ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน

กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์: ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน

บทคัดย่อ
บทความนี้ศึกษายุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชนและการพัฒนาสินค้าเศรษฐกิจชุมชนภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ของประเทศไทย สินค้าเศรษฐกิจชุมชนคือสินค้าหรือบริการที่สร้างขึ้นจากทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และมรดกทางวัฒนธรรม โดยไม่ได้มุ่งหวังเพียงเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ สร้างความภาคภูมิใจในชุมชน และยกระดับคุณค่าอย่างยั่งยืน แตกต่างจากนโยบายประชานิยมในเวลาต่อมา เช่น โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์และการผลิตเชิงปริมาณเพื่อการตลาดมากกว่า สินค้าชุมชนภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ให้ความสำคัญกับการมีเจ้าของร่วมของชุมชน การพึ่งพาตนเอง และการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง

การศึกษานี้ยังวิเคราะห์กองทุนเศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน โดยเปรียบเทียบกับนโยบายประชานิยม เช่น “กองทุนหมู่บ้าน” หรือ “ธนาคารประชาชน” กองทุนชุมชนภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 มีลักษณะโดดเด่นคือ การร่วมลงทุนของสมาชิก มีระบบการชำระคืน และมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ซึ่งช่วยสร้างวินัยทางการเงินและเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระยะยาว กลไกเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านโยบายที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากได้จริง ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และลดการพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐที่เป็นเพียงการสงเคราะห์

ผลการศึกษาเสนอว่ากลไกเศรษฐกิจชุมชนภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 เป็นรูปแบบการพัฒนาที่มีความยั่งยืน สามารถเสริมสร้างพลังให้กับชุมชนท้องถิ่น พัฒนาศักยภาพมนุษย์ และสร้างคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำสำคัญ: ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน, สินค้าเศรษฐกิจชุมชน, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8, เศรษฐกิจฐานราก, การพัฒนาที่ยั่งยืน, การเสริมพลังชุมชน

บทนำ

ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจฐานชุมชนได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน เสริมสร้างศักยภาพท้องถิ่น และส่งเสริมความเข้มแข็งทางสังคม ในประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ได้เน้นแนวทางการพัฒนาที่มุ่ง “คนเป็นศูนย์กลาง” โดยยกระดับ “การพัฒนามนุษย์” ให้เป็นเป้าหมายหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจ ภายใต้แผนดังกล่าว “ผลิตภัณฑ์ชุมชน” ได้กลายเป็นกลไกสำคัญของการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยบูรณาการทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญา และมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอย่างสอดประสาน

แตกต่างจากโครงการประชานิยมในภายหลัง เช่น โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งมุ่งเน้นด้านการสร้างตราสินค้าและการผลักดันสู่ตลาดเชิงพาณิชย์เป็นสำคัญ แนวทางของแผนฉบับที่ 8 ให้ความสำคัญกับ “ความเป็นเจ้าของของชุมชน” การพัฒนาทักษะ และความยั่งยืนในระยะยาว ผลิตภัณฑ์ชุมชนจึงไม่ได้ถูกออกแบบเพียงเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์เท่านั้น หากแต่เพื่อเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ สร้างความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่น และทำให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจของตนเองได้

กลไกทางการเงินภายใต้แผนฉบับที่ 8 ได้แก่ กองทุนเศรษฐกิจชุมชนและสินเชื่อพัฒนาชุมชน ทำหน้าที่สนับสนุนอย่างเป็นระบบทั้งด้านการผลิต การตลาด และการพัฒนาทักษะ โดยจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ เครื่องมือเหล่านี้ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระยะยาวของชุมชน ซึ่งแตกต่างจากนโยบายประชานิยมที่เน้นการแจกเงินหรือสินเชื่อแบบให้เปล่าโดยขาดวินัยทางการเงิน

บทความนี้มุ่งศึกษากรอบยุทธศาสตร์ กลไกการดำเนินงาน และผลกระทบระยะยาวของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชุมชนภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ของประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นบทบาทสำคัญของแนวทางดังกล่าวในการเสริมสร้างพลังให้ชุมชนท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

วรรณกรรมปริทัศน์

แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชุมชนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในเชิงวิชาการและเชิงนโยบายว่าเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างอำนาจให้ประชาชนในท้องถิ่นและยกระดับความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม ในบริบทของประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ได้กำหนด “ผลิตภัณฑ์ชุมชน” เป็นยุทธศาสตร์หลักของการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยมุ่งใช้ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับคุณค่าทางสังคม (กรมการปกครอง, 2541)

