เมนูนี้ แม่เปปจำมาจากร้านข้าวต้มที่ได้ไปกินมาค่ะ เขาทำได้อร่อยจริงๆ กินแล้วติดใจ เลยแกะสูตรเขามา ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงมากๆ ลองมาทำเอง 3 ครั้งได้แล้วค่ะ ปรับปรุงจากครั้งแรกที่ทำ จนครั้งล่าสุด ว่าใกล้เคียงมากๆ ทำง่ายไม่ยากค่ะ
มาดูวัตถุดิบกันค่ะ
1. หมูสับ 500 กรัม แม่เปปใช้แบบติดมัน+เนื้อล้วน
2. รากผักชี รากใหญ่ๆ 6 ราก
3. พริกขี้หนูแดง 25 เม็ด (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
4. ต้นหอม 5-6 ต้น
5. กระเทียมจีน 8 กลีบใหญ่ (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
6. น้ำปลา 1-2 ชต. (ชิมก่อนเติมหมด)
7. ซีอิ๊วขาว 1/2 - 1 ชช. (ใส่น้อยกว่าน้ำปลานะ)
8. น้ำตาลทราย 1-2 ชช.
9. ผงปรุงรสหมู 1 ชช.
10. ซีอิ๊วดำ แต่งสีให้เข้ม (ไม่ใส่ก็ได้)
เรามาเตรียมของกันก่อน ต้นหอมค่ะ ล้างแล้วซอยท่อนสั้นๆ เตรียมไว้เลย
พริกขี้หนู อันนี้ใส่มาก-น้อย ตามชอบค่ะ ในภาพที่เห็น เป็นพริกขี้หนูสวน+พริกจินดา
พริกขี้หนู ถ้าซอยอย่างเดียวจะเผ็ดเกินไป นำมาสับอีกที ให้เขาเล็กลง เวลานำเขามาผัด จะแทรกเข้าเนื้อหมูได้ดี จะเผ็ดนิดๆ อร่อยกว่ากันเยอะเลย
รากผักชี ขาดไม่ได้เลยนะคะสำหรับเมนูนี้ เชาช่วยชูรสและกลิ่นได้ ทำให้เมนูเราอร่อยอย่างคาดไม่ถึงเลย และถ้าใส่น้อยไปก็จะไม่มีรสกลิ่นเท่าไหร่นะคะ
นำมาล้าง หั่น และสับให้เล็กลงสักเล็กน้อย แต่ไม่เอาไปบดหรือตำ ใช้หี่นสับเอา รากผักชีที่ซื้อมาล้างหลายน้ำ แต่รากไม่ค่อยขาว
กระเทียมจีนปอกเปลือกเอาแต่เนื้อมาสับหยาบๆค่ะ ครั้งแรกลองใช้กระเทียมไทยสับทั้งเปลือกเพราะกระเทียมไทยจะหอมดี แต่กินแล้วเปลือกทำให้เสียรสชาติ แกะเปลือกออกก็เหลือเนื้อน้อยเพราะกระเทียมไทยเขาจะกลีบเล็ก
น้ำตาลทราย + ผงปรุงรส อย่าเพิ่งใส่หมดตามสูตรแม่เปป ลองชิมก่อน ถูกใจรสไหนก็ปรับเอาค่ะ
กระเทียมสับเจียวก่อนเลยค่ะ
พอให้เหลืองอ่อนๆ ไม่ต้องเหลืองมากนะคะ ตักขึ้นพักไว้ก่อนค่ะ
ในกะทะที่เพิ่งเจียวกระเทียมไป ใส่หมูสับลงไปเลย
ผัดๆ รวนๆ ในกะทะให้เขาไม่จับเป็นก้อนใหญ่นะคะ สักครู่ก็จะมีน้ำหมูออกมา ก็ผัดต่อไปจนหมูสุก น้ำเกือบแห้ง
ก็ใส่รากผักชีลงไปค่ะ ผัดๆให้โดนความร้อนจากกะทะผสมเคล้ากับหมูสับนั่นละ ผัดให้เขาสุก ได้กลิ่นหอมเลยค่ะ
รากผักชีทำให้เมนูนี้แปลกและอร่อยขึ้นจริงๆนะ
