JJNY : เพจดังท้อ! เห็นรอยกระสุนที่กัมพูชาอ้าง│ปชน.แฉลดค่าทางด่วน│มะนาวพุ่งลูกละ 5 บ.│จีนแนะพลเมืองเลี่ยงเดินทางไปญี่ปุ่น

เพจดังท้อ! เห็นรอยกระสุนที่กัมพูชาอ้าง-ลั่นถ้า AOT เชื่อก็บ้าแล้ว
.
.
เหนื่อยเกินกว่าจะใช้หลักวิชาการอธิบาย! เพจดังท้อหลังเห็นภาพรอยกระสุนที่กัมพูชาอ้างทหารไทยยิงเสียชีวิต ลั่นถ้าคณะ AOT เชื่ออะไรแบบนี้ก็บ้าแล้ว
.
จากกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เผยแพร่ภาพทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ที่ได้เดินทางลงพื้นที่โรงพยาบาลกัมพูชา-ญี่ปุ่น-มงคล โบเร จ.บันเตียเมียนเจย เพื่อตรวจสอบสถานการณ์พลเรือนชาวกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบ้านหนองหญ้าแก้ว-เปรยจัน เมื่อวันที่ 12 พ.ย. และยังได้กำกับดูแลการชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิต คือ นายดี เนย์ ชายอายุ 36 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเปรยจัน
.
ขณะที่โซเชียลไทยกลับมีการตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับสภาพรอยกระสุนในศพที่กัมพูชาอ้างว่า ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
.
โดยหนึ่งในเพจดังที่ออกมาตั้งคำถามคือ “หมอแล็บแพนด้า” ที่โพสต์รูปรอยกระสุนที่กัมพูชาอ้าง พร้อมระบุว่า “พอคนไทยส่วนใหญ่ถามหาภาพการชันสูตรศพจากการถูกยิง เขมรก็รีบจัดให้ พี่น้องดูเอาเถอะ  คือแบบมันเหนื่อยเกินกว่าจะใช้วิชาการมาอธิบาย แล้วถ้า AOT , IOT, MRT , BTS หรือสี TOA เชื่อกับอะไรแบบนี้ ก็บ้าแล้ววววว แสดงว่ารู้เห็นเป็นใจกันแน่นอน
.
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ “เบ็ดเกี่ยวหรอ” หรือบางคนบอกว่า “เราดูละครยุคเก่ากันหรอ??” หรือบอกว่า “นี่รอยกระสุนหรือล้มทับไม้เสียบลูกชิ้นฮะ ขอโทษที” ขณะที่บางคนก็บอกว่า “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยยยย
.
https://www.facebook.com/MTlikesara/posts/pfbid0zg7huGQTVY9m3hMSNGorDL7E7ghah874K1YnUmhzDHBvMXdmRjSAvW3bR5EMeS1dl
.