ผลิตภัณฑ์ชุมชนภายใต้แผนฉบับที่ 8 มิได้มุ่งเน้นเพียงมูลค่าทางการค้า หากแต่ถูกออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะของประชาชน เสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ และปลูกฝังความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น แนวทางนี้สอดคล้องกับหลักการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและการเป็นเจ้าของร่วมของชุมชน ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากนโยบายประชานิยมในระยะต่อมา เช่น โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่มักให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์และการทำตลาดเชิงพาณิชย์ มากกว่าการพัฒนาศักยภาพระยะยาวของชุมชน (กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, 2543)

กลไกทางการเงินที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชุมชนในช่วงแผนฉบับที่ 8 ได้แก่ กองทุนเศรษฐกิจชุมชนและสินเชื่อพัฒนาชุมชน ซึ่งออกแบบโดยยึดหลักความรับผิดชอบร่วม (accountability) การลงทุนร่วม (co-investment) และความยั่งยืน (sustainability) โดยกองทุนดังกล่าวกำหนดให้ชุมชนมีส่วนสมทบทุน จัดทำแผนการชำระคืน และมีกลไกกำกับดูแล ส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงทางการเงินระยะยาวและส่งเสริมวินัยทางการเงินในชุมชน ในทางตรงกันข้าม นโยบายประชานิยมในยุคต่อมา เช่น การให้เงินกู้ผ่าน “ธนาคารประชาชน” หรือการแจกเงินโดยตรง มักขาดกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชนและขาดมาตรการด้านความยั่งยืน ส่งผลให้เกิดภาระหนี้สินและการพึ่งพิงรัฐ (กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, 2543)

วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องชี้ให้เห็นว่า “การมีส่วนร่วมของชุมชน ความเป็นเจ้าของร่วม และการพัฒนาทุนมนุษย์” เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจฐานชุมชนในระยะยาว ดังนั้น แนวทางภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 จึงถือเป็นพัฒนาการสำคัญของกระบวนทัศน์การพัฒนาของประเทศไทย ซึ่งก้าวข้ามการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ไปสู่แบบจำลองการพัฒนาเชิงโครงสร้างที่ยึด “คนเป็นศูนย์กลาง”

ระเบียบวิธีวิจัย

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้ระเบียบวิธีเชิงกรณีศึกษา (Case Study Approach) เพื่อศึกษาการพัฒนาและการดำเนินงานของสินค้าเศรษฐกิจชุมชนภายใต้ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเชิงโครงสร้างภายใต้ยุทธศาสตร์ “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” การวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์เอกสาร การทบทวนวรรณกรรม และการวิเคราะห์เชิงนโยบาย เพื่อให้เข้าใจทั้งกรอบแนวคิดและผลลัพธ์เชิงปฏิบัติของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน

แหล่งข้อมูล

ข้อมูลปฐมภูมิ
กฎ ระเบียบ และเอกสารเชิงนโยบายทางราชการ เช่น

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจชุมชน (พ.ศ. 2541)
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนชุมชนและกองทุนสตรี (พ.ศ. 2543)
เอกสารคำสั่ง ข้อสั่งการ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องกับโครงการเศรษฐกิจชุมชน

ข้อมูลทุติยภูมิ

บทความวิชาการ รายงานวิจัย เอกสารทางวิชาการ
รายงานการบริหารโครงการจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
งานศึกษาเชิงเปรียบเทียบระหว่างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชนและโครงการประชานิยม เช่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

การวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis):
วิเคราะห์เอกสารนโยบายอย่างเป็นระบบเพื่อจำแนกวัตถุประสงค์ นิยาม กลไกบริหารจัดการทางการเงิน และหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน
การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review):
ทบทวนเอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ความยั่งยืนของชุมชน การพึ่งพาตนเอง และการเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์
การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ (Comparative Analysis):
เปรียบเทียบกองทุนเศรษฐกิจชุมชนกับโครงการประชานิยมในระยะหลัง เช่น กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารประชาชน และ OTOP

วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล

การวิเคราะห์เชิงประเด็น (Thematic Analysis):
ระบุประเด็นสำคัญ เช่น ความเป็นเจ้าของของชุมชน การพัฒนาทักษะ การจัดการทางการเงิน และผลกระทบทางสังคมเศรษฐกิจ
การวิเคราะห์กระบวนการ (Process Tracing):
ติดตามพัฒนาการของสินค้าเศรษฐกิจชุมชนตั้งแต่กระบวนการออกแบบเชิงนโยบายจนถึงการดำเนินงานจริงในพื้นที่
การประเมินเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Evaluation):
วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จและข้อจำกัดของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน เปรียบเทียบกับโครงการประชานิยมภายหลังเพื่อประเมินความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคม

ระเบียบวิธีวิจัยนี้เปิดโอกาสให้เข้าใจอย่างรอบด้านว่า ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชนตามปรัชญาสุขวิชโนมิกส์มีส่วนสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก เสริมสร้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่