สวัสดีค่ะ NickyOkawa เอง วันนี้จะมาแชร์เมนูอาหารที่ถ่ายไว้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
เรากำลังรักษาตัวจากอาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ แต่แพทย์ศัลยกรรมกระดูกบอกให้ลดน้ำหนัก
ก่อนหน้านี้ พื้นฐานเป็นคนออกกำลังกายด้วยการโยคะ 1 ชั่วโมง
สัปดาห์ละห้าวัน เป็นระยะเวลาประมาณห้าหกปี
แต่ไม่เคยคุมอาหาร เป็นคนตามใจปาก และกินเยอะมาก
สูง 167-168 ซม. น้ำหนักพีคสุดในชีวิตคือ 75++
เพราะพอน้ำหนักแตะ 75 คือเลิกขึ้นตาชั่งไปเลยครึ่งปี 555
คิดว่าน่าจะอ้วนขึ้นกว่านั้นไปอีกค่ะ แต่พอเราไม่ชั่งก็คือ 75 โล
ตอนน้ำหนักยังไม่ถึง 70 ก็คือมีอาการปวดเข่าแล้ว
ตอนนั้นหมอกระดูกแนะนำให้ลดน้ำหนัก ก็พยายามลด
เลยเริ่มต้นเพิ่มการเดินวันละ 2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน
พอเริ่มอยู่ตัวก็เพิ่มการเข้ายิมเพื่อเวทเทรนนิ่ง โดยมีเทรนเนอร์เป็นคนดูแล
และเราแจ้งปัญหาไปว่าไม่ยกหนักเกินไป ไม่ dead lift ไม่ hip trust
ไม่ทำท่าอะไรที่เสี่ยงหัวเข่ากับหลัง
คาร์ดิโอ 45 นาที (ด้วยเครื่องวิ่งไร้แรงต้านเพื่อเซฟเข่า)
โยคะยืดเหยียดยังคงทำอยู่ บางทีก็ทำก่อนเวท บางทีก็ทำหลังคาร์ดิโอ
ลดไปประมาณ 7 กิโลกรัมค่ะ เหลือน้ำหนัก 68 กิโล
ซึ่งการเริ่มเข้ายิม ใช้เวลาประมาณห้าหกเดือน
แต่พอต้องมารักษาตัวจากอาการปวดหลัง
หมอที่รักษาบอกว่าน่าจะเป็นมาสักปีได้แล้ว เป็นก่อนเข้ายิมอีก
ทำให้ออกกำลังกายหนักๆ ไม่ได้ โยคะก็ต้องงดไปก่อน
หมอแนะนำให้เดินเบาๆ แต่ก็อยากให้ลดน้ำหนัก ซึ่งเราก็คิดว่าจะทำยังไงดี
“เราเลยทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการคุมอาหารค่ะ”
ลักษณะการกิน ก่อนที่จะปวดหลัง
- เป็นคนชอบกินข้าวมากๆ มื้อนึงต้องกินข้าวอย่างน้อยสามทัพพี
- เป็นคนกินข้าวนอกบ้านทุกมื้อ เช้าอาจจะเป็นข้าวเหนียวเนื้อแดดเดียวทอด
- เที่ยงชอบกินก๋วยเตี๋ยวกับเนื้อลวก แต่ไม่ค่อยปรุง อย่างมากก็ใส่พริกผงบีบมะนาว
- บางทีตอนเที่ยงก็เป็นข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาว ไม่ใส่พริกน้ำปลาเพิ่ม
- ดีหน่อยที่ตกเย็นกินโปรตีนเชค น้ำเต้าหู้ อกไก่
- เป็นคนไม่ชอบกินของทอดกับแกงกะทิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
- เสาร์หรืออาทิตย์มี Cheat Meal เป็นร้านยำทะเล ไม่ก็ร้านชาบูหมาล่า
- ดีที่เลิกน้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ ไปได้แล้ว
