บทวิเคราะห์: “นักการศึกษาไทยกลบความล้มเหลวก่อน 2538” อย่างไร?
🔴 1. ลบ – ด้วยความเงียบ (Omission by Silence)
ก่อนปี 2538 คือยุคที่ระบบการศึกษาไทยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่… นักการศึกษาส่วนใหญ่ไม่พูดว่า:
คนไทย 4.35 ล้านคน (อายุ 3–17 ปี) ไม่มีที่เรียน
แรงงานไทย 79.1% มีการศึกษาระดับประถมหรือต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยการศึกษาเพียง 5.3 ปี (ไม่จบประถม 6)
งบประมาณศึกษา ต่ำ, โรงเรียนชนบทขาดครู ขาดหลักสูตร ขาดอนาคต
เด็กยากจนถูกทิ้งเต็มระบบ
📌 นักวิชาการกลับเลี่ยงพูดถึง หรือสรุปแบบเบลอ ๆ ว่า “การศึกษาช่วงก่อนปี 2540 มีปัญหาอยู่บ้าง” — ซึ่งเป็นการ ลดทอนความล้มเหลว ให้ดูเป็นแค่ “อุปสรรคเล็กน้อย”
🔴 2. เบี่ยงเบน – สร้าง “ปี 2542” ให้เป็นพระเอกปลอม (False Hero Construction)
แทนที่จะพูดถึงปี 2538 ซึ่งมีการ อภิวัฒน์การศึกษา จริง (งบเพิ่ม, ครูเพิ่ม, หลักสูตรเปลี่ยน, เรียนฟรี, ICT, กระจายอำนาจ ฯลฯ)
นักการศึกษาจำนวนมาก “แต่งเรื่องใหม่” ว่า:
การปฏิรูปเริ่มจาก รัฐธรรมนูญ 2540
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 คือ “ก้าวสำคัญของการปฏิรูป”
โครงสร้างใหม่ = ปฏิรูป = สำเร็จ
📌 ปัญหา:
พ.ร.บ. 2542 เป็นเพียง “กฎหมายรอง” ที่ เกิดหลังจากการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในปี 2538 แล้วถึง 4 ปี
ไม่มีนโยบายใหม่ ไม่มีของจริง มีแต่ “กรอบทฤษฎี”
แต่กลับถูกอวยโดยนักการศึกษา จนประชาชน เข้าใจผิดว่า 2542 คือจุดเริ่ม
🔴 3. ขยายวาทกรรมปลอม – “การศึกษาไทยล้มเหลวเพราะนักการเมือง”
ในเมื่อปี 2538 คือผลงานของ “นักการเมือง” (รัฐมนตรีศึกษาธิการในรัฐบาลเลือกตั้ง)
นักวิชาการสายราชการ-วิชาการจึง:
ไม่อยากยอมรับว่าการเมืองสร้างการเปลี่ยนแปลง
จึงสร้างวาทกรรมใหม่ว่า:
“การเมืองเข้ามาแทรกการศึกษา = เสื่อม”
“ระบบราชการถูกนักการเมืองบังคับ”
“การศึกษาต้องนำโดยนักวิชาการ ไม่ใช่นักการเมือง”
📌 แต่นี่คือ กลยุทธ์เบี่ยงเบน เพื่อไม่ให้ประชาชนรู้ว่า:
🎯 “นักการเมืองปี 2538 กล้าฉีกตำรา และเปลี่ยนระบบได้จริง — ขณะที่นักการศึกษาแค่เขียนรายงานประชุม”
🔴 4. เขียนหนังสือเรียน/บทความเชิงวิชาการแบบ “ลบจุดเปลี่ยน”
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง:
หนังสือเรียนหลายเล่มเริ่ม “ประวัติการปฏิรูป” ที่ปี 2540–2542
ไม่กล่าวถึงปี 2538 ที่เป็นจุดเปลี่ยนจริง
หรือเอ่ยแบบ “ผ่าน ๆ” ว่าเป็นแค่ “จุดเริ่มต้นบางส่วน”
บางเล่มอ้างว่าปฏิรูปเกิดจาก “การจัดทำรัฐธรรมนูญ” แทน “การลงมือทำของรัฐมนตรีศึกษาในปี 2538”
📌 นี่คือการบิดเบือนประวัติศาสตร์ผ่านระบบการศึกษานั่นเอง
🔴 5. ขจัดความทรงจำทางนโยบาย (Policy Amnesia)
เมื่อไม่พูดถึงความล้มเหลวในอดีต + ไม่พูดถึงการปฏิรูปที่แท้จริง = คนรุ่นใหม่ไม่มี “จุดอ้างอิง” ที่ถูกต้อง
นักศึกษา ครู อาจารย์ นักนโยบายรุ่นใหม่ ไม่มีหลักฐานว่าเคยมีอะไรดีขึ้น
ทำให้พวกเขา ไม่กล้าปฏิรูปจริง เพราะไม่เคยรู้ว่า “เคยมีคนทำสำเร็จมาแล้ว”
📌 นี่คือ “การลบความทรงจำทางนโยบาย” (Policy Amnesia) ที่ทำให้ประเทศติดหล่มเดิมซ้ำ ๆ
บทวิเคราะห์: “นักการศึกษาไทยกลบความล้มเหลวก่อน 2538” อย่างไร?
