ้ลด้วยนะ สุดยอดทานได้ไง)
แต่เหลือเค้าไม่ปรับนะ เหลือ ได้ แต่ไม่ไ้ดให้เอากลับบ้าน จริง เสนอเค้าว่า เข้าใจแหละ เสริฟทั้งตัวให้ดูดี และ พรีเมียม แต่ กินไม่หมด ต้องทิ้งอย่างนี้ เสียดาย ทรัพยากรโลก อยากขอให้แบ่งเสริฟ ครึ่งตัว สำหรับลูกค้า ที่ไม่อยากทานมาก แนะนำร้านเค้าไปและ จะได้ทานแบบสบายใจ
ขนมหวาน ใน เมนู เป็น ขนมหวาน สไตลฝรั่งเศษ Petit fours ไอ้ตัวนี้ผมเคย งงกับชื่อมัน รู้ว่า Petit แปลว่า เล็กๆ ส่วน Fours เข้าใจว่า มันคือ ขนมหวานเล็กๆสี่ชิ้น แต่เอ๊ะ กินบางร้าน มี 5 บางร้านมี 6 ชิ้นแต่ก็เรียก Petit fours จนไปค้นถึงรู้ว่า อ้อ มันคือ โฟร์ที่ แปลเหมือนเฟอร์คือ ขนมอบ ไม่ใช่ 4
วันนี้ สามชิ้นคำเล็กอร่อย ที้ง้ช้อคโกแลต และ Madeleine ขนมอบยอดฮิตของ ฝรั่งเศษก็อร่อย
ส่วน Sorbet ล้างปากวันนี้เป็น เสาวรส เปรี้ยว หวานสดชื่น อร่อย ชอบ
สรุปเป็นอีกมื้อที่ทานสนุกอร่อย ได้ลอง อาหารแปลกใหม่ หลายตัว
รอให้ย่อยหมด ค่อยจอง Season หน้าต่อ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น