๑.
ชีวิตนี้คือทางกลางฟ้ากว้าง บางคราฝนบางคราฉ่ำบางคราฝัน
เคยร้องไห้เคยยิ้มเคยจาบัลย์ แต่วันนั้นก็สอนให้เราเดิน
๒.
บางหนทางทอดไกลไร้แสงดาว ใจเหน็บหนาวราวลมที่พัดเขิน
แต่ทุกก้าวที่ล้มและยับเยิน กลับเผชิญด้วยใจที่เข้มแข็ง
๓.
ฟ้ายังมีดาวพร่างกลางคืนมืด โลกไม่หยุดแม้หมอกจะปิดแสง
ทุกข์จะคลายเมื่อใจไม่แสวง สุขจะแฝงอยู่ในสิ่งที่เราเป็น
๔.
อย่าหวังฟ้าจะใสไร้เมฆบัง ชีวิตยังต้องผ่านบทเรียนเห็น
เพียงอย่าหยุดอย่าท้อในเช้าเย็น เดินให้เด่นด้วยศรัทธาในใจตน
๕.
ยามเหนื่อยล้าให้ฟังเสียงหัวใจ ว่าความหมายของทางนั้นคือผล
แม้ฝุ่นดินพร่ามัวบนทางคน ยังมีต้นกล้าแห่งฝันงอกกลางทราย
๖.
วันเวลาพัดพาให้เราเติบ ทุกหยาดเหงื่อคือเพชรอันสดใส
ความล้มเหลวคือครูสอนก้าวไป ให้เข้าใจค่าชีวิตทุกนาที
๗.
ดวงตะวันยังขึ้นในทุกเช้า อย่าปล่อยเงามืดหม่นมาบังสี
จงใช้รักแทนแรงแห่งชีวี เติมความดีลงในทางที่เดิน
๘.
เมื่อถึงปลายเส้นทางกาลเวลาหมุน ทุกเรื่องราวจะกลั่นเป็นค่าฝัน
สิ่งที่เหลือไม่ใช่เพียงทรัพย์สิน แต่คือจิตงามแท้ที่โลกจำ
🌾 กลอนชีวิต — ทางเดินแห่งแสงและเงา
๑.
ชีวิตนี้คือทางกลางฟ้ากว้าง บางคราฝนบางคราฉ่ำบางคราฝัน
เคยร้องไห้เคยยิ้มเคยจาบัลย์ แต่วันนั้นก็สอนให้เราเดิน
๒.
บางหนทางทอดไกลไร้แสงดาว ใจเหน็บหนาวราวลมที่พัดเขิน
แต่ทุกก้าวที่ล้มและยับเยิน กลับเผชิญด้วยใจที่เข้มแข็ง
๓.
ฟ้ายังมีดาวพร่างกลางคืนมืด โลกไม่หยุดแม้หมอกจะปิดแสง
ทุกข์จะคลายเมื่อใจไม่แสวง สุขจะแฝงอยู่ในสิ่งที่เราเป็น
๔.
อย่าหวังฟ้าจะใสไร้เมฆบัง ชีวิตยังต้องผ่านบทเรียนเห็น
เพียงอย่าหยุดอย่าท้อในเช้าเย็น เดินให้เด่นด้วยศรัทธาในใจตน
๕.
ยามเหนื่อยล้าให้ฟังเสียงหัวใจ ว่าความหมายของทางนั้นคือผล
แม้ฝุ่นดินพร่ามัวบนทางคน ยังมีต้นกล้าแห่งฝันงอกกลางทราย
๖.
วันเวลาพัดพาให้เราเติบ ทุกหยาดเหงื่อคือเพชรอันสดใส
ความล้มเหลวคือครูสอนก้าวไป ให้เข้าใจค่าชีวิตทุกนาที
๗.
ดวงตะวันยังขึ้นในทุกเช้า อย่าปล่อยเงามืดหม่นมาบังสี
จงใช้รักแทนแรงแห่งชีวี เติมความดีลงในทางที่เดิน
๘.
เมื่อถึงปลายเส้นทางกาลเวลาหมุน ทุกเรื่องราวจะกลั่นเป็นค่าฝัน
สิ่งที่เหลือไม่ใช่เพียงทรัพย์สิน แต่คือจิตงามแท้ที่โลกจำ