🔴 1. ลบ – ด้วยความเงียบ (Omission by Silence)
ก่อนปี 2538 คือยุคที่ระบบการศึกษาไทยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่… นักการศึกษาส่วนใหญ่ไม่พูดว่า:
คนไทย 4.35 ล้านคน (อายุ 3–17 ปี) ไม่มีที่เรียน
แรงงานไทย 79.1% มีการศึกษาระดับประถมหรือต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยการศึกษาเพียง 5.3 ปี (ไม่จบประถม 6)
งบประมาณศึกษา ต่ำ, โรงเรียนชนบทขาดครู ขาดหลักสูตร ขาดอนาคต
เด็กยากจนถูกทิ้งเต็มระบบ
📌 นักวิชาการกลับเลี่ยงพูดถึง หรือสรุปแบบเบลอ ๆ ว่า “การศึกษาช่วงก่อนปี 2540 มีปัญหาอยู่บ้าง” — ซึ่งเป็นการ ลดทอนความล้มเหลว ให้ดูเป็นแค่ “อุปสรรคเล็กน้อย”
🔴 2. เบี่ยงเบน – สร้าง “ปี 2542” ให้เป็นพระเอกปลอม (False Hero Construction)
แทนที่จะพูดถึงปี 2538 ซึ่งมีการ อภิวัฒน์การศึกษา จริง (งบเพิ่ม, ครูเพิ่ม, หลักสูตรเปลี่ยน, เรียนฟรี, ICT, กระจายอำนาจ ฯลฯ)
นักการศึกษาจำนวนมาก “แต่งเรื่องใหม่” ว่า:
การปฏิรูปเริ่มจาก รัฐธรรมนูญ 2540
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 คือ “ก้าวสำคัญของการปฏิรูป”
โครงสร้างใหม่ = ปฏิรูป = สำเร็จ
📌 ปัญหา:
พ.ร.บ. 2542 เป็นเพียง “กฎหมายรอง” ที่ เกิดหลังจากการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในปี 2538 แล้วถึง 4 ปี
ไม่มีนโยบายใหม่ ไม่มีของจริง มีแต่ “กรอบทฤษฎี”
แต่กลับถูกอวยโดยนักการศึกษา จนประชาชน เข้าใจผิดว่า 2542 คือจุดเริ่ม
🔴 3. ขยายวาทกรรมปลอม – “การศึกษาไทยล้มเหลวเพราะนักการเมือง”
ในเมื่อปี 2538 คือผลงานของ “นักการเมือง” (รัฐมนตรีศึกษาธิการในรัฐบาลเลือกตั้ง)
นักวิชาการสายราชการ-วิชาการจึง:
ไม่อยากยอมรับว่าการเมืองสร้างการเปลี่ยนแปลง
จึงสร้างวาทกรรมใหม่ว่า:
“การเมืองเข้ามาแทรกการศึกษา = เสื่อม”
“ระบบราชการถูกนักการเมืองบังคับ”
“การศึกษาต้องนำโดยนักวิชาการ ไม่ใช่นักการเมือง”
📌 แต่นี่คือ กลยุทธ์เบี่ยงเบน เพื่อไม่ให้ประชาชนรู้ว่า:
🎯 “นักการเมืองปี 2538 กล้าฉีกตำรา และเปลี่ยนระบบได้จริง — ขณะที่นักการศึกษาแค่เขียนรายงานประชุม”
🔴 4. เขียนหนังสือเรียน/บทความเชิงวิชาการแบบ “ลบจุดเปลี่ยน”
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง:
หนังสือเรียนหลายเล่มเริ่ม “ประวัติการปฏิรูป” ที่ปี 2540–2542
ไม่กล่าวถึงปี 2538 ที่เป็นจุดเปลี่ยนจริง
หรือเอ่ยแบบ “ผ่าน ๆ” ว่าเป็นแค่ “จุดเริ่มต้นบางส่วน”
บางเล่มอ้างว่าปฏิรูปเกิดจาก “การจัดทำรัฐธรรมนูญ” แทน “การลงมือทำของรัฐมนตรีศึกษาในปี 2538”
📌 นี่คือการบิดเบือนประวัติศาสตร์ผ่านระบบการศึกษานั่นเอง
🔴 5. ขจัดความทรงจำทางนโยบาย (Policy Amnesia)
เมื่อไม่พูดถึงความล้มเหลวในอดีต + ไม่พูดถึงการปฏิรูปที่แท้จริง = คนรุ่นใหม่ไม่มี “จุดอ้างอิง” ที่ถูกต้อง
นักศึกษา ครู อาจารย์ นักนโยบายรุ่นใหม่ ไม่มีหลักฐานว่าเคยมีอะไรดีขึ้น
ทำให้พวกเขา ไม่กล้าปฏิรูปจริง เพราะไม่เคยรู้ว่า “เคยมีคนทำสำเร็จมาแล้ว”
📌 นี่คือ “การลบความทรงจำทางนโยบาย” (Policy Amnesia) ที่ทำให้ประเทศติดหล่มเดิมซ้ำ ๆ