JJNY : 5in1 จับสัญญาณก่อนวันตัดสิน│“สิริพรรณ”เรียกร้องปชช.│กกต.ประกาศรายชื่อ│ปภ.ติดตาม“คาจิกิ”│ยุโรปส่อเสียงแตกส่งทหาร

จับสัญญาณ แพทองธาร ก่อนวันตัดสิน
.
.
เจาะประเด็นข่าว 7HD - วันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดให้ นายกฯ แพทองธาร ยื่นแถลงปิดคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุนเซน ก่อนฟังคำตัดสินคดี 29 สิงหาคมนี้
.
หากดูจากการขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงคดีแล้ว ยังคงคาดเดาผลได้ยากว่า 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันชี้ชะตา นายกฯ แพทองธาร คดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ว่าจะได้ไปต่อ หรือ หลุดเก้าอี้ประมุขฝ่ายบริหาร หากนับก็เหลือเพียง 5 วัน ก่อนวันพิพากษา
.
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ส่วนใหญ่มองว่า นายกฯ แพทองธาร ไม่ลาออก แน่ แต่วันชี้ชะตา 29 สิงหาคมนี้ ก็ไม่แน่ จะรอดหรือไม่
.
ซึ่งที่มองว่า นายกฯ ไม่ลาออก อย่าง อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. คุณวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ อาจารย์โอฬาร ถิ่นบางเตียว รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
.
ขณะที่ อาจารย์วันวิชิต อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกให้จับตา 26 สิงหาคมนี้ ให้ดี เวลาในการพิจารณาวาระการประชุม ครม. จะช้า จะเร็วก็จะบอกได้ว่านายกฯ จะลาออกหรือไม่ ส่วนวันชี้ชะตา เชื่อนายกฯ ไม่น่ารอด อย่าลืมว่านายกฯ เป็นข้าราชการการเมือง คุณบัติอย่างหนึ่งที่ต้องมีคือการเก็บความลับของราชการ
.
ส่วน อาจารย์ วีรพัฒน์ นักกฎหมายอิสระ บอกยังมีความหวังว่าศาลฯ ศาลฯ จะแยกแยะมาตรฐานจริยธรรม และการพึงพอใจทางการเมือง โดยวันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ทำคำแถลงปิดคดี ส่งให้ศาลฯ จากนั้น องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมทำคำวินิจฉัย และออกนั่งบังลังก์ อ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ช่วงเช้าเป็นประชุมทำคำวินิจฉัย และ เวลา 15.00 น. ออกนั่งบังลังค์ อ่านคำวินิจฉัย
.

