อินทผลัมสด VS อินทผลัมแห้ง แบบไหนดีกว่ากัน

อินทผลัม เป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, B2, B6, วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, สังกะสี, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, เบต้าแคโรทีน, ลูทีนและซีแซนทีน อีกทั้งอุดมไปด้วยไฟเบอร์ คุณค่าทางโภชนาการของผลอินทผลัม ต่อ 100 กรัม พลังงาน 282 กิโลแคลอรี



สามารถนำมารับประทานได้หลากหลาย ทั้งผลสด ผลแห้ง นำมาผสมกับนมสด หรือคั้นเป็นน้ำ ชาวมุสลิมรับประทานผลสดควบคู่กับผลแห้ง เพราะอินทผลัมสดเป็นของเย็น ส่วนอินทผลัมแห้งเป็นของร้อน ทำให้เกิดความสมดุลในร่างกายมนุษย์ อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย 
     -ช่วยบำรุงรักษาสายตา ช่วยป้องกันโรคตาบอดแสงหรือภาวะมองเห็นไม่ชัดในเวลากลางคืน
     -ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
     -ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
     -ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แก้กระหาย แก้อาการเจ็บคอ ลดเสมหะในลำคอ
     -ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ จากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและความดันโลหิตต่ำ และป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
     -ช่วยทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรง ป้องกันเยื่อบุในกระเพาะอาหาร ลดความรุนแรงของแผลในกระเพาะอาหาร (จากรายงานการวิจัยในประเทศซาอุดิอาระเบีย)
     -ช่วยฆ่าเชื้อโรค พยาธิและสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร (หากรับประทานในขณะท้องว่างยามเช้า)
     -ช่วยป้องกันมะเร็งช่องท้อง (เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยกำจัดสารพิษและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในช่องท้อง)
     -ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มพละกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า และช่วยลดความหนาวเย็นในร่างกาย

ความนิยมในการกินอินทผลัมสดในไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการปลูกอินทผลัมพันธุ์บาร์ฮี ซึ่งเมื่อกินสดจะให้รสหวาน กรอบ อร่อย จนหลายคนติดใจ แตกต่างจากอินทผลัมสุกที่นำไปตากแห้ง ซึ่งมีรสหวานจัดขึ้นและทำให้บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการเชื่อม แต่ความกรอบสดอาจไม่เทียบเท่าอินทผลัมสดได้
อย่างไรก็ตาม สรรพคุณและประโยชน์ของอินทผลัมสดและอินทผลัมแห้งไม่ต่างกันมากนัก เพียงแค่อินทผลัมสดหวานน้อยกว่า ส่วนแบบตากหรืออบแห้งจะเก็บได้นานกว่า เนื่องจากการอบหรือตากแห้งเป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง

กินอินทผลัมไม่ให้ฝาด
     แนะนำควรกัดตามแนวยาวของลูก แทนที่จะกัดตามขวางหรือกัดที่หัว/ท้าย โดยเฉพาะบริเวณหัวของผลมักจะมีรสฝาดมากกว่า การกัดตามแนวยาวจะช่วยให้ได้รสหวานและลดความฝาดได้ 
ข้อควรระวังอินทผลัม
     การกินอินทผลัมอย่างเดียวรักษาโรคเบาหวานไม่ได้ ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องร่วมกับการคุมอาหารเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด อินทผลัมมีโพแทสเซียมสูง ผู้มีปัญหาเรื่องไตและหัวใจควรหลีกเลี่ยง  ผู้อดอาหารนานอินทผาลัมเป็นแหล่งพลังงานที่ดี อินทผาลัมสดได้น้ำตาลน้อยกว่าแบบแห้ง คนทั่วไปกินได้เฉลี่ย 5-10 ผล/วัน แทนการกินน้ำอัดลมหรือขนมขบเคี้ยวที่มีแต่แป้ง ไขมัน และน้ำตาล จะได้ประโยชน์ดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : Medthai,กรมอนามัย,คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ เทศบางตำบลบางปู
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่