เนื่องจากว่าเราจะต้องประเมินการทำงานของพนักงานใหม่ ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงทดลองงาน ที่ทำงานเรากำหนดเวลาเข้า-ออกงานไว้ชัดเจน สำหรับเรา เวลาเข้า-ออกงาน คือช่วงเวลาที่พนักงานควรอยู่ที่โต๊ะและพร้อมทำงาน ไม่ใช่เวลาสแกนบัตร เช่น เข้างาน 8.00 เลิกงาน 16.00 ก็หมายถึงว่าพนักงานจะต้องอยู่ที่จุดปฏิบัติงานตั้งแต่ 8.00-16.00 ไม่ว่าคุณจะมาก่อนเวลานานแค่ไหน หรือกลับบ้านช้ากว่าเวลาเลิกงานแค่ไหน ไม่สนใจ (บางคนสแกนบัตรเข้า 7.30 แต่มัวไปเถลไถลที่ไหนไม่รู้ กว่าจะมาที่โต๊ะทำงานก็ 8.30 เรามองว่าไม่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันก็มีคนที่เลิกงานช้า แต่ไม่มีผลงานออกมาเหมือนกัน แต่ที่ทำงานเราไม่มีค่าโอทีให้)
แต่ที่เราพบในพนักงานใหม่คือ พอใกล้ถึงเวลาเลิกงาน 2-3 นาที เขาก็ปิดคอมและลุกออกไปจากห้องทำงานแล้ว เราเข้าใจว่าพอเดินไปถึงเครื่องสแกนบัตรก็คงเป็นเวลาเลิกงานพอดี แต่ด้วยความที่เรารู้สึกไม่โอเค ดังนั้นวันหนึ่งพอเขาลุกออกไปก่อนเวลาเลิกงาน 2-3 นาที เราก็ทักเขาประมาณว่า "จะรีบไปไหน ยังไม่ถึง 16.00 น. เลย" เราเป็นคนเดียวที่ทัก และพอเขาถูกทัก เขาก็อยู่ในห้องทำงานต่อจนถึงเวลาเลิกงาน แล้วจึงออกไป
หลังจากนั้นพนักงานใหม่ก็ยังมีการออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิกงานอยู่บ้าง แต่เราก็ไม่ได้ทักเขาแล้ว เพราะถือว่าทักครั้งเดียวก็รู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งมาถึงอีกวันหนึ่ง หัวหน้าไม่ได้เข้าทำงาน พนักงานใหม่ก็เด้งตัวออกจากที่ทำงานตอนเวลา 16.00 เป๊ะ (แต่เขาปิดคอมและเก็บของเสร็จตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว แค่นั่งเล่นรอเวลาเลิก) พอเขาลุกออกจากห้อง ก็มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทักเขาว่า "ยังอยู่อีกเหรอ เห็นเตรียมจะออกไปนานแล้ว" พนักงานใหม่ก็ตอบว่า "รอให้ถึงเวลา 16.00 น. ถ้าออกไปก่อนเดี๋ยวจะมีคนบางคนทัก" เราก็พูดขึ้นว่า "ใช่ ทักแน่" (พร้อมความรู้สึกอยากเขกกะโหลกสักที ถ้าวันนั้นหัวหน้าอยู่ เขาจะตอบแบบนั้นไหม?)