.
“สิริพรรณ” เรียกร้องประชาชนกดดัน สว. ปลดล็อกอำนาจองค์กรอิสระ
.
“สิริพรรณ” แนะควรแยก “องค์กรอิสระ - ศาลรัฐธรรมนูญ” ออกจากรัฐธรรมนูญ แก้ปัญหามีอำนาจเกินขอบเขต จนทำให้นักการเมืองจ้องครอบงำแทรกแซง เชื่อหากทำสำเร็จช่วยปลดล็อกได้ระดับหนึ่ง
.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ส.ค. 2568 ภายหลังเสร็จสิ้นการเสวนาในหัวข้อ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) องค์กรอิสระและศาลรธน.” ศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะสำเร็จหรือไม่ โดย ศ.สิริพรรณ ระบุว่า วัตถุประสงค์ของการเสวนาวันนี้เป็นความพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (แก้เท่าที่จะแก้ได้โดยไม่กระทบมาตรา 265) ที่ระบุว่า หากจะแก้ไขที่มาจะต้องไปทำประชามติ ดังนั้นต้องดูว่าจะแก้ที่ประเด็นใด จึงจะดำเนินการเรื่องรวดเร็ว เช่น การรับรอง แทนที่จะให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นผู้รับรอง เป็นไปได้หรือไม่ให้สมาชิกทั้งรัฐสภาเป็นผู้รับรอง
.
องค์กรอิสระไร้การตรวจสอบ
.
ศ.สิริพรรณ กล่าวด้วยว่า หากมองปัญหาดังกล่าวไปถึงรากเหง้า ที่ผ่านมาประเทศไทยเข้าใจบทบาทขององค์กรอิสระในฐานะที่เป็นอีกสถาบันหนึ่งเทียบเคียงกับฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ และองค์กรอิสระ ซึ่งองค์กรอิสระมีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร แต่ตัวองค์กรอิสระแทบจะไม่ได้รับการตรวจสอบใดๆ ดังนั้นการนำองค์กรอิสระใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ เราจึงเรียกว่าเป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ ขณะที่ต่างประเทศ องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่กำกับตรวจสอบภายใต้การทำงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติรัฐสภา (องค์กรหนุน) เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าของระบบราชการ
แนะดึงแยกออกจาก รธน.
.
ฉะนั้น จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีองค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือนำองค์กรอิสระออกจาก รธน. โดยให้มีร่างพระราชบัญญัติประกอบองค์กรอิสระแต่ละองค์กรรองรับ เช่น หากเกิดรัฐประหารและมีการฉีก รธน. เราก็จะไม่มีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และไม่มีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากองค์กรเหล่านี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ของตัวเอง แม้จะไม่มีรัฐธรรมนูญ องค์กรเหล่านี้ก็ยังสามารถทำงานต่อเนื่องไปได้” ศ.สิริพรรณ กล่าวและว่า

อำนาจเยอะ นักการเมืองจ้องครอบงำ
.
ทั้งนี้ ขอบเขตอำนาจขององค์กรอิสระมันรุนแรง และมีฤทธิ์เดชเยอะมาก ทั้งตัดสิทธิ์นักการเมือง ยุบพรรคการเมือง เป็นต้น คำถามคือใครจะเข้ามาตรวจสอบ ฉะนั้น ถ้าองค์กรอิสระมีอำนาจเยอะมาก และกระทบกับความเป็นความตายและการอยู่รอดของนักการเมือง แน่นอนว่าฝ่ายการเมืองก็อยากเข้ามาครอบงำและแทรกแซง จึงกลายเป็นโจทก์ที่พันกันเหมือนงูกินหาง
.
เชื่อแค่ปลดล็อกได้ระดับหนึ่ง
.
ขณะเดียวกัน หากมีโอกาสแก้รัฐธรรมนูญ ศ.สิริพรรณ ระบุว่า ต้องพิจารณาว่า ตำแหน่งขององค์กรอิสระควรอยู่ภายใต้ รธน. หรือไม่ หรือควรนำออกไป และคำนึงถึงอำนาจหน้าที่ว่ามีขอบเขตเท่าใด รวมทั้งจำนวนขององค์กรอิสระ อาทิ ในต่างประเทศ กกต. มี 3-5 คน ไม่จำเป็นต้องมีถึง 7 คน
.
เมื่อถามว่า ปัจจุบันองค์กรอิสระมีอำนาจมาก หากการแก้ไข รธน. ในอนาคตสามารถทำได้สำเร็จและได้รับความเห็นชอบอย่างพร้อมเพียงในสภา มองว่าอนาคตจะทำให้วัฒนธรรมการเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ศ.สิริพรรณ กล่าวว่า หากไปถึงตรงนั้น จะสามารถปลดล็อกได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยต้องเห็นว่าทุกองค์กรจะมีความสมดุลและมีที่มาการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างกัน ส่วนจะเป็นการแก้ปัญหาทั้งหมดหรือไม่ คาดว่ายังไม่ใช่ แต่เป็นการปลดล็อกที่สำคัญ เพราะแง่วัฒนธรรมความคิดของไทย มีหลายเรื่องทางชื่นชมตัวบุคคล มากกว่าระบบและโครงสร้างมากพอสมควร จึงอยากชวนสังคมหารือไปด้วยกัน เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นองค์กรอิสระ ต้องใช้งบประมาณภาษีประชาชน ฉะนั้น เมื่อระบบการเมืองมีเสถียรภาพ เราจะได้รัฐบาลที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน และจะทำให้การดำเนินนโยบายเข้มแข็งและเข้มข้นขึ้น รวมทั้งจะทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับประชาชน ซึ่งกระทบโดยตรงกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน
.
เรียกร้องประชาชนช่วยกดดัน
.
นอกจากนี้ ศ.สิริพรรณ ยังกล่าวอีกว่า การแก้ รธน. แม้แต่รายมาตราที่ไม่ต้องทำประชามติ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่เป็นผู้เสียประโยชน์ในครั้งนี้ ดังนั้นประชาชนต้องช่วยกันส่งเสียงและกดดันว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องแก้ไข โดยค่อยๆ แก้ไขกันไป ส่วน สว. แม้จะมีที่มาจากการเลือกกันเอง แต่ก็ยังเป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้นต้องฟังเสียงของประชาชนด้วย เพื่อให้ได้รัฐบาลมีเสถียรภาพและความเข้มแข็ง
.

