ไหวมั๊ย? หมอเฉพาะทาง รายได้ระดับชนชั้นกลาง 220,000 บ/ด ค่าครองชีพแพง ค่าแรงถูก? เหลือเก็บ 15,000 บ/ด

อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงขออนุญาตนำเสนอใน pantip
post เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2024

https://www.facebook.com/aun.theeraphat.2025/posts/pfbid02zwaQMs6ZBDtYj9bLvFy6f6B3VDv8WthBKpSNP8RW9PRH3EZzmueXEeRUf9qBGftdl

ผมกับคุณหมอท่านนี้ เราอาชีพเดียวกัน จบเฉพาะทางเหมือนกัน รายได้เฉพาะทางใกล้เคียงกัน เชื่อว่าหมอหลาย ๆ คนก็เจอจุดแบบนี้ของชีวิตเช่นกัน ผมเองก็ผ่านช่วงเวลาและค่าใช้จ่ายแบบนั้น แต่โชคดีที่ผ่านมันมาได้

ออกตัวก่อนนะครับ ไม่ที่มีทฤษฎีหรือตัวเลขอะไรมากมาย ถือว่าเอาประสบการณ์จริง ไม่อิงทฤษฎีของคนวัย 40 ต้น ๆ มาแชร์ก็แล้วกัน
ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยนะ มาจากโรงเรียนอนุบาลที่เป็นโรงเรียนวัด ไปต่อหมอที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นคะแนนอยู่ลำดับท้าย ๆ ของประเทศ ต่อสู้ชีวิตมาเองแบบไม่มีต้นทุน จบหมอมีเงินติดบัญชี 60,000 ที่สะสมมาตั้งแต่เกิด  หลายคนต้นทุนชีวิตมากกว่านี้ แล้วบอกว่า "ชีวิตนี้ไม่มีต้นทุน" ลองอ่านดูนะครับ

1. CASE ใน POST คุณหมอรายได้ 220,000 บาท ผ่อนบ้าน 40,000 บาท ผ่อนรถ 13,000 บาท เงินเดือนภรรยา 30,000 บาท ค่าประกันทุกอย่าง 20,000 บาท ค่าลดหย่อนภาษี 30,000 บาท ค่าเทอมลูก 25,000 บาท ค่าใช้จ่ายในบ้าน 20,000 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 15,000 บาท เหลือเก็บ 15,000 บาท

2. เวลาอ่านอะไรใน social เราเห็นเขาแค่ “องศาเดียว” ยังมีอีก 359 องศาที่เราไม่เห็น อย่าเพิ่งไปตัดสินใจแทนเขา ทำไมไม่ทำอย่างโน้น ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ชีวิตไม่ใช่แค่สมการ 1 + 1 = 2 มันง่ายเกินไป ดูไว้เป็นบทเรียน แล้วมาปรับใช้ มาพัฒนาตัวเรานั่นแหละดีที่สุด ไม่ต้องไปตำหนิเขา  พอเราเจอปัญหาเอง “พูดไม่ออก” เรามีหน้าที่คือ "ถ้าเราเจอแบบนี้เราจะแก้ปัญหายังไงดีนะ" นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อพัฒนาตัวเอง

3. เรื่อง “การเงิน” มันเป็นแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง มันยังมีอีกข้างใต้ภูเขาน้ำแข็ง คนที่ประสบความสำเร็จเขาไม่ได้พูด ไม่ว่าจะเป็น ความขยัน วินัย สุขภาพ ครอบครัว งาน เพื่อนฝูง ฯลฯ

