[CR] เปิดประเดิมกับเชฟบิว ภูเตโช ก่อนจะเปิดร้าน SOAK ที่ทรงวาด

เปิดมาด้วยการโปรโมตว่า "มากินข้าวกับเชฟบิว" เราที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากการได้ไปทานที่ร้านหลายๆครั้งก็ตัดสินใจจองทันทีแบบไม่ต้องตัดสินใจนานเลย


พอมาถึงร้านที่ใช้ทานครั้งนี้ ซึ่งเรียกว่าสตูดิโอเชฟลูกจรรย์ก็ได้ ก็ได้พบกับการต้อนรับอย่างอบอุ่น(จนเกือบร้อน)คล้ายๆเฮลคิทเช่นจากเชฟบิวและเชฟแอ้ รวมถึงทีมงานที่น่ารักๆ ระหว่างนั้นก็ได้นั่งคุยกับผู้ที่มาทานรอบเดียวกันสักพักแล้วก็ถึงเวลาทานอาหาร


แล้วยิ่งเชฟมาจัดจานให้ดูตรงหน้า มาเล่นมุกเฮฮาปาจิงโก๊ะยิ่งทำให้บรรยากาศผ่อนคลายสุดๆเลย เสียดายที่ไม่มีไมค์ ไม่เช่นนั้นจะได้ให้เชฟซ้อมลูกคอสักหน่อยแล้ว


พอถึงเวลาของอาหาร จานแรกเชฟเสิร์ฟมาในรูปแบบของทูน่าที่ทานคู่กับแตงโม ตักเข้าไปแต่ละคำคือเฟรช สดชื่น เหมาะแก่การเรียกน้ำย่อยสุดๆ


รอไม่นานหอยพร้อมเบคอนกรอบกับทาร์ตก็ถึงคิวออกโรงกับเขาแล้ว ที่น่าเซอร์ไพร์สของจานนี้คือเชฟเอาผักคอสมาทำเจลลี่ ภาพในหัวของคนที่ไม่ได้ทำงานสายร้านอาหารคืองงเต็ก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเชฟเคยทำไอศครีมแซลมอนก็เลยลดความแปลกใจไปได้นิดนึง เป็นจานที่มานวลๆครีมๆแต่ไม่เลี่ยนเลย เหมือนว่าเชฟคัดสรรมาอย่างดีแล้วเลือกทุกอย่างได้เข้ากันไปหมด


จานถัดไปเชฟแจ้งว่าเปลี่ยนจากปลาซาบะเป็นปลาน้ำดอกไม้ มะเขือเทศสองลูกที่ปรุงมาคนละแบบ แน่นอนว่าทาสรักมะเขือเทศแบบเราย่อมเลือกไม่ได้อยู่แล้วว่าลูกไหนอร่อยว่า รวมถึงสิ่งที่อยู่ใต้ปลานั่นเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ทุกอย่างในจานก็ยังคงเข้ากันได้ดีเหมือนที่จานผ่านๆมา


และก็ถึงคิวของซาวโดว์ ที่เชฟแอ้ไปฝึกปรือกับเชฟเอียน เชฟกระทะเหล็กที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี ถึง2คอร์สกันเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าเรียนและเอามาเทสเองจนกว่าจะเก่งเลยทีเดียว


ต่อมาก็ถึงคิวของเนื้อ ที่ทานเข้าไปแล้วรู้สึกถึงความเป็นสมุนไพรเต็มเปี่ยม เราที่ไม่ทานอโวคาโดแต่ก็ทานจานนี้สบายๆ ฟักทองและใบมะกอกที่ไม่ได้มีไว้แค่แต่งจานแต่ทานรวมกันแล้วพอดี รวมถึงเบคอนที่เสียบมาในไม้สลับกับเนื้อชิ้นโตด้วย


จานนี้เป็นกุ้ง ซอสก็เป็นมันกุ้งล้วนๆที่เคี่ยวจนหอม ส่วนชั้นในสุดนั่นก็เป็นล็อปสเตอร์ อีกสิ่งที่ขอชมเชฟเลยคือเขาบาลานซ์โปรตีนกับซอสได้ดี ทานด้วยกันแล้วซอสหมดพร้อมโปรตีน


ตามด้วยปลา เสียดายที่ความระยิบระยับของทองไม่ค่อยเข้ากล้อง แต่เราที่มองจากสายตามันคือท๊องงงงง ล้อเล่น ปลาและขนมปังที่อร่อยๆรวมถึงหอมแดงที่เชฟมักเอาไว้แต่งจานในงานต่างๆก็อร่อยเช่นกัน


และแล้วก็ถึงคิวของอกเป็ด ปกติเชฟจะเสิร์ฟมาคู่กับเห็ด แต่ว่ารอบนี้มาคู่กับแอปเปิ้ล นั่นก็แอปเปิ้ล นี่ก็แอปเปิ้ล จานนี้ก็เป็นอีกจานที่ประทับใจ


เราที่อยากรู้ว่าคนไม่ชอบกลิ่นกล้วยแบบเราจะว่าอย่างไรกับจานนี้ เป็นจานที่เชฟแจ้งมาว่ามีแต่ใบบัวบกกับแปะก๊วย ส่วนที่เหลือคือกล้วยที่แปลว่าปล้วยจริงๆ ทานเข้าไปแล้วไม่รู้สึกเลยว่าทานยาก มันคือกล้วยที่จัดการกับกลิ่นกล้วยก็ดี


ตามด้วยขนมหวานจานที่2 มาในรูปแบบของpetit four คำแรกล้างปาก ช็อคโกแลตเข้มๆที่คำสอง โมจินุ่มๆคำสาม แล้วล้างปากด้วยทาร์ตผลไม้คำสี่ ยิ่งทานคู่กับชาร้อนเป็นอะไรที่ล้างปากทั้งหมดทั้งมวลได้ดี


หลังจากนั้นเชฟก็ได้เข้ามาถามฟีดแบคว่าอะไรต้องการแบบไหน จานไหนต้องการรสชาติอย่างไร รวมถึงว่าเชฟอยากจะสื่ออะไร และแล้วก็ถึงเวลาของ SOAK ที่ทรงวาดที่เชฟแจ้งว่าจะเปิดเร็วๆนี้ โดยจะมีบางเมนูในนี้ที่จะได้อยู่ในร้านสไตล์เมดิเตอเรเนียนร้านนี้ด้วย แบบนี้จะพลาดได้อย่างไรละ