แล้วเราก็ปรุงรสค่ะ ใส่เครื่องปรุงต่างๆลงไป
ซีอิ๊วขาว + ซีอิ๊วดำแต่งสี
น้ำปลาหอมๆ
แล้วก็ชิมรสก่อนนะคะ ถูกใจก็ค่อยใส่พริกสับ ต้นหอมซอยลงไป
ผัดๆ ให้เขาคลุกเคล้ากันโดยเพิ่มไฟแรงสักนิดนึง จะมีกลิ่นหอมมากๆ
ความแห้งของหมูสับ อยู่ที่เราต้องการแห้งแค่ไหน อยากได้แห้งมากขึ้นก็ควรใช้เวลาผัดรวนต่อไปอีก ถ้าพอใจ ก็ใส่กระเทียมเจียวที่พักไว้ลงไปค่ะ
คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วก็ปิดไฟ ตักใส่จานค่ะ ถ้าชอบแห้งกว่านี้ก็เพิ่มเวลาผัดหมูกับรากผักชี ใช้ไฟแรงขึ้นได้ค่ะ แต่แห้งมากก็หมูหดเหลือนิดเดียว
โรยต้นหอมซอยตกแต่งเพิ่มความสวยงามเล็กน้อย ตอนกินที่ร้านเขาผัดเสร็จก็เสริฟ ไม่ได้โรยเพิ่มนะคะ แม่เปปมาโรยเอง
รสชาติเขาจะ หอมรากผักชี มีความเค็มนำเล็กๆนิดเดียวค่ะ ไม่เค็มโดดนะ แล้วก็ความเผ็ดขึ้นอยู่กับชอบมากน้อย ต้นหอมซอยก็เพิ่มความหอมไปอีก
กินที่ร้านอร่อยมากกก ติดใจจนครั้งต่อไป ก็แอบดูเวลาเขาทำ 55 แล้วก็อาศัยชิมในจานที่เขามาเสริฟ เอามาลองทำกินเอง หมูสับจะกรอบๆแห้งๆค่ะ แต่ไม่แห้งฝืดคอนะคะ แห้งแบบใส่ปากต่อเนื่องได้สบายๆ
โดยรวมอร่อยนะเออ กินเล่น กินจริง กินเพลิน กินกับข้าวต้ม ข้าวสวย หรือกับน้ำมีฟอง ก็เข้ากันมากๆ
หมายเหตุ : มาเพิ่ม รูปภาพแบบแห้งๆ ให้ชมค่ะ เผื่อสนใจอยากคั่วแห้งมากๆ จะได้แบบนี้ แห้งก็จะกรอบๆ เช่นกัน ไม่ฝืดคอค่ะ ทำเช้า วางทิ้งไว้จนมื้อเย็นก็ไม่เสียค่ะ เพราะเขาแห้ง กินแล้วกรุบๆกรอบๆ หอมดีเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าใครจะทำแห้งมากๆ อย่าใส่เค็มเยอะนะคะ คั่วยิ่งแห้งเขาก็จะยิ่งเค็มค่ะ
ผักในจาน ไม่ใช่ต้นหอม คือใบผักชีสับค่ะ ใช้รากแล้วเหลือใบเยอะ เลยสับๆแล้วใส่ลงคั่วไปด้วยตอนท้ายๆ ก่อนปิดเตา จะได้ไม่เสียของ
หมูสับคั่วพริกน้ำปลา จำมาจากร้านข้าวต้ม
มาดูวัตถุดิบกันค่ะ
1. หมูสับ 500 กรัม แม่เปปใช้แบบติดมัน+เนื้อล้วน
2. รากผักชี รากใหญ่ๆ 6 ราก
3. พริกขี้หนูแดง 25 เม็ด (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
4. ต้นหอม 5-6 ต้น
5. กระเทียมจีน 8 กลีบใหญ่ (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
6. น้ำปลา 1-2 ชต. (ชิมก่อนเติมหมด)
7. ซีอิ๊วขาว 1/2 - 1 ชช. (ใส่น้อยกว่าน้ำปลานะ)
8. น้ำตาลทราย 1-2 ชช.
9. ผงปรุงรสหมู 1 ชช.
