วงกลมของพวกเรา

กระทู้คำถาม
ตอนที่ 1 : Snow
ปี ค.ศ. 3000
แสงยามเช้าส่องลอดผ่านม่านใสที่เปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิห้อง เข้าสู่ห้องนอนเล็ก ๆ ที่ประดับด้วยแสงโฮโลแกรมลอยอยู่บนเพดาน Snow เด็กหญิงวัย 12 ปี ค่อย ๆ ลืมตาตื่น เสียงปลุกจากระบบ AI ดังขึ้นเบา ๆ คล้ายเสียงดนตรีธรรมชาติ แต่ก็ถูกกลบด้วยเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นเคยที่สุด
“ตื่นแล้วหรือคะลูก… ได้เวลาไปเรียนแล้วนะ”
เสียงแม่ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง อบอุ่นจนเหมือนกล่อมให้หัวใจสงบแทนที่จะปลุกให้รีบเร่ง

Snow ค่อยๆลืมตา พลางพึมพำตอบเบา ๆ “หนูตื่นแล้วค่ะแม่”

เธอรีบลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ก่อนจะวิ่งลงบันไดวนที่เรืองแสงในแต่ละก้าวที่เหยียบ กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ลอยอบอวลไปทั่วบ้าน โต๊ะอาหารเช้าเรียบง่าย แต่ทุกจานถูกจัดอย่างพิถีพิถันจนดูเหมือนงานศิลปะ

เด็กหญิงนั่งลง พลางเหลือบมองแม่ที่ยังคงกำลังวุ่นอยู่กับการปรุงอาหารเพิ่มอีกเล็กน้อย เธออดถามออกมาไม่ได้

“แม่คะ ทำไมแม่ยังทำเองทุกอย่างอยู่เลยล่ะคะ? เราน่าจะซื้อหุ่นยนต์มาช่วยได้นะ เพื่อน ๆ ของหนูที่โรงเรียน ไม่มีใครต้องให้พ่อแม่เหนื่อยเลยสักนิด”

คุณแม่หันมาพร้อมรอยยิ้ม ดวงตาอ่อนโยนส่องประกายอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องเหมือนสว่างขึ้นทันที

“อาหารเช้าของลูก… แม่ตั้งใจทำด้วยมือของแม่เองเสมอ เพราะมันคืออาหารที่มาจากหัวใจ ไม่ว่าหุ่นยนต์จะเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีวันแทนความรู้สึกนี้ได้”

Snow ก้มหน้าลงเล็กน้อย แม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็รู้สึกได้ถึงความพิเศษบางอย่างในรสชาติที่แม่ตั้งใจใส่ลงไปในทุกคำ


ที่โรงเรียนวันนั้น บรรยากาศต่างจากทุกวัน คุณครูเดินเข้ามาพร้อมสีหน้าจริงจัง บนจอใหญ่ด้านหลังฉายสัญลักษณ์รัฐบาลที่หมุนวนเหมือนจักรกลแห่งกาลเวลา

“รัฐบาลได้คิดค้นวิธีการโอนถ่ายจิตไปอยู่ในร่างจักรกลสำเร็จแล้ว…” เสียงครูหนักแน่นก้องไปทั่วห้องเรียน “ซึ่งหมายความว่า มนุษย์ทุกคนจะสามารถเป็นอมตะได้”

ทันทีที่สิ้นเสียง ห้องเรียนทั้งห้องก็ระเบิดออกด้วยเสียงปรบมือและความตื่นเต้น เด็ก ๆ ต่างหันไปคุยกันตาเป็นประกายราวกับฝันที่รอคอยกำลังจะกลายเป็นจริง

แต่ Snow กลับนั่งเงียบ สายตาจ้องออกไปนอกหน้าต่างที่หิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้า ๆ บางสิ่งบางอย่างในใจของเธอเหมือนกำลังบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ด้านที่สวยงามเท่านั้น…



เมื่อกลับมาถึงบ้าน Snow เห็นแม่กำลังนั่งอยู่หน้าจอโฮโลทีวี รายงานพิเศษเกี่ยวกับ “มนุษย์อมตะ” กำลังฉายด้วยภาพสวยงาม ยานจักรกลล้ำอนาคต เสียงผู้บรรยายเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

Snow เดินเข้าไปใกล้ แล้วถามอย่างตื่นเต้น

“แม่คะ ดีใจไหม ที่เราจะได้เป็นอมตะแล้วนะคะ?”

แม่เงยหน้าขึ้น มองลูกสาวด้วยแววตาที่อบอุ่นแต่แฝงด้วยความเหนื่อยล้าและความลังเลลึก ๆ

“ถ้าเราได้เป็นอมตะ… แล้วสุดท้าย เราจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหนกันล่ะลูก?” แม่พูดเสียงเบา “แม่ว่า หนูยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจนะ… แต่เมื่อถึงวันที่ต้องเลือก หนูก็เลือกได้ด้วยตัวเอง”

จากนั้นแม่ก็ลุกขึ้น เอ่ยเสียงอ่อนโยน “มารอพ่อ แล้วไปกินข้าวเย็นกันเถอะ”



คืนนั้น… ขณะที่บ้านทั้งหลังกำลังเงียบสงัด Snow เดินผ่านห้องนั่งเล่น และหยุดยืนอยู่นิ่งหลังประตูที่แง้มไว้เล็กน้อย เธอเห็นพ่อกับแม่กำลังสนทนากันอย่างจริงจัง

“คุณคะ… ถ้าชีวิตอมตะเป็นทางเลือก คุณตัดสินใจได้หรือยัง?”

เสียงแม่สั่นเล็กน้อย

พ่อนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนตอบ “ผมยังลังเลนะครับ… การโอนถ่ายจิตยังไม่สมบูรณ์แบบ เราอาจต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าจะมั่นใจได้ ถึงตอนนั้น คำตอบคงชัดขึ้น”

พ่อของ Snow ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ระดับสูงของรัฐบาล ผู้มีส่วนสำคัญในการคิดค้นการโอนถ่ายจิตนี้เอง

แม่ก้มหน้าลง น้ำเสียงสั่นเครือ “แต่ฉันมีคำตอบแล้วนะ… ถ้าเราเลือกเป็นอมตะ เท่ากับเราจะต้องติดค้างในวงจรที่ไม่รู้จบ… อีกแสนนาน”

มีข่าวด่วนทางหน้าจอโฮโลทีวี ว่ามียานลึกลับปรากฏใกล้ชั้นบรรยากาศโลก

พ่อพูดขึ้นว่า ยานนั้นอาจเป็น “จิกซอว์ชิ้นสำคัญของการเป็นอมตะแบบสมบูรณ์”

ผมต้องกลับไปที่ทำงาน พ่อขับรถผ่านสายฝนออกไป…

พร้อมกับเสียงของคุณแม่พูดตามหลัง   คุณ..อย่าไป

Snow ยืนนิ่ง มองดูเหตุการณ์การที่เกิด หัวใจสับสน ไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้ใหญ่ถกเถียง แต่กลับรู้สึกถึงความหนักหน่วง ความเศร้า และบางอย่างที่ใหญ่เกินกว่าที่เด็กอายุ 12 ปีจะรับรู้ได้
ภาพนั้นฝังอยู่ในความทรงจำของเธอ…

10 ปีผ่านไป…
ตอนที่ 2 เข้าไปอ่านกันได้ที่ แอปfictionlog🙏🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่