‘วิโรจน์‘ ถลกขุมทรัพย์เงินทอน 8 พันล. ‘ทล.-ทช.’ ผูกขาดผู้รับเหมาชั้นพิเศษ เอื้อฮั้วประมูลหวังเงินทอน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5204983
.
.
‘วิโรจน์‘ แฉ งบกรมทางหลวง-กรมทางหลวงชนบท ผูกขาดผู้รับเหมาชั้นพิเศษ เอื้อฮั้วประมูลหวังเงินทอน ชี้ ต้องแก้หลักเกณฑ์ ช่วยประหยัดงบได้หลายพันล้าน
.
เมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 28 พฤษภาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ในการประชุมสภา สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 ถึง 2566 กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มีโครงการก่อสร้างทางที่มีราคากลาง ตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 95 โครงการ มีราคารวมกัน 73,346 ล้านบาท มีราคาชนะประมูล 73,171 ล้านบาท ทั้งหมด 7 ปี การประกวดราคาประหยัดงบไปได้แค่ 175 ล้านบาท ห่างจากราคากลางแค่ 0.24% ส่วนโครงการที่มีมูลค่า 450-500 ล้านบาท ทั้งหมด 10 โครงการ มีราคากลางรวมกัน 4,678 ล้านบาท ชนะประมูลรวมกันที่ 3,966 ล้านบาท ประหยัดงบ 711 ล้านบาท คิดเป็น 15.21% หมายความว่าเรื่องชวนหลอนในการประกวดราคากลางของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท จะเกิดขึ้นเฉพาะกับโครงการก่อสร้างที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากมีการประกวดราคาอย่างเป็นธรรมแบบที่มนุษย์ทั่วไปเขาทำกัน ประเมินได้เลยว่าใน 7 ปี ประเทศของเราจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 14.97% หรือประมาณ 10,980 ล้านบาท ตนคิดว่าเรื่องนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นมาหลายสมัย ก็น่าจะรู้ดี
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า สาเหตุของเรื่องมาจากประกาศหลักเกณฑ์จับชั้นผู้รับเหมา เพราะผู้รับเหมาชั้น 3 หากจะเลื่อนเป็นชั้น 2 ต้องมีผลงาน 1 โครงการไม่ต่ำกว่า 75 ล้านบาท โดยที่ผู้รับเหมาชั้น 3 จะมีเพดานการประกวดราคาเป็น 2 เท่าของผลงาน ส่วนผู้รับเหมาชั้น 2 ที่จะขอเลื่อนเป็นชั้น 1 ต้องมีผลงาน 1 โครงการไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท เพดานเป็น 2 เท่า อยู่ที่ 300 ล้านบาท แต่หากผู้รับเหมาชั้น 1 จะเลื่อนเป็นชั้นพิเศษ ต้องมีผลงานหนึ่งโครงการไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท แต่เพดานในการร่วมประกวดราคาที่ควรจะเป็น 2 เท่า กลับถูกกดให้เหลือเพียงแค่ 500 ล้านบาทเท่านั้น นี่คือเรื่องชวนหลอน
.
อีกทั้งโครงการก่อสร้างทางที่มีราคากลาง 450-500 ล้านบาท ก็มีอยู่เพียงแค่ 10 โครงการ กล่าวคือ ด้วยช่องว่างเพียงแค่ 50 ล้านบาท ทำให้ผู้รับเหมาชั้นพิเศษสามารถลงมาฟันราคา ให้ราคาชนะประมูลอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 450 ล้านบาทได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับเหมาชั้น 1 ชนะประมูล และนำผลงานไปขอเลื่อนเป็นชั้นพิเศษ ซึ่งผู้รับเหมาประเภทพิเศษนี้ มีอยู่แค่ 79 ราย จึงอยู่ในสภาพเป็นเสือนอนกิน รอสัมภเวสีประจำกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มาจัดฮั้วประมูลและส่งเงินทอนให้ โดยที่ไม่ต้องลงแข่งขันอะไรเลย
.
นานวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเคยนำเรื่องนี้เข้า กมธ.ติดตามงบฯ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งได้พบว่าคณะกรรมการราคากลางได้มีการแก้ประกาศหลักเกณฑ์จัดชั้นผู้รับเหมาเบื้องต้นไปแล้ว และนายเศรษฐา ทวีสินอดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยตอบกระทู้ว่าได้แก้ปัญหาเบื้องต้น ด้วยการเพิ่มผู้รับเหมาชั้น 1 ก และปรับเพดานให้สามารถประกวดราคาได้ถึง 600 ล้านบาท และจะแก้ไขประกาศ ฉบับดังกล่าวอีกครั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จใน เดือนมีนาคม 2567 แต่ต้นก็ตั้งกระทู้อีกครั้งว่าการเพิ่มเพิ่มผู้รับเหมา 1ก แก้ปัญหาการฮั้วประมูลไม่ได้ เนื่องจากจำนวนโครงการก่อสร้างที่มีราคากลางอยู่ที่ 450-600 ล้านบาท ในแต่ละปีมีน้อยมาก และตนทำนายล่วงหน้าว่า ในอนาคตกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท อาจจะจัดให้มีราคากลางสูงกว่า 600 ล้านบาท เพื่อกีดกันไม่ให้ผู้รับเหมาชั้น 1ก ร่วมประกวดราคา
.