4. กรณีนี้มีเรื่อง “ภาษี” อีก เผื่อน้อง ๆ หลายคนไม่รู้ เอาแบบคร่าว ๆ นะทำเอกชนบางส่วนจ่ายภาษี 40(6) นั่นคือหักค่าใช้จ่ายไปแล้ว  60% คิดง่าย ๆ สมมุติได้จากเอกชน ล้านนึง หักค่าใช้จ่ายไปแล้ว 60% เหลือ 400,000 เสียภาษีประมาณ 40,000 (สมัยก่อนคิดแบบนี้ มาสองปีให้หลัง หักเข้าวงเล็บ 1,2 ด้วย) แต่ถ้ารายได้จากรัฐล้วน ๆ ล้านนึงเท่ากันจะเสียประมาณ 150,000 ไม่เป๊ะนะ แต่อยากจะบอกว่ารายได้จากรัฐล้วน ๆ เสียภาษีหนักมากนะ ดังนั้นวางแผนกันให้ดีนะครับ ซื้อกองทุนผิดติดลบอีก ซื้อประกันไม่มีทางชนะบริษัทประกันถ้าไม่ได้เคลม

5. ย้อนไปถึงสมัยเรียนหมอเลย ทำไมเราอยู่กันได้ด้วยเงินน้อย ๆล่ะ  ทุกวันนี้ผมถามนักเรียนแพทย์ของผมทุกคน “ที่บ้านให้เงินเดือนละเท่าไหร่” ส่วนใหญ่ 10,000 ต้น ๆ…ถามต่อ “ ทำไมอยู่ได้ แล้วจบมาเงินเดือนมากกว่านี้ 5 เท่าทำไมใช้ไม่พอ ?” นั่นคือ น้อง ติดกับดักทางสังคมไง รายรับมากขึ้น รายจ่ายก็มากขึ้นตาม
กับดักทางสังคม = ใช้จ่ายเกินตัว ซื้อสิ่งไม่จำเป็น

6. วันแรกที่จบมา ไปรายงานตัว เจ้าหน้าที่ “บัตรเครดิต” มาตั้งโต๊ะเต็มไปหมดเลย บัตรเครดิตถ้าใช้ถูกวิธี มีแต่ได้กับได้ ใช้ผิดวิธีดอกเบี้ยบานเลยนะ จบใหม่ ๆ ใช้รูดลดราคา รูดแลกแต้มก็พอ อย่ารูดแล้วจ่ายปลายเดือนมันจะบานปลาย รูดปุ๊บโอนปั๊บเลย แค่นี้ก็ตัดปัญหาได้ล่ะ

7. “ทำบัญชีรายรับรายจ่าย” สำคัญมากนะ  จะได้รู้ตัวว่า ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง มันคือการยอมรับความจริง จบเดือนเอามาดู รายจ่ายอันไหนไม่สำคัญเดือนหน้าก็ตัดทิ้ง ลองดูนะครับ คนที่มีปัญหาทางการเงินแทบทุกคน "ไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย"

8. รายได้หมอจบใหม่ 50,000 - 70,000 บาท ช่วงนี้แหละ หาเงินให้มากที่สุดเลย ออกไป ใช้ทุนอีกสองปีที่โรงพยาบาลอำเภอ รับจ๊อบให้หมด โสด แรงยังมี ภาระไม่เยอะ เก็บให้เยอะ ๆ เอาไปต่อยอดลงทุน ที่สำคัญรายได้โดน freeze ตอนเรียนต่ออีก ดังนั้น อย่ารีบสร้างหนี้ในอนาคตนะ ถ้าจะผ่อนอะไร คิดถึงตอนสมัยเรียนเฉพาะทางเอาไว้ด้วย
บางคนรีบโปะหนี้จนหมด อย่าลืมนะ ตอนเรียนเฉพาะทางเราจะไม่มีเงิน ตอนนั้นถ้าเราต้องการใช้เงินขึ้นมาก็ "ขาดสภาพคล่อง"

9. จบใหม่ยังไม่มีครอบครัว ภาระยังไม่มี อย่าไปสร้างหนี้สิน อะไรไม่จำเป็นยังไม่ต้องซื้อ สมัยผม เก็บ 80 -90% เอาไปลงทุน แบ่งใช้ 10-20% เอง เพราะมองแล้วอนาคตยังต้องมีรายจ่าย
จะซื้ออะไรทั้งที ใช้หลักคือ มูลค่าเหมาะสมกับราคาตามป้ายไหม ?
และสิ่งที่จะซื้อแพง ต้องมีประโยชน์หรือช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเราเท่านั้นถึงจะยอมจ่ายเงินซื้อแพง