10. ซีอิ๊วดำ แต่งสีให้เข้ม (ไม่ใส่ก็ได้)
เรามาเตรียมของกันก่อน ต้นหอมค่ะ ล้างแล้วซอยท่อนสั้นๆ เตรียมไว้เลย
พริกขี้หนู อันนี้ใส่มาก-น้อย ตามชอบค่ะ ในภาพที่เห็น เป็นพริกขี้หนูสวน+พริกจินดา
พริกขี้หนู ถ้าซอยอย่างเดียวจะเผ็ดเกินไป นำมาสับอีกที ให้เขาเล็กลง เวลานำเขามาผัด จะแทรกเข้าเนื้อหมูได้ดี จะเผ็ดนิดๆ อร่อยกว่ากันเยอะเลย
รากผักชี ขาดไม่ได้เลยนะคะสำหรับเมนูนี้ เชาช่วยชูรสและกลิ่นได้ ทำให้เมนูเราอร่อยอย่างคาดไม่ถึงเลย และถ้าใส่น้อยไปก็จะไม่มีรสกลิ่นเท่าไหร่นะคะ
นำมาล้าง หั่น และสับให้เล็กลงสักเล็กน้อย แต่ไม่เอาไปบดหรือตำ ใช้หี่นสับเอา รากผักชีที่ซื้อมาล้างหลายน้ำ แต่รากไม่ค่อยขาว
กระเทียมจีนปอกเปลือกเอาแต่เนื้อมาสับหยาบๆค่ะ ครั้งแรกลองใช้กระเทียมไทยสับทั้งเปลือกเพราะกระเทียมไทยจะหอมดี แต่กินแล้วเปลือกทำให้เสียรสชาติ แกะเปลือกออกก็เหลือเนื้อน้อยเพราะกระเทียมไทยเขาจะกลีบเล็ก
น้ำตาลทราย + ผงปรุงรส อย่าเพิ่งใส่หมดตามสูตรแม่เปป ลองชิมก่อน ถูกใจรสไหนก็ปรับเอาค่ะ
กระเทียมสับเจียวก่อนเลยค่ะ
พอให้เหลืองอ่อนๆ ไม่ต้องเหลืองมากนะคะ ตักขึ้นพักไว้ก่อนค่ะ
ในกะทะที่เพิ่งเจียวกระเทียมไป ใส่หมูสับลงไปเลย
ผัดๆ รวนๆ ในกะทะให้เขาไม่จับเป็นก้อนใหญ่นะคะ สักครู่ก็จะมีน้ำหมูออกมา ก็ผัดต่อไปจนหมูสุก น้ำเกือบแห้ง
ก็ใส่รากผักชีลงไปค่ะ ผัดๆให้โดนความร้อนจากกะทะผสมเคล้ากับหมูสับนั่นละ ผัดให้เขาสุก ได้กลิ่นหอมเลยค่ะ
รากผักชีทำให้เมนูนี้แปลกและอร่อยขึ้นจริงๆนะ
แล้วเราก็ปรุงรสค่ะ ใส่เครื่องปรุงต่างๆลงไป
ซีอิ๊วขาว + ซีอิ๊วดำแต่งสี
น้ำปลาหอมๆ
แล้วก็ชิมรสก่อนนะคะ ถูกใจก็ค่อยใส่พริกสับ ต้นหอมซอยลงไป
ผัดๆ ให้เขาคลุกเคล้ากันโดยเพิ่มไฟแรงสักนิดนึง จะมีกลิ่นหอมมากๆ
ความแห้งของหมูสับ อยู่ที่เราต้องการแห้งแค่ไหน อยากได้แห้งมากขึ้นก็ควรใช้เวลาผัดรวนต่อไปอีก ถ้าพอใจ ก็ใส่กระเทียมเจียวที่พักไว้ลงไปค่ะ
คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วก็ปิดไฟ ตักใส่จานค่ะ ถ้าชอบแห้งกว่านี้ก็เพิ่มเวลาผัดหมูกับรากผักชี ใช้ไฟแรงขึ้นได้ค่ะ แต่แห้งมากก็หมูหดเหลือนิดเดียว
โรยต้นหอมซอยตกแต่งเพิ่มความสวยงามเล็กน้อย ตอนกินที่ร้านเขาผัดเสร็จก็เสริฟ ไม่ได้โรยเพิ่มนะคะ แม่เปปมาโรยเอง
รสชาติเขาจะ หอมรากผักชี มีความเค็มนำเล็กๆนิดเดียวค่ะ ไม่เค็มโดดนะ แล้วก็ความเผ็ดขึ้นอยู่กับชอบมากน้อย ต้นหอมซอยก็เพิ่มความหอมไปอีก
กินที่ร้านอร่อยมากกก ติดใจจนครั้งต่อไป ก็แอบดูเวลาเขาทำ 55 แล้วก็อาศัยชิมในจานที่เขามาเสริฟ เอามาลองทำกินเอง หมูสับจะกรอบๆแห้งๆค่ะ แต่ไม่แห้งฝืดคอนะคะ แห้งแบบใส่ปากต่อเนื่องได้สบายๆ
โดยรวมอร่อยนะเออ กินเล่น กินจริง กินเพลิน กินกับข้าวต้ม ข้าวสวย หรือกับน้ำมีฟอง ก็เข้ากันมากๆ
หมายเหตุ : มาเพิ่ม รูปภาพแบบแห้งๆ ให้ชมค่ะ เผื่อสนใจอยากคั่วแห้งมากๆ จะได้แบบนี้ แห้งก็จะกรอบๆ เช่นกัน ไม่ฝืดคอค่ะ ทำเช้า วางทิ้งไว้จนมื้อเย็นก็ไม่เสียค่ะ เพราะเขาแห้ง กินแล้วกรุบๆกรอบๆ หอมดีเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าใครจะทำแห้งมากๆ อย่าใส่เค็มเยอะนะคะ คั่วยิ่งแห้งเขาก็จะยิ่งเค็มค่ะ
ผักในจาน ไม่ใช่ต้นหอม คือใบผักชีสับค่ะ ใช้รากแล้วเหลือใบเยอะ เลยสับๆแล้วใส่ลงคั่วไปด้วยตอนท้ายๆ ก่อนปิดเตา จะได้ไม่เสียของ