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนนำเรื่องนี้เข้า กมธ.ติดตามงบฯ อีกครั้ง หลังเดือนมีนาคม 2567 เนื่องจากยังไม่มีการแก้ไขหลักเกณฑ์ตามที่นายเศรษฐาให้คำมั่นไว้ แต่ในวันนั้นตนรู้ความจริง เพราะผู้แทนจากกรมบัญชีกลางบอกในที่ประชุมว่า กรมบัญชีกลางมีมติให้ขยับเพดานการประกวดราคาของผู้รับเหมาชั้น 1ก จาก 600 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ถูกกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทคัดค้าน จนต้องตั้งคณะทํางานเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งผู้แทนจากกรมทางหลวงอ้างในที่ประชุมว่า การที่ต้องสงวนงานให้ผู้รับเหมาชั้นพิเศษ เป็นเพราะการจัดการจราจรระหว่างก่อสร้าง หัวเราะกันทั้งห้องประชุม เพราะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด ที่ผู้รับเหมาชั้นไหนก็ทำได้
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลังจากนั้นตนได้ตั้งกระทู้ถามต่อเนื่องอีก โดยถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไป 3 กระทู้ และถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2 กระทู้ เพื่อตามเรื่องว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวทันกับงบประมานปี 68 หรือไม่ และจะมีการจัดโครงการก่อสร้างทางเพื่อเปิดการแข่งขันด้านราคาให้กับผู้รับเหมาชั้น 1ก ได้ร่วมประมูลหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้การฮั้วประมูลเกิดขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ งบประมานปี 69 เข้าสภาแล้ว ตนยังไม่ได้รับคำตอบเลย อย่างไรก็ตามตนได้รับคำตอบทางอ้อม ผ่านการจัดงบประมาณปี 68 กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มีโครงการก่อสร้างทางที่มีราคากลาง 450-600 ล้านบาท เพื่อให้ผู้รับเหมาชั้น 1ก สามารถร่วมประกวดราคา เพื่อขอเลื่อนชั้น เพียงแค่โครงการเดียว คือการปรับปรุงสะพานข้ามแยกพระราม 9 ประดิษฐ์มนูธรรม แยกรามคำแหง
.
นายวิโรจน์ ยกตัวอย่างว่า ในงบประมาณปี 68 กรณีโครงการทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย บ้านสันมะแฟน-อ.แม่สรวย อยู่ดีๆมีการแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 มีราคา 749 ล้านบาท ตอนที่ 2 มีมูลค่า 749 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 1,500 ล้านบาท ตนจึงมีคำถามว่า ในเมื่อจะแบ่งซื้อแบ่งจ้างแล้วทำไมไม่แบ่งเป็น 3 ตอน เพื่อให้แต่ละตอนมีราคากลางอยู่ที่ 500 ล้านบาท ทำให้ผู้รับเหมาชั้น 1ก สามารถประกวดราคาได้ และทำให้ประเทศสามารถประหยัดงบได้มากขึ้น
.
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จากรายงานการประชุมที่ตนเองได้ไปติดตามมาเกี่ยวกับกรมบัญชีกลางซึ่งยืนยันข้อมูลว่าในปี 2516 การประกวดราคาของผู้รับเหมาชั้นพิเศษประหยัดงบได้เพียง 0.40% ในขณะที่ผู้รับเหมาชั้นหนึ่งประหยัดงบได้ถึง 17.10% โดยส่วนต่างนี้คือเงินทอน และเมื่อพิจารณาจากโครงการทั้งหมด มีจำนวนโครงการต่อจำนวนผู้รับเหมาไม่สอดคล้องกัน โดยผู้รับเหมาชั้นพิเศษสามารถลงมาประมูล โครงการของผู้รับเหมาชั้นธรรมดาได้ โดยคณะกรรมการชุดนี้มีความเห็นตรงกันว่าการจัดชั้นผู้รับเหมาเป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้นการแก้ไขปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงานต้องที่การบริหารสัญญาและในกรณีที่เป็นงานที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะก็สามารถกำหนดใน TOR ได้
.
นายวิโรจน์ ชี้ว่า ปัญหาการทิ้งงานของผู้รับเหมา จากข้อมูลสถิติก็ไม่พบว่ามีปัญหา และการใช้งานก็ไม่ได้มาจากการประกวดราคา แต่มาจากการที่ผู้รับเหมาชั้นพิเศษรับงานมากมาย จนเกิดการขาดสภาพคล่อง โดยคณะทำงานมีมติให้ปรับเพดานการประกวดราคาของผู้รับเหมาชั้น 1ก จาก 600 ล้านบาท ให้เป็น 900 ล้านบาท แต่กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทคัดค้านไม่เห็นด้วยกับมติ ซึ่งจากงบ ปี 67 มีโครงการ 400 – 600 ล้านบาทที่ผู้รับเหมาชั้น 1ก ประมูลได้ 8 โครงการ โดยเป็นเพราะงบปี 67 ประกาศใช้แล้วและแก้ไขไม่ทันแล้ว
.
