JJNY : ร้านอาหาร-ภัตตาคารโอดกำลังซื้อเหลือ30%│ปชน.รับฟังปัญหาบุรีรัมย์│ยันบ้านหนองจาน เป็นของไทย│ศาลฮ่องกง เปิดไต่สวน

ร้านอาหาร- ภัตตาคาร โอดกำลังซื้อเหลือ30% ระดมรายชื่อ ร้องรัฐบาล จ่อพบ ‘คลัง’ เร่งออกโครงการกระตุ้น
.
.
ร้านอาหาร- ภัตตาคาร ทนไม่ไหว โอดกำลังซื้อเหลือ30% ระดมรายชื่อ ร้องรัฐบาล จ่อพบ”คลัง” เร่งออกโครงการกระตุ้นกิน-เที่ยว หวังงบปี69ฟื้นศก.
.
วันที่ 18 สิงหาคม นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องขอจากผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ขอให้สมาคมฯประสานรัฐบาลและกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ออกโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายและท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังประสบปัญหายอดรายได้ลดลงต่อเนื่องแต่ยังต้องแบกรับต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจสูง โดยเฉพาะอยากให้เร่งออกโครงการคนละครึ่ง หรือ แนว Co-payment ที่รัฐใช้งบประมาณช่วยใช้จ่ายครึ่งหนึ่งสมทบการใช้จ่ายของประชาชน เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้จ่าย รับประทานอาหารนอกบ้าน และ ท่องเที่ยวระยะสั้นแบบใกล้จังหวัดที่พักมากขึ้น
.
ตอนนี้ร้านอาหารและการค้าในต่างจังหวัดดิ่งหนัก ร้านอาหารในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ระบุว่ารายได้เหลือแค่ 20-30% จากภาวะปกติ นั่นหมายถึงรายได้หายไป 70% แต่ต้นทุนการค้าขายไม่ได้ลง ที่ยังรักษาระดับรายได้เกิน 50-60% ส่วนใหญ่จะอยู่ในจังหวัดใหญ่ จังหวัดรองหรือเมืองรอง ลูกค้านับรายได้ หากไม่เร่งฟื้นกำลังซื้อและรายได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้ ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่จะทำให้ผู้ประกอบการไม่มีทุนเพียงพอกับการทำการค้าในช่วงนั้น แม้จะเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่ากำลังซื้อและการท่องเที่ยวจะฟื้นเหมือนในอดีต “ นางฐนิวรรรณ กล่าว
.
นางฐนิวรรรณ กล่าวว่า แนวทางสมาคมในตอนนี้ ได้การรวบรวมปัญหาและข้อเสนอจากผู้ประกอบการ เพื่อนำเสนอให้กับรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆขอให้ผลักดันการออกโครงการกระตุ้นกำลังใช้จ่าย อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น พร้อมกับหารือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการเดลิเวอรี อย่าง Wongnai และ LINE MAN ซึ่งเจอปัญหายอดสั่งซื้อหดตัวเช่นกัน จับมือเตรียมทำกิจกรรมกระตุ้นใช้จ่าย รวมถึงหารือกับผู้ผลิตสินค้าและค้าปลีกต่างๆด้วย และเตรียมเข้าพบกระทรวงการคลัง และหน่วยงานต่างๆภายในเดือนสิงหาคมนี้
.
ตอนนี้งบประมาณปี 2569 ผ่านแล้ว โครงการสนับสนุนและช่วยเหลือของภาครัฐก็น่าจะออกได้แล้ว น่าจะเร่งออกโครงการหรือมาตรการภายในเดือนกันยายนเป็นต้นไป หลายโครงการที่รัฐออกมาก่อนหน้านี้ อะไรที่ช่วยเพิ่มเงินให้กับประชาชนก็จะสร้างความคึกคักของการใช้จ่าย ยิ่งรัฐช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายบางส่วน ประชาชนก็จะเชื่อมั่นนำเงินรายได้ออกมาใช้ ในการกินเที่ยว มากขึ้น ตอนนี้คนไม่ค่อยมั่นใจในหลายปัจจัย ที่จะใช้เงินกินเที่ยว หากรัฐช่วยกระตุ้นยิ่งในช่วงไตรมาส3 นี้ที่เงียบกว่าไตรมาสอื่นๆ เศรษฐกิจก็ไม่น่าจะดิ่งไปกว่านี้ “ นางฐนิวรรณ กล่าว
.

.
ปชน.รับฟังปัญหาบุรีรัมย์ ชาวบ้านเสนอทำรั้วตลอดชายแดน เร่งแก้โดรนเขมร ขอค่าตอบแทนให้ ชรบ. https://www.matichon.co.th/politics/news_5328075
.
