ตั้งแต่ยังเด็ก ผมกับแม่ไม่เคยมีความสุขเคยก็เพราะพ่อ พ่อผมเป็นคนขี้ยาและขี้เกียจทำงาน แถมชอบใช้กำลังกับผมและแม่เวลาที่เขาไม่พอใจบางอย่าง หลายครั้งที่เขาเป็นคนทำผิดเอง แต่ก็ไม่เคยรับความผิดแล้วโยนความผิดให้คนอื่น เช่นตอนที่มอเตอร์ไซค์เจาถูกยึดเพราะไม่ยอมผ่อน เขาก็โทษแม่ที่ไม่ยอมให้เงินเขาไปจ่าย ค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดแม่จะเป็นคนรับผิดชอบคนเดียว เงินที่ได้เดือนนึงก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก ไหนจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่งผมเรียน และให้พ่อใช้ในแต่ละวัน ซึ่งพ่อทำงานที่ไหนได้แป๊ปๆก็ชอบหาเหตุผลโง่เพื่อลาหยุดบ่อยๆ จนสุดท้ายก็โดนไล่ออกทุกครั้ง หลายครั้งที่ผมกับแม่ต้องมาเป็นที่รองรับมือรับเท้าของพ่อเวลาที่เขามีเรื่องให้เสียอารมณ์
จนวันหนึ่ง ช่วงที่ผมเรียนอยู่ม.2 แม่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แม่จึงหนีไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้เป็นพ่อเลี้ยงของผม ตอนนั้นแม่หนีไปคนเดียว แต่ก่อนไปแม่ก็บอกผมไว้แล้ว ตอนนั้นผมไม่สามารถหนีไปพร้อมแม่ได้เลยให้แม่หนีไปก่อน เล่นเอาตอนนั้นพ่อบ้าคลั่งไปเลย เขาตะโกนด่าทุกคน หาว่าพาเมียเขาหนีไปกับผัวใหม่ ตอนนั้นผมอายุ 14 ปี ก็ย้ายไปอยู่บ้านย่า ซึ่งก็ยังคงอยู่หมู่บ้านเดียวกับพ่อ ส่วนน้องผมที่ตอนนั้นอายุ 5 ขวบ ก็อยู่บ้านยาย ขนาดแม่หนีไปพ่อก็ยังไม่สำนึกไม่ปรับปรุงตัวเอง ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ส่วนแม่จะคอยส่งเงินมาให้ผมทุกสัปดาห์ แล้วก็โทรหาผมกับน้องเป็นระยะ วันหนึ่งพ่อยึดมือุอผมไปเพราะเขาจะรอให้แม่โทรมา เขาไม่ยอมคืน ตอนหลังแม่ก็ซื้อเครื่องใหม่ให้ผม ส่วนเครื่องนั้นก็ให้พ่อไป จนช่วงที่ผมอยู่ม.5 ผมไม่อยากทนเห็นหน้าพ่ออีกต่อไป ผมคุยกับแม่ให้แม่แอบมารับผมกับน้องหลังเลิกเรียน ผมบอกย่ากับยายด้วยเหมือนกัน ทั้งสองก็ไม่ว่าอะไร สุดท้ายผมกับน้องหนีมาอยู่ที่บ้านพ่อใหม่ ย่าเล่าให้ฟังว่าพ่อผมเขาบ้าถึงขั้นจะอาขวานมาฟันย่า แต่ยังดีที่มีหลายคนมาคอยห้าม ย่าเลยไม่เป็นไร หลังจากนั้นผมกับน้องก็ย้ายโรงเรียนมาอยู่ใกล้บ้านพ่อใหม่ พ่อใหม่เขาเป็นคนดี อาจจะไม่ดีเต็มร้อย แต่ก๋ดีกว่าพ่อแท้ๆมาก แล้วยังรักผมกับน้องเหมือนลูกแท้ๆด้วย เขาดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ช่วยเหลือจนผมเรียนจบ ผมกับน้องรักเขามากกว่าพ่อแท้ๆซะอีก
ผมกลับไปที่หมู่บ้านเก่าอีกครั้งเมื่อ 4 ปีก่อนเพื่อเยี่ยมย่ากับยาย พ่อผมก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เขามีเมียใหม่แล้วมีลูกด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งอีก เขาทำเป็นมาพูดคุยกับผมแล้วก็ไม่พ้นขอเงิน ผมบอกตรงๆว่าผมเกลียดเขามาก ผมไม่ได้พูดกับเขาดีๆเลย แล้วก็ให้เงินเขาไป2,000 ผมไม่สนว่าเขาจะเอาไปทำอะไร ผมแค่อยากให้เขารีบเอาหน้าไปให้พ้นๆ พอเขาได้เงินเขาก็รีบเดินไปจริงๆ แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยให้อะไรเขาอีกเลย
