สติ สมาธิ ที่ตั้งมั่นจะเกิดนามกายในความรู้สึก
เป็นความตั้งมั่นที่ เห็นจิตกับกายเป็นคนละส่วนกัน แยกกันเป็นชั้นๆ
กายอาจจะขยายออก จนเต็มท้องฟ้า แต่ก็เกิดอยู่ใน จิตที่เป็นบรรยากาศ จิตมีบรรยากาศล้อมรอบ
จิตรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นมาใน“บรรยากาศของจิต” ที่เป็น ความรู้สึก ว่างเบา สงบ
ความรู้สึกว่าง เบา สงบ จึงเป็น บรรยากาศของจิต เป็นกำลังของสมาธิ “จิตเป็นฌาน”
อารมณ์อะไรเกิดขึ้นมา จิตรับรู้ แต่ไม่เก็บขังไว้ จิตที่แกร่งกล้าจะเห็นมันดับไปทันทีไม่เกิดซ้ำ ดับสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“ดั่งแค่ลมพัดผ่าน” แค่พัดผ่าน แต่จิตที่ตั้งมั่นยังตั้งอยู่ ตั้งอยู่ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตัวจิตเอง ตามวิถีจิตที่เป็น“ธรรมชาติรู้”
นามกายเห็นได้ด้วยการรับรู้ที่ไม่มีตัวตน จะเป็นการรับรู้ของอะไร จะเข้าใจได้เอง
จิตเห็นนามกายคือจิตเห็นโครงสร้างของตัวเอง อันเป็นอินทรีย์ “สติ สมาธิ ปัญญา”
นามกายเกิดในจิต นามกายมีรูปเป็นอากาส
เป็นความตั้งมั่นที่ เห็นจิตกับกายเป็นคนละส่วนกัน แยกกันเป็นชั้นๆ
กายอาจจะขยายออก จนเต็มท้องฟ้า แต่ก็เกิดอยู่ใน จิตที่เป็นบรรยากาศ จิตมีบรรยากาศล้อมรอบ
จิตรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นมาใน“บรรยากาศของจิต” ที่เป็น ความรู้สึก ว่างเบา สงบ
ความรู้สึกว่าง เบา สงบ จึงเป็น บรรยากาศของจิต เป็นกำลังของสมาธิ “จิตเป็นฌาน”
อารมณ์อะไรเกิดขึ้นมา จิตรับรู้ แต่ไม่เก็บขังไว้ จิตที่แกร่งกล้าจะเห็นมันดับไปทันทีไม่เกิดซ้ำ ดับสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“ดั่งแค่ลมพัดผ่าน” แค่พัดผ่าน แต่จิตที่ตั้งมั่นยังตั้งอยู่ ตั้งอยู่ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตัวจิตเอง ตามวิถีจิตที่เป็น“ธรรมชาติรู้”
นามกายเห็นได้ด้วยการรับรู้ที่ไม่มีตัวตน จะเป็นการรับรู้ของอะไร จะเข้าใจได้เอง
จิตเห็นนามกายคือจิตเห็นโครงสร้างของตัวเอง อันเป็นอินทรีย์ “สติ สมาธิ ปัญญา”