10. การลงทุนเนี่ย “ระยะเวลา” สำคัญมาก ใครเปิดก่อนได้เปรียบ เพราะมันจะทบต้นไปเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยทบต้นนี่ สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก รีบทำตั้งแต่จบใหม่ ๆ นี่แหละ

11. “ช่วงเวลาที่หายไป” เรียนเฉพาะทาง 3-5 ปี ตอนนั้นเงินเดือน + ค่าเวร รวม 25,000 บาท อย่าไปเชื่อใครมากนะ ว่าตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน ให้เต็มที่ก่อน บางคนเค้าปรารถนาดี แต่ บางคนเค้าก็กลัวไม่มีคนทำงาน อย่าลืมคิดค่าเสียโอกาสในรอบ 5 ปีด้วยนะครับ ช่วงไหนว่างผมทำเอกชนหมด เวลาไป elective ต่างจังหวัด วันศุกร์ขับรถจากโคราช สระบุรี จันทบุรี มาอยู่เวร combo ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พอถึงตีสามวันจันทร์ ขับรถกลับก็ทำมาบ่อยแล้ว… คงได้รายได้ไม่เท่าตอนใช้ทุน แต่เป้า เราลดค่าเสียโอกาสให้น้อยที่สุด

12. จบเฉพาะทางใหม่ ๆ บอกตัวเองเลย อาชีพเรา “รับจ้างทั่วไป” ที่ไหนมีงานไปหาที่นั่น ใครให้ทำอะไรไม่ต้องเกี่ยงงาน ไม่ต้องเกี่ยวรายได้ ทำฟรียังเอา เอาเครดิตในอนาคต คิดไว้เสมอ “มีงานให้ทำดีกว่าไม่มีให้ทำ”

13. หลังจากจบเฉพาะทาง เราจะมี Golden period อีก  3-5 ปี นั่นคือ ก่อนแต่งงาน หลังแต่งงาน จนถึงก่อนลูกเข้าอนุบาล ความรู้แน่นสุด แรงมีมากสุด เก็บเงินเผื่อเอาไว้เลย พอลูกเรื่มโตสัก 3 ขวบ เขาจะต้องการเรามากที่สุด ตอนนั้นเราจะอยู่เวรได้น้อยลง แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นตลอดนะ

14. มีลูกกี่คนไม่ต้องไปถามใคร ถามใจตัวเองและคนข้าง ๆ ถ้ามีคนเดียวแล้วชีวิตอยู่ตัว ก็เลี้ยงให้ดีที่สุดคนเดียวนั่นแหละ ถ้ามีเพิ่มอีกคน รายจ่ายเพิ่ม 2 เท่า เราต้องออกจากบ้านไปนอนเวรเพิ่มอีก ชีวิตก็ไม่ balance เวลาที่อยู่กับลูกและครอบครัวก็หายไป ไม่มีสูตรสำเร็จนะที่บอกว่าจะต้องมีลูกสองคน

15. ตัวช่วยสำคัญ ปันผลจากหุ้น จากกองทุน ดอกเบี้ยหุ้นกู้ กระจายความเสี่ยงให้ดี  อย่าไปเวทตัวเดียว เงินพวกนี้เสียหายไม่ได้ ทุกวันนี้ผมใช้ดอกเบี้ย ใช้ปันผลจากพวกนี้แหละ มาจ่ายค่าเทอม เบาสบายตัวเยอะเลย จะเรียนอินเตอร์ก็เท่ากับเรียนฟรี เพื่อน ๆ หลายคนทำกันแบบนี้ …. “วันนี้” คุณเห็นคนนั่งใต้เงาไม้ แปลว่าเขาปลูกมันไว้ “นานแล้ว”