.
กกต. ประกาศรายชื่อ “สง่า – สุทัศน์” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.เชียงราย เขต7
.
กกต. 24 ส.ค.-กกต. ประกาศรายชื่อ “สง่า – สุทัศน์” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 หลังตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่มีต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง
.
ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดเชียงราย ตรวจสอบหลักฐานการสมัคร คุณสมบัติของผู้สมัครและสอบสวนแล้ว เห็นว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตําแหน่งที่ว่าง จํานวน 2 คน ได้แก่

นายสง่า พรมเมือง พรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 และ นายสุทัศน์ ยาละ พรรคประชาชน หมายเลข 2
.
ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อผู้สมัครดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 46 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกําหนดให้ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งต้องตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการสมัครว่าถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ออกหลักฐานการรับสมัคร และประกาศรายชื่อภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่อื่นที่เห็นสมควร เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้โดยเปิดเผย โดยประกาศต้องมี ชื่อ–สกุล รูปถ่าย พรรคการเมืองที่สังกัด และหมายเลขประจําตัวผู้สมัครที่จะใช้ในการออกเสียงลงคะแนน
.
พร้อมกันนี้ สํานักงาน กกต. ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 08.00-17.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่มีชื่อ
.
สำหรับการเลือกตั้ง สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 ประกอบด้วย อําเภอแม่จัน (เฉพาะตําบลจันจว้า และตําบลจันจว้าใต้) อําเภอเชียงแสน อําเภอดอยหลวง อําเภอเชียงของ (เฉพาะตําบลครึ่ง ตําบลศรีดอนชัย ตําบลริมโขง ตําบลเวียง ตําบลสถาน และตําบลห้วยซ้อ) และอําเภอเวียงแก่น.-314.-สำนักข่าวไทย
.

.
ปภ. เปิดวอร์รูมติดตาม “พายุคาจิกิ” เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก ดินโคลนถล่ม
.
ปภ. เปิดวอร์รูมติดตาม "พายุคาจิกิ" ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้า เพื่อดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง 
.
วันที่ 24 ส.ค. 68 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง "คาจิกิ” ซึ่งคาดว่าอิทธิพลพายุดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรงบริเวณภาคอีสานตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 ซึ่งรัฐบาล โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ห่วงใยผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน
.
กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้ประสานการทำงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด โดยให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ และเตรียมอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยหากเกิดสถานการณ์รุนแรง พร้อมดูแลด้านการดำรงชีพให้ดีที่สุด
.
รวมถึงให้ ปภ. แจ้งเตือนประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวม 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเป็นการล่วงหน้า เพื่อปฏิบัติการเชิงรุกช่วยเหลือประชาชน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่