- ช่วงหนักสุดๆ เคยกินฮันนี่โทสต์คนเดียวหมดจาน
- ช่วงเข้ายิมคือตัดเค้กออกไปได้
- ของโปรดที่กินแทบทุกสัปดาห์คือมะม่วงเปรี้ยว + น้ำจิ้มที่ผสมกะปิ
- ทำ IF ไม่กินอะไรหลัง 4 โมงเย็น แต่ที่อ้วนเพราะตอนเช้าเที่ยงบ่ายกินจุกินเยอะ
ลักษณะการกินที่เราเลือกแล้วว่าควรจะกินไปตลอดชีวิต
- กินข้าวสวยมื้อละหนึ่งทัพพีแบนๆ ถ้ามีวุ้นเส้นแล้วตัดข้าวออก
- เน้นผัก โปรตีนเน้นอกไก่ โชคดีที่เป็นคนชอบกินอกไก่ ไม่ชอบเนื้อมันๆ
- ทำอาหารกินเองที่บ้านแทบทุกมื้อ
- กินข้าวเช้า 8 โมง กินข้าวเที่ยง บ่าย 4 เป็นมื้อเย็นที่เบาสุดๆ
- บางวันกินข้าวเช้าสายมากๆ วันนั้นจะเหลือสองมื้อค่ะ คือสายกับบ่าย
- มี Cheat Meal เดือนละครั้ง เปลี่ยนเป็นปลาจุ่ม กินพอประมาณ
- กินตามนี้ที่ว่ามาสองเดือน วันนี้เป็นวันแรกที่เรากินเค้กค่ะ
- สั่งเค้กมา 1 ชิ้นสามเหลี่ยม กินไปครึ่งเดียว เพราะมีเพื่อนช่วยกิน
- ออกกำลังกายด้วยการเดินเบาๆ เป็นหลัก
ผลประกอบการหลังจากควบคุมอาหาร
ลดน้ำหนักได้ประมาณ 7 กิโลกรัมค่ะ ในเวลาแค่สองเดือน
สิ่งที่เรียนรู้คือ ต่อให้เราออกกำลังกายหนักแค่ไหน ถ้าไม่คุมอาหาร มันก็ได้เท่านั้น
รูปอาหารพร้อมคำบรรยาย ขอเอาไปอยู่ข้างล่างนะคะ
แชร์อาหารที่กินในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รู้แล้วว่าอาหาร 80 ออกกำลัง 20 มีอยู่จริง
เรากำลังรักษาตัวจากอาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ แต่แพทย์ศัลยกรรมกระดูกบอกให้ลดน้ำหนัก
ก่อนหน้านี้ พื้นฐานเป็นคนออกกำลังกายด้วยการโยคะ 1 ชั่วโมง
สัปดาห์ละห้าวัน เป็นระยะเวลาประมาณห้าหกปี
แต่ไม่เคยคุมอาหาร เป็นคนตามใจปาก และกินเยอะมาก
สูง 167-168 ซม. น้ำหนักพีคสุดในชีวิตคือ 75++
เพราะพอน้ำหนักแตะ 75 คือเลิกขึ้นตาชั่งไปเลยครึ่งปี 555
คิดว่าน่าจะอ้วนขึ้นกว่านั้นไปอีกค่ะ แต่พอเราไม่ชั่งก็คือ 75 โล
ตอนน้ำหนักยังไม่ถึง 70 ก็คือมีอาการปวดเข่าแล้ว
ตอนนั้นหมอกระดูกแนะนำให้ลดน้ำหนัก ก็พยายามลด
เลยเริ่มต้นเพิ่มการเดินวันละ 2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน
พอเริ่มอยู่ตัวก็เพิ่มการเข้ายิมเพื่อเวทเทรนนิ่ง โดยมีเทรนเนอร์เป็นคนดูแล
และเราแจ้งปัญหาไปว่าไม่ยกหนักเกินไป ไม่ dead lift ไม่ hip trust
ไม่ทำท่าอะไรที่เสี่ยงหัวเข่ากับหลัง
คาร์ดิโอ 45 นาที (ด้วยเครื่องวิ่งไร้แรงต้านเพื่อเซฟเข่า)
โยคะยืดเหยียดยังคงทำอยู่ บางทีก็ทำก่อนเวท บางทีก็ทำหลังคาร์ดิโอ