“ผู้นำฝ่ายค้าน” ควง “วิโรจน์” รับฟังปัญหาชายแดนบุรีรัมย์ ชาวบ้านเหลืออด ฟ้อง “เขมร” คุยไม่รู้เรื่อง เสนอทางแก้ทำรั้วตลอดชายแดน ขณะที่ “กำนันหญิง” เผย “กัมพูชา” ส่งโดรนมาก่อกวนที 20-30 ลำ ทำชาวบ้านผวา ขอเรียกร้องค่าตอบแทนให้ ชรบ. ด้วย งง จะเขียนคำร้องต้องเสียเงิน ด้าน “เท้ง” รับเป็นการบ้านไปคุย รบ. ส่วน “วิโรจน์” เตรียมคุยกองทัพ ทำระบบแอนตี้ส่งโดรนกลับไป
.
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำคณะ ส.ส.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบ ภายหลังเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศาลากลางบ้านสายโท 10 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยมีหน่วยราชการและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาร่วมเสนอปัญหาในพื้นที่
.
โดยนายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด กล่าวรายงานว่า ช่วงที่เกิดการปะทะกันมีระเบิดมาตกลงในหมู่บ้าน 226 ลูก แต่พอมาตรวจหลังเหตุการณ์แล้ว 628 จุด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้มอบหมายให้ร่วมกับผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอพยพ โชคดีที่ได้มีการอพยพตั้งแต่เช้าวันที่ 24 กรกฎาคมอย่างทันท่วงที
.
วันที่ 24 กรกฎาคม มีเหตุที่ปราสาทตาเมือนธม ช่วงเวลาตั้งแต่ 08.00 น. มีลูกระเบิดตกข้างหลังท่าน มีการใช้หลุมบังเกอร์จริง หลบจริงตรงนี้ บริเวณโดยรอบของเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม บ้านกรวดมีทั้งหมด 3,000 คนที่เฝ้าทรัพย์สินโดยใช้ชีวิตอยู่ในบังเกอร์นี้” นายอำเภอบ้านกรวด กล่าว
.
จากนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ มีหน้าที่หนึ่งที่สำคัญคือ การรับฟัง และส่งเสียงสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อประสานงานให้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า วันนี้คนที่ลำบากที่สุดไม่ใช่ตน แต่คือประชาชน คนที่เหนื่อยที่สุดไม่ใช่ตน แต่คือเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างาน
.
โดยวันนี้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่อีกเฟสแล้ว จากเดิมตอนแรกเป็นตำบลกระสุนตก 100 กว่าลูก จนต้องมีการอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ตนในฐานะส.ส.ก็ประสานงานรับสิ่งของบริจาคทั่วทั้งประเทศที่ไม่ได้อยู่ตามแนวชายแดนมาช่วยสนับสนุนที่ศูนย์พักพิง
.
ขณะเดียวกันทางฝั่งรัฐบาล ได้มีการอนุมัติเงินฉุกเฉิน ให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เพื่อช่วยเหลือตามศูนย์พักพิงและตอนนี้ประชาชนกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว จำเป็นต้องมีมาตรการในการชดเชยเยียวยา ซึ่งทราบมาว่าคณะรัฐมนตรีมีการอนุมัติมาตรการเยียวยาหลายอย่างเช่น การลดค่าน้ำ ค่าไฟ เงินทดแทนการสูญเสียรายได้ มาตรการการลดหย่อนภาษี เงินสำหรับการซ่อมบ้าน ซ่อมรถ และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำมาประกอบอาชีพและซ่อมแซมบ้านเรือน โดยทุกมาตรการเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อุปสรรคปัญหาหน้างาน
.
วันนี้สิ่งที่ตนอยากได้ยินไม่ใช่เรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หน่วยงานทำไม่ดีอย่างไร หรือรัฐบาลทำไม่ดีอย่างไร แต่เชื่อว่า ทุกคนนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในการแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ โดยสิ่งที่ตนอยากฟังคือ ปัญหาหน้างาน หรืออุปสรรค เช่น ขั้นตอนการขอรับเงินเยียวยาที่จะต้องมีขั้นตอน และแบบฟอร์มที่บางครั้งอาจจะหาไม่ได้ จะลดขั้นตอนปรากฏระเบียบอย่างไรให้ได้รับเงินอย่างทันท่วงที และเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น เพื่อจะส่งข้อเสนอต่อรัฐบาลในการปรับปรุงระยะเร่งด่วนต่อไป และจะผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนจะไปเสนอความเห็นตามกลไกของสภาฯ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนในการเบิกจ่ายงบประมาณเยียวยาที่อาจกำลังล่าช้า มองว่าชาวบ้านยังมีผลกระทบของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ประชาชนต้องชำระ ตนทราบดีว่าขณะนี้มีการก่อกวนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นโดรนพานิชย์ หรือโดรนส่วนบุคคล แต่ตนมองว่าประชาชนไม่ควรได้รับความหวาดระแวงจนกลายเป็นความปกติใหม่ที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งอาจจะมีการหารือกับกองทัพ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดในการจัดการปัญหาดังกล่าว
.
