KEY POINTS
ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้าซื้อหนี้เสียของลูกหนี้รายย่อย
โครงการระยะแรกครอบคลุมลูกหนี้จากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) มูลค่าหนี้รวมประมาณ 62,400 ล้านบาท
หนี้ที่ถูกซื้อจะเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ในเงื่อนไขที่ผ่อนปรน เพื่อช่วยเหลือและเปิดโอกาสให้ลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้อีกครั้ง
วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เห็นชอบโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เริ่มเฟสแรก ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทลูกรวมทั้งลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) รวม 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 62,400 ล้านบาท โดยจะรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไปในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้
ส่วนในระยะต่อไปจะมีการพิจารณาขยายขอบเขตการช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือ Non-banks ตามหลักการเดียวกัน เพื่อให้นโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครอบคลุมลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายทั้งหมดที่มีภาระหนี้ NPLs ซึ่งเป็นหนี้ไม่มีหลักประกันกับผู้ให้บริการทางการเงินทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 จำนวน 3.4 ล้านราย หรือ 4.76 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้กว่า 122,000 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินการในเฟสแรก แยกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 เป็นการดำเนินการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC ลูกหนี้ที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์ ลูกหนี้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ และลูกหนี้ SFIs จำนวน 1.56 ล้านบัญชี เป็นจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.25 ล้านคน คิดเป็นภาระหนี้กว่า 43,600 ล้านบาท โดยจะโอนหนี้ไปให้กับ AMC ทั้ง บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) หรือบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (Ari-AMC)
โดยให้ AMC นำหนี้ดังกล่าวมาปรับโครงสร้างหนี้ผ่านการเสนอเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ผ่อนปรนและเหมาะกับความสามารถของคนกลุ่มนี้มากขึ้น เช่น การลดดอกเบี้ย ไม่คิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมการจ่ายชำระเพียงบางส่วนเพื่อปิดบัญชี เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 การช่วยเหลือเพิ่มเติมโดย SFIs ดำเนินการเอง มีจำนวน 790,000 บัญชี เป็นจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 700,000 คน คิดเป็นภาระหนี้กว่า 18,800 ล้านบาท
โดย SFIs จะมีมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นมาตรการเฉพาะของแต่ละธนาคารเพื่อบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้ SFIs เนื่องจากลูกหนี้ของ SFIs กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางมากกว่าลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ หรือได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านกลไกอื่นแล้ว
ดังนั้น SFIs จะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม เช่น มาตรการชำระบางส่วนเพื่อปิดบัญชี ลดเงินต้นยกเว้นดอกเบี้ยทั้งหมด มาตรการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ที่ผ่อนปรนมากกว่าเกณฑ์ปกติของธนาคาร การปิดบัญชีและตัดเป็นหนี้สูญสำหรับลูกหนี้ขาดศักยภาพ เป็นต้น
"กลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนจำนวนมากมีภาระหนี้ที่หนัก ผ่อนชำระไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน โดยแนวทางการช่วยเหลือจะโอนหนี้ทั้งหลายให้ไปอยู่กับ AMC 2 กลุ่ม ทั้ง SAM และ Ari-AMC เพื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เช่น ลดภาระ ผ่อนชำระ การปิดหนี้ และจะบริหารจัดการหนี้แบบรวมศูนย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกที่มีประวัติการชำระที่ดีมีโอกาสกลับเข้าถึงเชื่อในระบบได้มากขึ้น" นายเอกนิติ ระบุ
นายเอกนิติ กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจวันนี้ ได้อนุมัติในหลักการแล้วส่วนในรายละเอียดต่อไปทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือหรือ MOU กับทางธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ต่อไป
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนเกิน 50% ของจำนวนบัญชี NPL ทั้งหมด โดยมีมากถึง 4.76 ล้านบัญชี โดยจะเริ่มเป็นเฟสแรก ก่อน 1.9 ล้านบัญชี ซึ่งจะโอนเข้ามาใน SAM และ Ari-AMC โดยจะโอนหนี้เฉพาะที่เป็น NPL วันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขหนี้อย่างผ่อนปรน และกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะเป็นมาตรการเพียงครั้งเดียว เพื่อป้องกันการเสียวินัยทางการเงินในอนาคต และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ต่อไป
"เฟสแรก 1.9 ล้านราย มีมูลหนี้ประมาณ 44,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินที่ใช้จะไม่ใช้เงินของคลังหรือเงินงบประมาณ แต่จะใช้แหล่งเงินจากเงินที่เหลือของโครงการคุณสู้เราช่วย ซึ่งมาจากการส่วนลดเงินนำส่งกองทุน FIDF ตั้งแต่ตั้นปี จาก 0.46% เหลือ 0.23% โดยส่วนที่ลดลงมาได้ถูกตั้งไว้ในบัญชีและนำมาใช้ในโครงการนี้ ส่วนราคาที่ซื้อมา จะใช้ราคาประมาณการ และเป็นราคาที่ตกลงกันระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยจะมีโครงสร้างการแบ่งปันการเรียกเก็บเงินในอนาคต แต่ตัวเลขราคาที่ใช้ยังขอสงวนไม่เปิดเผยแต่อยู่ในมาตรฐาน" นายวิทัย กล่าว
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ลูกหนี้ที่โอนเข้ามาใน AMC นี้จะได้รับรหัสพิเศษ (รหัส 16) ในเครดิตบูโร ซึ่งเป็นรหัสที่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีประวัติการเงินที่ดีครบ 3 ปีในการขอสินเชื่อใหม่ หากลูกหนี้สามารถผ่อนชำระหนี้ใหม่ได้ดี ตั้งแต่ 1-6 เดือน สถาบันการเงินสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทันที
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของเฟส 2 จะครอบคลุมกลุ่ม Non-Bank ที่ไม่ได้อยู่ในระบบกลุ่มลูกของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในระยถัดถัดไป
มติครม.เศรษฐกิจ เคาะแก้หนี้ต่ำแสน 3.4 ล้านราย เคาะ AMC ซื้อหนี้รายย่อย เฟสแรก 6.2 หมื่นล้าน
ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้าซื้อหนี้เสียของลูกหนี้รายย่อย
โครงการระยะแรกครอบคลุมลูกหนี้จากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) มูลค่าหนี้รวมประมาณ 62,400 ล้านบาท
หนี้ที่ถูกซื้อจะเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ในเงื่อนไขที่ผ่อนปรน เพื่อช่วยเหลือและเปิดโอกาสให้ลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้อีกครั้ง