ลดไปประมาณ 7 กิโลกรัมค่ะ เหลือน้ำหนัก 68 กิโล
ซึ่งการเริ่มเข้ายิม ใช้เวลาประมาณห้าหกเดือน
แต่พอต้องมารักษาตัวจากอาการปวดหลัง
หมอที่รักษาบอกว่าน่าจะเป็นมาสักปีได้แล้ว เป็นก่อนเข้ายิมอีก
ทำให้ออกกำลังกายหนักๆ ไม่ได้ โยคะก็ต้องงดไปก่อน
หมอแนะนำให้เดินเบาๆ แต่ก็อยากให้ลดน้ำหนัก ซึ่งเราก็คิดว่าจะทำยังไงดี
“เราเลยทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการคุมอาหารค่ะ”
ลักษณะการกิน ก่อนที่จะปวดหลัง
- เป็นคนชอบกินข้าวมากๆ มื้อนึงต้องกินข้าวอย่างน้อยสามทัพพี
- เป็นคนกินข้าวนอกบ้านทุกมื้อ เช้าอาจจะเป็นข้าวเหนียวเนื้อแดดเดียวทอด
- เที่ยงชอบกินก๋วยเตี๋ยวกับเนื้อลวก แต่ไม่ค่อยปรุง อย่างมากก็ใส่พริกผงบีบมะนาว
- บางทีตอนเที่ยงก็เป็นข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาว ไม่ใส่พริกน้ำปลาเพิ่ม
- ดีหน่อยที่ตกเย็นกินโปรตีนเชค น้ำเต้าหู้ อกไก่
- เป็นคนไม่ชอบกินของทอดกับแกงกะทิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
- เสาร์หรืออาทิตย์มี Cheat Meal เป็นร้านยำทะเล ไม่ก็ร้านชาบูหมาล่า
- ดีที่เลิกน้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ ไปได้แล้ว
- ช่วงหนักสุดๆ เคยกินฮันนี่โทสต์คนเดียวหมดจาน
- ช่วงเข้ายิมคือตัดเค้กออกไปได้
- ของโปรดที่กินแทบทุกสัปดาห์คือมะม่วงเปรี้ยว + น้ำจิ้มที่ผสมกะปิ
- ทำ IF ไม่กินอะไรหลัง 4 โมงเย็น แต่ที่อ้วนเพราะตอนเช้าเที่ยงบ่ายกินจุกินเยอะ
ลักษณะการกินที่เราเลือกแล้วว่าควรจะกินไปตลอดชีวิต
- กินข้าวสวยมื้อละหนึ่งทัพพีแบนๆ ถ้ามีวุ้นเส้นแล้วตัดข้าวออก
- เน้นผัก โปรตีนเน้นอกไก่ โชคดีที่เป็นคนชอบกินอกไก่ ไม่ชอบเนื้อมันๆ
- ทำอาหารกินเองที่บ้านแทบทุกมื้อ
- กินข้าวเช้า 8 โมง กินข้าวเที่ยง บ่าย 4 เป็นมื้อเย็นที่เบาสุดๆ
- บางวันกินข้าวเช้าสายมากๆ วันนั้นจะเหลือสองมื้อค่ะ คือสายกับบ่าย
- มี Cheat Meal เดือนละครั้ง เปลี่ยนเป็นปลาจุ่ม กินพอประมาณ
- กินตามนี้ที่ว่ามาสองเดือน วันนี้เป็นวันแรกที่เรากินเค้กค่ะ
- สั่งเค้กมา 1 ชิ้นสามเหลี่ยม กินไปครึ่งเดียว เพราะมีเพื่อนช่วยกิน
- ออกกำลังกายด้วยการเดินเบาๆ เป็นหลัก
ผลประกอบการหลังจากควบคุมอาหาร
ลดน้ำหนักได้ประมาณ 7 กิโลกรัมค่ะ ในเวลาแค่สองเดือน
สิ่งที่เรียนรู้คือ ต่อให้เราออกกำลังกายหนักแค่ไหน ถ้าไม่คุมอาหาร มันก็ได้เท่านั้น
รูปอาหารพร้อมคำบรรยาย ขอเอาไปอยู่ข้างล่างนะคะ