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การที่กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทไม่ยอมรับมติของคณะทำงานคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณได้ทำหนังสือแจ้งข้อสังเกตไปยังกรมบัญชีกลาง ป.ป.ช. และ สตง. เป็นที่เรียบร้อย ให้เร่งแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดชั้นผู้รับเหมาเพื่อป้องกันการทุจริตการก่อสร้างทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายหลักพันล้านบาทต่อปี
.
”ถ้าการประกวดราคาของโครงการก่อสร้างทาง มีการประกวดที่เป็นธรรม ไม่มีการซุกซ่อนเงินทอนเอาไว้ ประเทศชาติของเราจะสามารถประหยัดเม็ดเงินได้มหาศาล“ นายวิโรจน์ กล่าว
.
นายวิโรจน์ ยังระบุถึงการประเมินเงินทอนจากโครงการก่อสร้างทางในแต่ละปี อาจมีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยได้ยกตัวอย่างตั้งแต่ปี 2564 – 2568 โดยคาดว่าจะมีเงินทอนตั้งแต่ 300 – 8,000 ล้านบาท ถือเป็น 16.7% และเชื่อว่ากระบวนการซุปเงินทอนตั้งแต่หัวโต๊ะไปจนถึงท้ายโต๊ะอาจมีมูลค่าถึงหลายพันล้านบาทต่อปีก็เป็นได้
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในปี 69 จากงบประมาณของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ทั้ง 2 กรมมีมูลค่า 62,450 ล้านบาท โดยมีโครงการก่อสร้างที่มีราคากลางตั้งแต่ 600 ล้านบาท ขึ้นไป 57 โครงการ
.
“ผมยืนยันว่า ตราบใดก็ตามที่ยังไม่มีการแก้ไขประกาศหลักเกณฑ์จัดชั้นผู้รับเหมา ก็ประเมินได้เลยว่าในปี 69 ทั้งสองกรม ต้องซุกซ่อนเงินทอนเอาไว้เผื่อการกินเหล็ก ปูน หิน ดิน ทราย ไม่ต่ำกว่า 8,161 ล้านบาท” นายวิโรจน์ กล่าว
.
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเคยประเมินว่าต้องใช้เงิน 7,000 – 8,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม จึงมองว่าหากมีการแก้ไขประกาศหลักเกณฑ์จากชั้นผู้รับเหมา จะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปทำให้คนไทยใช้รถไฟฟ้าอย่างเสมอภาค ได้ในราคาที่ถูกลง ตนเองหาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ซึ่งทำได้ทันทีหากมีการแก้ไขประกาศดังกล่าว
.
“การฮั้วประมูล และการรีดไถจากการก่อสร้างทางของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้การก่อสร้างล่าช้า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าการขายประชาชนผู้อยู่การอาศัย ต้องเผชิญกับฝุ่นควันการก่อสร้างไม่จบไม่สิ้น และยังต้องเสี่ยงอุบัติเหตุจากการจราจร และอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง งบที่เผื่อเงินทอนเพื่อการประมูลแบบนี้ หากสภาผู้แทนราษฎรของพวกเรายอมรับ ก็เท่ากับร่วมกันทุจริต และทรยศต่อประชาชน ขาดสำนึกว่างบประมาณทุกบาท มาจากภาษี ที่เป็นหยาดเหงื่อแรงงานของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผม และพรรคประชาชน ไม่สามารถปล่อยให้งบประมาณของกระทรวงคมนาคมในปี 2569 ที่มีพฤติกรรมเดิม ที่เผื่อสินบาทคาดสินบนแบบนี้ให้ผ่านไปได้” นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย
.
.
ไอซ์ อัดงบ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ซัดโยกงบไปลงผู้รับเหมาหมด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5204930
.
‘ไอซ์ รักชนก’ อัดงบ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ชี้งบลงทุนเปิดช่องโกงทั้งสร้างตึก-ถนน-แหล่งน้ำการเกษตร เตือนชาวบ้านได้ส.ส.ฝั่งรัฐบาลอย่าหลงดีใจ เพราะโยกงบไปลงผู้รับเหมาหมด สิ่งที่ได้ไม่ใช่ความเจริญแต่เป็นถนนกากๆ ฟุตบาทห่วยๆ ท้า ไลฟ์สดห้องประชุม พร้อมเปิดเอกสารงบฯ
JJNY : ‘วิโรจน์‘ถลกขุมทรัพย์เงินทอน│ไอซ์อัดงบ69 ชี้ทุจริตภาครัฐ│กัณวีร์ซัดรบ.ขาดความเป็นมืออาชีพ│เหนือ – อีสานมีฝนตกหนัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5204983
.
.
.
ไอซ์ อัดงบ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ซัดโยกงบไปลงผู้รับเหมาหมด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5204930
.