16. ยี่สิบปี ที่ผ่านมาอะไรเฟ้อที่สุด คำคอบคือ “ ค่ารักษาพยาบาล” และ “ค่าเรียน” ดังนั้น เมื่อรู้คำตอบแล้ว ก็หาทางป้องกันปัญหาครับ ตามที่ผมเขียนนั่นแหละ อีกอย่างที่พ่อกับแม่มือใหม่ต้องรู้ ค่าเทอมโรงเรียนอินเตอร์ ขึ้นปีละ 3-5% นะครับ ขึ้นทุกปี เวลาไปสมัครอย่าคำนวณแค่ใบค่าเทอมปีแรก เวลาขึ้นขึ้นยกแผงทุกระดับชั้น คำนวณเผื่อไว้ด้วยนะครับ

17. “ประกันชีวิต” สำคัญมาก 10% ของรายรับ แบ่งมาทำ มันคือการใช้เงินส่วนน้อยปกป้องเงินส่วนใหญ่ คุณหมอใน post แบ่งมา 10% ก็สมเหตุสมผล เพราะทำเอกชน สวัสดิการรักษาพยาบาลน่าจะแค่หลักแสนต้น ๆ ต่อปี และยิ่งเป็นหมอ “ ประกันวิชาชีพต้องมี” คนไข้ฟ้องร้องทีนึงหมดตัวได้เลยนะครับ

18. คนมีครอบครัว มีลูกเท่านั้นที่จะเข้าใจ “กุญแจ 3 ดอก ปลดล็อคหัวใจของความเป็นพ่อแม่” เรากังวล 3 อย่าง หนึ่ง เราเป็นอะไรไปลูกจะอยู่ยังไง สอง เราเป็นอะไรไป ลูกเจ็บป่วยในอนาคตจะทำยังไง สาม เราเป็นอะไรไป ลูกจะเรียนยังไง ทั้ง 3 ข้อ การทำประกันชีวิตให้ครอบคลุมก็ตอบโจทย์ และ บวก เอาปันผล เอาดอกเบี้ยมาจ่ายค่าเทอม ตามข้างบน...เราหากุญแจทั้ง 3 ดอกให้เจอ เมื่อนั้นแหละปลดล๊อคความกังวลในฐานะพ่อแม่ได้เลย

19. ถ้าภรรยาไม่มีรายได้ รายจ่ายต้องไม่เยอะนะครับ ห้ามใช้ของแบรนด์ ห้ามเที่ยวแพง ๆ อย่ากินหรูอยู่สบาย ต้องเป็นหลังบ้านที่เข้มแข็ง อย่างอแง สามีกลับมาบ้านอย่าไปชวนทะเลาะ เงินทุกบาททุกสตางค์จะใช้ต้องคิด 10 รอบ เพราะสามีเอาแรง เอาเวลาไปแลกมาทั้งนั้น หลายคู่เลิกกันปัจจัยสำคัญคือเงินครับ

20. “บ้าน” มี Timing ในการซื้อครับ ซื้อเร็วเกินไป เงินน้อย ลำบากผ่อน ซื้อช้าเกินไป อาจจะกลับมาซื้อมันไม่ได้อีก แค่ละคนมี “จังหวะ” ของตัวเองลองไปหาดู ที่สำคัญ บ้านใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงเรียนสบายที่สุด มีเวลาอยู่กับครอบครัว มีเวลาพัฒนาตัวเอง ลูกไม่ต้องไปโตบนรถ

21. เสี่ยงที่สุดคือ มีอาชีพเดียว ผมโดนมาแล้ว เวลาโรงพยาบาลขาดทุนมาตัด DF ตัดการันตีเรา เวลาเราเก่งขึ้น ๆ คนไข้ติดมากขึ้น รายได้เรามากขึ้น สุดท้ายเขา “หาคนมาตรวจคู่” รายได้ลดลง ลองหลับตานึกสิ ถ้าเราได้เพิ่มขึ้นแล้วรายจ่ายเราเพิ่มขึ้นด้วย วันนึงเราถูกลดรายได้ ลำบากแน่นอน ดังนั้นกระจายความเสี่ยงไปหลาย ๆ อาชีพ บางคนบอก ไม่เก่งสักอย่าง “ก็เรียนสิ หาความรู้เพิ่มสิ” เรามี Talent ที่ซ่อนอยู่แต่ไม่ได้ไปเรียนเสริมหรือเปล่า ยิ่งสมัยนี้เราหาเรียนได้ง่ายในออนไลน์ ไม่ต้องเดินทาง เรียนได้ทั้งกับคนไทย กับคนดัง ๆ ที่ต่างประเทศ ส่วนตัว แบ่งเงินมา 10% เรียนรู้ไปทุกวัน หาความรู้เสริมไปตลอดชีวิต