.
ปชน.แฉลดค่าทางด่วน 50 บาท แลกขยายสัมปทานข้ามศตวรรษเอื้อนายทุน
.
พรรคประชาชน แฉลดค่าทางด่วน 50 บาท แลกขยายสัมปทานข้ามศตวรรษ 2601 - สร้างโครงการทางด่วนชั้น Double Deck มองได้ไม่คุ้ม แก้ปัญหาจราจรไม่ได้ แนะหากจริงใจต้องปล่อยหมดสัญญาวิ่งฟรีช่วงกลางคืน ซัดรัฐบาล MOA 4 เดือน ควรรอรัฐบาลชอบธรรมมาจากการเลือกตั้งปิดดีลใหญ่
.
วันที่ 15 พ.ย.2568 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน แถลงจุดยืนพรรคประชาชนต่อกรณีรัฐบาล 4 เดือนจะขยายอายุสัมปทานทางด่วนทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck ยาวนานข้ามศตวรรษ ต่อความร่ำรวยให้นายทุน หาเงินไปใช้เลือกตั้งใช่หรือไม่
.
พร้อมการตั้งข้อสังเกตถึงการลดค่าทางด่วนไม่เกิน 50 บาทเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไม่รวมโครงการพิเศษระหว่างเมือง เป็นโฆษณาเกินจริง ซึ่งอาจเข้าใจได้ว่าเป็นข่าวดี แต่กลับถูกแลกกับการขยายสัมปทาน จากเดิมปี2563-2578 และล่าสุดขยายข้ามศตวรรษ 15 ปี 8 เดือน ถึง 31 มีนาคม 2601 เป็นการทำการตลาดให้ประชาชนเห็นว่าจ่ายค่าผ่านทางถูกลงแต่คุ้มหรือไม่ ที่ในระยะยาวจะเข้ากระเป๋านายทุนสูงขึ้น และการขึ้นทางด่วนฟรีวันหยุดไม่ใช่ผลงานรัฐบาล แต่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการขยายสัปทานด้วย
.
ขณะเดียวกันยังตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเอกชนได้รับผลประโยชน์ลดลงต้องแลกมาด้วยอะไรต่างๆ มามาก อย่างโครงการขนาดใหญ่ก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 มูลค่างบประมาณ 34,800 ล้านบาท ซึ่งการขยายสัมปทานในลักษณะเช่นนี้เป็นการแช่แข็งการพัฒนา ด้วยการผูกพันของสัมปทาน พร้อมมองว่าการทำทางด่วน 2 ชั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาจราจรได้ เพราะการก่อสร้างอยู่ในช่วง งามวงศ์วาน-พระราม 9 ซึ่งไม่มีทางลงต้องใช้ทางลงเดียวกับทางด่วนชั้นที่1 เป็นเพียงการเพิ่มพื้นที่จอดรถทางอากาศที่แพงมากไม่ได้คุ้มค่า
.
ขณะเดียวกัน ยังมองว่าการลดค่าทางด่วนสามารถทำได้อยู่แล้ว โดยให้วิ่งฟรีช่วงกลางคืน หากปล่อยให้สัมปทานหมดแล้วคืนสู่รัฐ แลกกับการปรับขึ้นราคาในช่วงเวลาเร่งด่วน และตั้งสังเกตว่า ในช่วงทางด่วนสายสีแดง ช่วงแจ้งวัฒนะ-บางปะอิน ไม่ได้เกี่ยวของกับโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 แต่ได้ขยายสัมปทานไปด้วย
.
โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้ค้านแบบหัวชนฝา แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนอย่างชัดเจน พร้อมอยากชวนคิดว่าผู้บริหาร กทม.ชงเพื่อใคร ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้บริหาร กทม.แม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐมนตรีแล้ว ใครปั้นกันมากันแน่
.
โดยจุดยืนของพรรคประชาชนคัดค้านด้วย 4 เหตุผลคือ ไม่คุ้มค่า ไม่โปร่งใส ไม่ได้ดีจริง และไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลนี้ นี่เป็นรัฐบาลที่ MOA ที่อยู่ไม่เกิน 31 มกราคม 2569แต่กำลังคิดจะสร้างภาระให้กับประชาชนไปถึงปี 2061 ดีลใหญ่ๆ ไม่ควรเกิดขึ้นรัฐบาลนี้ ขอให้รอรัฐบาลหน้าที่มาด้วยความชอบธรรมในการเลือกตั้ง เป็นผู้ดำเนินการ และตนได้รับข้อมูลจากข้าราชการว่ามีวาระลับในคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ คณะกรรมการ PPP เมื่อ 31 ตุลาคม 2568 ขอให้ถาม สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม หรือ สคล มีเรื่องขยายสัมปทานหรือไม่ และมติคืออะไร เพราะหากหลุดจากบอร์ด PPP จะหลุดเข้า ครม.ทันที
.

.
มะนาว พุ่งลูกละ 5 บาท นับลูกขายไม่ชั่งกิโล แม่ค้าชี้มีแนวโน้มขึ้นอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10020904
.
มะนาว พุ่งลูกละ 5 บาท นับลูกขายไม่ชั่งกิโล แม่ค้าชี้ยังอาจมีแนวโน้มขึ้นอีก เนื่องจากช่วงเดือนนี้มะนาวจะขาดตลาดอย่างมาก
.
เชียงใหม่ – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตลาดหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสังเกตการณ์ราคาพืชผักต่าง ๆ ที่เหล่าพ่อค้านำมาจำหน่าย
.
มะนาว พุ่งลูกละ 5 บาท นับลูกขายไม่ชั่งกิโล แม่ค้าชี้ยังอาจมีแนวโน้มขึ้นอีก เนื่องจากช่วงเดือนนี้มะนาวจะขาดตลาดอย่างมาก
.
เชียงใหม่ – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตลาดหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสังเกตการณ์ราคาพืชผักต่าง ๆ ที่เหล่าพ่อค้านำมาจำหน่าย
.
จากการตรวจสอบพบว่า มะนาว ร้านค้าส่วนใหญ่ปักป้ายติดราคาแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ลูกละ 5 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม จากในช่วงปกติ
.
แม่ค้า เปิดเผยว่า ราคามะนาวจะแพงในช่วงเดือนนี้ตลอด ตอนนี้อยู่ที่ลูกละ 5 บาท และมีแนวโน้มจะขึ้นอีกเป็นลูกละ 7 บาท เนื่องจากช่วงเดือนนี้มะนาวจะขาดตลาดอย่างมาก
.
ตอนไปรับซื้อมะนาวจากสวนและย่านตลาดเมืองใหม่แหล่งใหญ่ มะนาวแป้นจะนับลูกขายกันเลย ราคาจะแพงที่สุด ส่วนมะนาวพันธุ์อื่น ก็จะชั่งขายเป็นกิโล ตามคุณภาพของมะนาวแต่ละพันธุ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่