นายวิโรจน์ กล่าวถึงการศึกษาสวัสดิการของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และ กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ว่าควรได้รับระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ และสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะดำเนินการศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย
.
จากนั้นเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในพื้นที่เล่าถึงปัญหา โดยนายคัมภีร์ หนองน้ำ กำนัน ต.สายตะกู กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีเรื่องเงินเยียวยายังไม่ชัดเจนว่าจะให้กลุ่มเปราะบางหรือใครบ้าง
.
ผมอยากให้มีรั้วการตามแนวเขต เพราะต่อไปรุ่นลูกรุ่นหลานก็จะไม่มีปัญหา เพราะมีเขตชายแดนแล้วกั้นไว้ ผมอยากให้ผู้นำฝ่ายค้านนำเสนอเกี่ยวกับกระสุนปืนเขมรยิงมา อยากให้มีอาวุธที่ทำลาย ยิงทำลายอาวุธก่อนที่จะตกพื้นที่ เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชายแดน” นายคัมภีร์ กล่าว
.
ส่วน น.ส.บุปผา มีหนองหว้า กำนัน ต.จันทบเพชร กล่าวว่า ตนมาเป็นกำนันใหม่ ก็เจอสถานการณ์ความไม่สงบเลย ซึ่งตนอยากนำเสนอเรื่องโดรน ตอนนี้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย อยากจะให้มีเครื่องแอนตี้โดรน เพราะเราไม่สามารถเห็นได้ตลอด โดรนมีหลายลำ เป็น 20-30 ลำ ในแต่ละคืน นอกจากนี้ อยากจะให้มีการสนับสนุนเครื่องกระสุน เสื้อ อุปกรณ์ และค่าตอบแทนให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาจนถึงวันนี้
.
ด้านนายสมชาย ทนัดรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านสายตะกู หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน เล่าปัญหาว่า บ้านตนติดตะเข็บชายแดน ทุกครั้งที่มีลูกปืนตก ตกบ้านตนทุกครั้ง ต้องเจอเหตุการณ์จริง ทำให้รู้ว่าร้ายแรงขนาดไหน ต้นไม้หัก นับประสาอะไรกับคนอยู่แล้วเหตุการณ์ค่อนข้างไม่แน่นอน เพราะเขมรพูดอย่างปฏิบัติอย่าง พูดจากันไม่ค่อยรู้เรื่อง ณ เวลานี้ตนเลยคิดว่าไม่แน่ไม่นอน
.
วันนั้นกระสุนปืนข้ามหัวทั้งคืน ผมเองออกไปไหนมาไหนก็ยากลำบาก ก็สะท้อนปัญหาความต้องการในพื้นที่ตะเข็บชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ดังนั้นอยากจะได้เสื้อเกราะ หมู่บ้านละ 2-3 ตัวพอที่จะออกค่าเวร ดูเหตุการณ์ เพราะเราจะลงพื้นที่ไม่ได้ บางครั้งชรบ.ก็ไปดูวัวควายในคอกอันนี้เรื่องจริง และอยากให้ทางรัฐบาลมีนโยบายปิดชายแดนตลอดแนว ไม่ต้องไปสงสารมัน เพราะมันก็ไม่คุยกัน คุยกับเขมรไม่รู้เรื่องเลย พูดอย่างปฏิบัติอย่าง สถานการณ์ก็อย่าเพิ่งไว้วางใจ เพราะดูแล้วผมเองก็ว่าไม่แน่ไม่นอนอะไร จะเกิดมันก็ต้องเกิด ยิงสักครั้งหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ให้มันจบไป มันรำคาญ มันไม่จบ ผมจำเป็นต้องอยู่เฝ้าทรัพย์สินของพี่น้องที่ออกไป ผมเองก็ค่อนข้างจะเป็นห่วง” นายสมชาย กล่าว
.
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้าน 2-3 คนเสนอว่าอยากให้ทบทวนมาตรการเยียวยา เราทำมาหากินไม่ได้ ระเบิดลงสวนยาง เขาห้ามเข้าไปทำงานกรีดยาง แต่เมื่ออาชีพเราสร้างรายได้จากการกรีดยาง เราก็ทำไม่ได้แล้ว กลางวันกินไม่ได้ กินข้าวไม่อร่อย เสียงฟ้าร้อง เสียงปิดประตูดัง ก็ตกใจ หนึ่งอย่างที่อยากให้ฟังคือสภาพเศรษฐกิจแย่ลงทุกวัน นอกจากนี้ระบบลงทะเบียนเยียวยายังมีความซับซ้อน ต้องเสียเงินเอกสารในการเขียนคำร้องขอรับเงินเยียวยาอีกด้วย มองว่าต้องเสียเงิน เพิ่มขึ้นยิบย่อย ทำไมไม่ให้ทุกคนเท่าเทียมกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่