22. อย่ารีบกระโจนออกจากอาชีพหลัก อย่ารีบทิ้งความถนัดที่ฝึกมาหลายสิบปี ขี่ซ้าเล้งนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ก็อย่ากระโจนไปนั่งรถพ่วง มันจะคว่ำเอา ค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาอาชีพเสริม พอรายได้มากขึ้นค่อย ๆ ลดอาชีพหลักแบบนี้มั่นคงกว่าแน่นอน

23. เดี๋ยวนี้มีโลกออนไลน์ เราสามารถหารายได้กับมันได้ด้วยอาชีพเรานี่แหละ ยกตัวอย่างนะเราเก่งทำอาหาร เปิดเพจรีวิวการทำอาหาร เราเขียน PDF ขาย เล่มนึงราคา 500 บาท เดือนนึงขายได้ 20 เล่ม ก็ 10,000 นะ บางคนบอกน้อย อ่ะ ผมลองให้คิดอีกมุม ถ้าเรามี 10 เล่มล่ะ เราจะมีรายได้เพิ่มอีก X10 อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าด้อยค่าน้ำซึมบ่อทราย

24. อาจารย์หมอผู้ใหญ่ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง “เกษียณอย่างเกษม” แกบอกเลย “ลูกผมต้องนิ่งก่อน ก่อนที่จะซื้อบ้าน” แกอยู่บ้านพักโรงพยาบาล 10 กว่าปี เก็บเงิน ไม่ต้องมีตำแหน่งใหญ่โต อยู่เวรก็อยู่ใกล้ลูกไปสอนการบ้านลูกได้ พอลูกโตแล้วค่อยซื้อ สุดท้าย ลูกประสบความสำเร็จทั้งคู่ ไม่เป็นภาระได้ตอนแก่ อาจารย์เกษียณก่อนกำหนด มีปันผลเดือนละหลายแสน มีเงินเก็บหลายสิบล้าน ไม่มีหนี้ บั้นปลายมีเวลามาช่วยสังคม มาผ่าตัด อยู่เวรให้ฟรี ๆ อีกต่างหาก เวลาว่างเอาบำนาญเอาปันผลที่ได้ไปเที่ยว มองแววตาก็รู้นี่แหละคนที่เขามีความสุขที่แท้จริง

25. “วงกลม 3 วง” ค่อย ๆ ขยายออกไปนะครับ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี แล้วไปดูแลครอบครัว เมื่อสองอย่างดีแล้ว เราจะมีแรงอย่างมากในการหาเงิน ส่วนข้อสี่ เกียรติยศชื่อเสียง ไม่ต้องรีบสร้างนะครับ พอมี 3 อย่างก็ไม่อยากมีอย่างที่ 4 แล้ว และถ้าทำสลับขั้น ชีวิตนี้เหนื่อยแน่นอน
สำคัญ มีเป้าหมาย มีไม้บรรทัดของตัวเองนะ ใช้ชีวิตด้วยความ "ชื่นชมตัวเอง" ไม่ต้องให้ใครมาบอกว่าทำแบบนี้สิดี มีแบบนั้นสิดูดี เดินบทเส้นทางของตัวเอง ไม่มีมีต้องไปฝืน เดินเรียบ ๆ ไม่ต้องไปเขย่งตามคนอื่น มันเหนื่อย

26. เพื่อน สังคม สำคัญที่สุดเลยครับ ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะก็ได้ ไม่ต้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่