แสงสุดท้ายคล้อยต่ำค่ำใกล้เร้น
ลมเย็นเล่นริ้วน้ำระยับฝัน
คลื่นกระทบไม้เก่าดังรำพัน
บ้านตรงนั้นนิ่งเงียบเยียบทั้งเรือน
เถาวัลย์เลื้อยคลุมชายชายคาเก่า
เหมือนโอบเงาอดีตไว้ไม่เลือน
หน้าต่างปิดแง้มค้างกลางแสงเดือน
ราวรอเพื่อนผู้จากไกลไม่คืนมา
เบียร์ข้างแก้วเย็นชืดข้างฝั่งฉัน
สายน้ำสั่นสะท้อนฟ้าเหมือนภาพหล้า
ฝั่งโน้นเรือนนั้นดูเหงาจับวิญญา
เหมือนฝากคำร่ำลามาในคลื่นใจ
เคยมีใครนั่งรอที่ชานไม้
หรือสายใครเคยนั่งฟังเสียงไหว
บางคำพูดจากลมยังซ่อนใน
แผ่วมาให้คนเหงาเงี่ยหูฟัง
จันทร์คืนนี้เหลืองนวลราวฝันเก่า
ส่องเงาเรือนสะท้อนน้ำระยับสังข์
เห็นเงาหญิงโบกผ้าขาวกลางแสงจัง
หรือเพียงฝัน…หลงลืมในคืนดาว
แสงไฟเรือผ่านพ้นเหมือนฝันวาบ
เงาเรือนทราบอยู่ในหมอกละมุนหนาว
ใจคนล้าได้พิงเพียงรอยคราว
กับเสียงเก่าที่แผ่วแว่วในคลอง
🌙 เงาเรือนข้ามคลอง
แสงสุดท้ายคล้อยต่ำค่ำใกล้เร้น
ลมเย็นเล่นริ้วน้ำระยับฝัน
คลื่นกระทบไม้เก่าดังรำพัน
บ้านตรงนั้นนิ่งเงียบเยียบทั้งเรือน
เถาวัลย์เลื้อยคลุมชายชายคาเก่า
เหมือนโอบเงาอดีตไว้ไม่เลือน
หน้าต่างปิดแง้มค้างกลางแสงเดือน
ราวรอเพื่อนผู้จากไกลไม่คืนมา
เบียร์ข้างแก้วเย็นชืดข้างฝั่งฉัน
สายน้ำสั่นสะท้อนฟ้าเหมือนภาพหล้า
ฝั่งโน้นเรือนนั้นดูเหงาจับวิญญา
เหมือนฝากคำร่ำลามาในคลื่นใจ
เคยมีใครนั่งรอที่ชานไม้
หรือสายใครเคยนั่งฟังเสียงไหว
บางคำพูดจากลมยังซ่อนใน
แผ่วมาให้คนเหงาเงี่ยหูฟัง
จันทร์คืนนี้เหลืองนวลราวฝันเก่า
ส่องเงาเรือนสะท้อนน้ำระยับสังข์
เห็นเงาหญิงโบกผ้าขาวกลางแสงจัง
หรือเพียงฝัน…หลงลืมในคืนดาว
แสงไฟเรือผ่านพ้นเหมือนฝันวาบ
เงาเรือนทราบอยู่ในหมอกละมุนหนาว
ใจคนล้าได้พิงเพียงรอยคราว
กับเสียงเก่าที่แผ่วแว่วในคลอง