จนไม่กี่เดือนก่อนเขาก็เสีย เห็นว่ามีคนฝากเงินเขาซื้อยา แต่เขาแอบเอายานั้นไปเสพเอง เลยทะเลาะกันแล้วโดนรุมกระทืบ ในงานศพไม่มีใครร้องไห้แม้แต่คนเดียว ผมกับแม่ รวมถึงน้อง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่เขาเสียไป ตอนนี้ผมได้มีชีวิตใหม่ แล้วพยายามลืมเรื่องร้ายๆทั้งหมดที่พ่อเคยทำให้ผมกับแม่เจ็บปวด ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะมองว่าผมเป็นลูกอักตันญู แต่ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำ และใครที่ไม่เคยเจอมาแบบผมก็คงไม่เข้าใจ
ผมทำแบบนี้มันถูกต้องหรือไม่
จนวันหนึ่ง ช่วงที่ผมเรียนอยู่ม.2 แม่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แม่จึงหนีไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้เป็นพ่อเลี้ยงของผม ตอนนั้นแม่หนีไปคนเดียว แต่ก่อนไปแม่ก็บอกผมไว้แล้ว ตอนนั้นผมไม่สามารถหนีไปพร้อมแม่ได้เลยให้แม่หนีไปก่อน เล่นเอาตอนนั้นพ่อบ้าคลั่งไปเลย เขาตะโกนด่าทุกคน หาว่าพาเมียเขาหนีไปกับผัวใหม่ ตอนนั้นผมอายุ 14 ปี ก็ย้ายไปอยู่บ้านย่า ซึ่งก็ยังคงอยู่หมู่บ้านเดียวกับพ่อ ส่วนน้องผมที่ตอนนั้นอายุ 5 ขวบ ก็อยู่บ้านยาย ขนาดแม่หนีไปพ่อก็ยังไม่สำนึกไม่ปรับปรุงตัวเอง ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ส่วนแม่จะคอยส่งเงินมาให้ผมทุกสัปดาห์ แล้วก็โทรหาผมกับน้องเป็นระยะ วันหนึ่งพ่อยึดมือุอผมไปเพราะเขาจะรอให้แม่โทรมา เขาไม่ยอมคืน ตอนหลังแม่ก็ซื้อเครื่องใหม่ให้ผม ส่วนเครื่องนั้นก็ให้พ่อไป จนช่วงที่ผมอยู่ม.5 ผมไม่อยากทนเห็นหน้าพ่ออีกต่อไป ผมคุยกับแม่ให้แม่แอบมารับผมกับน้องหลังเลิกเรียน ผมบอกย่ากับยายด้วยเหมือนกัน ทั้งสองก็ไม่ว่าอะไร สุดท้ายผมกับน้องหนีมาอยู่ที่บ้านพ่อใหม่ ย่าเล่าให้ฟังว่าพ่อผมเขาบ้าถึงขั้นจะอาขวานมาฟันย่า แต่ยังดีที่มีหลายคนมาคอยห้าม ย่าเลยไม่เป็นไร หลังจากนั้นผมกับน้องก็ย้ายโรงเรียนมาอยู่ใกล้บ้านพ่อใหม่ พ่อใหม่เขาเป็นคนดี อาจจะไม่ดีเต็มร้อย แต่ก๋ดีกว่าพ่อแท้ๆมาก แล้วยังรักผมกับน้องเหมือนลูกแท้ๆด้วย เขาดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ช่วยเหลือจนผมเรียนจบ ผมกับน้องรักเขามากกว่าพ่อแท้ๆซะอีก
ผมกลับไปที่หมู่บ้านเก่าอีกครั้งเมื่อ 4 ปีก่อนเพื่อเยี่ยมย่ากับยาย พ่อผมก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เขามีเมียใหม่แล้วมีลูกด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งอีก เขาทำเป็นมาพูดคุยกับผมแล้วก็ไม่พ้นขอเงิน ผมบอกตรงๆว่าผมเกลียดเขามาก ผมไม่ได้พูดกับเขาดีๆเลย แล้วก็ให้เงินเขาไป2,000 ผมไม่สนว่าเขาจะเอาไปทำอะไร ผมแค่อยากให้เขารีบเอาหน้าไปให้พ้นๆ พอเขาได้เงินเขาก็รีบเดินไปจริงๆ แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยให้อะไรเขาอีกเลย
จนไม่กี่เดือนก่อนเขาก็เสีย เห็นว่ามีคนฝากเงินเขาซื้อยา แต่เขาแอบเอายานั้นไปเสพเอง เลยทะเลาะกันแล้วโดนรุมกระทืบ ในงานศพไม่มีใครร้องไห้แม้แต่คนเดียว ผมกับแม่ รวมถึงน้อง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่เขาเสียไป ตอนนี้ผมได้มีชีวิตใหม่ แล้วพยายามลืมเรื่องร้ายๆทั้งหมดที่พ่อเคยทำให้ผมกับแม่เจ็บปวด ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะมองว่าผมเป็นลูกอักตันญู แต่ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำ และใครที่ไม่เคยเจอมาแบบผมก็คงไม่เข้าใจ