เรากำลังนึกสงสัยในความทุ่มเททำงานของพนักงานใหม่ หรือว่าเขาจะได้รับมอบหมายงานน้อยเกินไป เราก็ไม่แน่ใจ อย่างเรานี่ไม่เคยเด้งตัวออกจากที่ทำงานตรงเวลาเป๊ะเลย อย่างเร็วสุดก็ออกไปหลังเวลาเลิกงาน 5 นาที (ซึ่งก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นเหมือนกัน เรากลับช้ากว่านั้น) และที่เราต้องร่วมประเมินการทำงานเขา เพราะว่างานของเขาส่วนหนึ่งก็รับช่วงต่อจากงานของเราส่วนหนึ่ง เราต้องเป็นคนสรุปงานในภาพรวม (แปลว่าเราไม่สามารถปล่อยปละละเลยเขาได้) และตอนนี้เราก็ยังไม่ถึงกับรู้สึกโอเคกับการทำงานของเขา เขามีเวลาทดลองงาน 6 เดือน แต่หัวหน้าเราจะประเมินครั้งแรกตอนครบ 3 เดือน ถ้าไม่โอเคก็บ๊ายบายกัน เราก็คิดว่าเวลาประเมินการทำงานของเขา ก็จะเอาเรื่องพฤติกรรมการเลิกงานของเขามาคิดด้วย แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราคิดมันถูกหรือเปล่า (เรามองว่าถูกอยู่แล้ว แต่ก็อยากรู้ว่าของคนอื่นเป็นยังไงเหมือนกัน)
เวลาเข้า-ออกงาน สำหรับคุณ หมายถึงเวลาสแกนบัตร หรือเวลาทำงาน
แต่ที่เราพบในพนักงานใหม่คือ พอใกล้ถึงเวลาเลิกงาน 2-3 นาที เขาก็ปิดคอมและลุกออกไปจากห้องทำงานแล้ว เราเข้าใจว่าพอเดินไปถึงเครื่องสแกนบัตรก็คงเป็นเวลาเลิกงานพอดี แต่ด้วยความที่เรารู้สึกไม่โอเค ดังนั้นวันหนึ่งพอเขาลุกออกไปก่อนเวลาเลิกงาน 2-3 นาที เราก็ทักเขาประมาณว่า "จะรีบไปไหน ยังไม่ถึง 16.00 น. เลย" เราเป็นคนเดียวที่ทัก และพอเขาถูกทัก เขาก็อยู่ในห้องทำงานต่อจนถึงเวลาเลิกงาน แล้วจึงออกไป
หลังจากนั้นพนักงานใหม่ก็ยังมีการออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิกงานอยู่บ้าง แต่เราก็ไม่ได้ทักเขาแล้ว เพราะถือว่าทักครั้งเดียวก็รู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งมาถึงอีกวันหนึ่ง หัวหน้าไม่ได้เข้าทำงาน พนักงานใหม่ก็เด้งตัวออกจากที่ทำงานตอนเวลา 16.00 เป๊ะ (แต่เขาปิดคอมและเก็บของเสร็จตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว แค่นั่งเล่นรอเวลาเลิก) พอเขาลุกออกจากห้อง ก็มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทักเขาว่า "ยังอยู่อีกเหรอ เห็นเตรียมจะออกไปนานแล้ว" พนักงานใหม่ก็ตอบว่า "รอให้ถึงเวลา 16.00 น. ถ้าออกไปก่อนเดี๋ยวจะมีคนบางคนทัก" เราก็พูดขึ้นว่า "ใช่ ทักแน่" (พร้อมความรู้สึกอยากเขกกะโหลกสักที ถ้าวันนั้นหัวหน้าอยู่ เขาจะตอบแบบนั้นไหม?)
เรากำลังนึกสงสัยในความทุ่มเททำงานของพนักงานใหม่ หรือว่าเขาจะได้รับมอบหมายงานน้อยเกินไป เราก็ไม่แน่ใจ อย่างเรานี่ไม่เคยเด้งตัวออกจากที่ทำงานตรงเวลาเป๊ะเลย อย่างเร็วสุดก็ออกไปหลังเวลาเลิกงาน 5 นาที (ซึ่งก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นเหมือนกัน เรากลับช้ากว่านั้น) และที่เราต้องร่วมประเมินการทำงานเขา เพราะว่างานของเขาส่วนหนึ่งก็รับช่วงต่อจากงานของเราส่วนหนึ่ง เราต้องเป็นคนสรุปงานในภาพรวม (แปลว่าเราไม่สามารถปล่อยปละละเลยเขาได้) และตอนนี้เราก็ยังไม่ถึงกับรู้สึกโอเคกับการทำงานของเขา เขามีเวลาทดลองงาน 6 เดือน แต่หัวหน้าเราจะประเมินครั้งแรกตอนครบ 3 เดือน ถ้าไม่โอเคก็บ๊ายบายกัน เราก็คิดว่าเวลาประเมินการทำงานของเขา ก็จะเอาเรื่องพฤติกรรมการเลิกงานของเขามาคิดด้วย แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราคิดมันถูกหรือเปล่า (เรามองว่าถูกอยู่แล้ว แต่ก็อยากรู้ว่าของคนอื่นเป็นยังไงเหมือนกัน)