เรื่องเล่าดำมืดจากสิ่งที่ไม่อยากรับรู้ว่าจะมีใครเกิดขึ้นเหมือนเราไหม #จุดตกต่ำช่วงดิ่งของชีวิตและการตัดสินใจที่ผิดพลาด

กระทู้คำถาม
ต้องขออนุญาตเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในเวลานี้
แ​ต่ดั้งเดิม ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร ฐานะปานกลาง หาเช้ากินคืน ด้วยความเป็นลูกชายคนเดียวจนถูกคาดหวังอะไรหลายอย่าง เช่น เรื่องการเรียน เป็นต้น ผมก็ไม่ได้เป็นเด็กขยันอะไรมากมาย แต่เป็นเด็กที่ลักจำเก็บ หัวไวและนั้นขคือ ข้อดีข้อนึงของผม แต่จะมีปมเรื่องพ่อ​แม่ทะเลาะกันไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็จะเห็นความรุนแรงตั้งแต่เด็ก ซึ่งโตมาผมก็ยึดคติกับผู้หญิงทุกคนจะไม่มีการทำร้ายร่างกายเด็ดขาด จึงเป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่จุดที่อึดอัดที่ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น คือ การถูกตีกรอบ ให้อยู่ในขอบเขต และ กำหนดเรื่องต่างๆ ซึ่งผมก็มองย้อนกลับไปก็โอเคกับเรื่องนี้ แต่จะมีบางครั้งที่คิดว่า ทำไมเราไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น ทั้งการเลี้ยงดู การถูกอบรม ก็แปลกใจในช่วงวัยเด็ก แต่ผมก้โอเคกับเรื่องนี้ พอเข้าสู่ช่วงการเรียนมัธยมต้น ก็ถูกเฉลี่ยคนคละห้อง ดันไปอยู่ห้องเด็กเรียนซะอีก นั่นคือ 1/1 หัวเราก็ไม่ได้ไวอะไร อาศัพมั่ง ถามมั่ง ผ่านแต่ละคาบก็ค่อนข้างที่จะลำบากกว่าคนอื่นซะหน่อย แต่ก็พยามยาม ส่วนตัวก็จะไปสนิทกับห้องอื่นๆ แทน เรื่องฉกต่อย ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของเด็กผู้ชายทั่วไป แต่ที่ลำบากใจอาจารย์และพ่อกับแม่ คือ การที่เราเป็นตัวตั้งตัวตี แต่ก็ผ่านมาได้ และจบวุฒิมัธยมต้น ซึ่งเป็นการผลักดันของเพื่อนๆผมด้วย แต่จุดเปลี่ยนคือ มัธยมศึกษาตอนปลาย คือ การรวมตัวของเด็กผู้ชาย ทำให้การเอาตัวรอดจากเรื่องต่างๆ ยากมาก มีหลายเรื่อง เช่น การโดดเรียน ไม่ทำการบ้านส่ง ไม่เข้าสอบมั่ง พอถึงเทอมสุดท้ายของช่วงจบ สุดท้ายแล้วก็ไม่จบ แต่ก็พยามยามที่สิ่งที่ผิดพลาดแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น แฟนผมที่อยู่ข้าม สถาบันก้มาแก้ไข โดยความไม่สนใจอะไร ก็ต้องรับผลที่ตามมา นั้นคือ จบคือ มัธยมต้น แค่นั้น ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ พ่อแม่คาดหวังกับเรา ว่าจะได้เรียนสูงๆ มีการงานที่ดีทำ แต่ผลนี้ ผมก็รับไว้เอง ไม่มีการเรียนต่ออะไรทั้งสิ้น จะมีเพื่อนในกลุ่มเดียวกันที่สนิท ช่วงกันไปทำงานโรงงานที่นึง ก็เป็นทำกัน แต่โดยความที่เรายังมีวุฒิภาวะน้อย แรงกดดันต่ำ รับสภาวะนั้นไม่ไหว ก็ลาออกมา นั้นคือที่แรก และก็หางานทำไปเรื่อย ทำได้ก้ทำยาว จนมาถึงช่วงเกณฑ์ทหาร ก็ได้ใบดำ ส่วนเพื่อนอีกคนได้ใบแดง ส่วนตัวตอนนั้นคิดว่า ถ้าติดทหาร ผมก็จะเอาดีในทางนี้แทน แต่ไม่โดนผมก็หางานทำต่อไป ซึ่งช่วงนั้นก็ว่างงาน ก็เลยปรึกษา พ่อแม่ ว่าจะบวชทดแทนบุญคุณ ก็เลยได้บวชประมาณ28วัน มีรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าเก่าที่ทำงานที่แรก เขาชวนให้ไปทำงานด้วย ก็เลยติดสินใจอีกครั้ง​ ครั้งนี้เราทำได้ออกมาดีเลยทีเดียวสำหรับตัวผม ส่วนเพื่อนๆคิดแบบไหนก็ว่ากันอีกที ระยะการทำงาน10ปี5เดือน นั้นเป็นช่วงเวลาที่ดี ทั้งประสบการณ์ในด้านการทำงาน ด้านสังคม ถูกหล่อหลอมในตัวผม แต่ความน่ากลัวที่สุดก็มาถึงนั้นคือ "จุดอิ่มตัว" ผมเชื่อว่าในวัย30ต้น ทุกคนเป็นกันหมด หาจุดยืนจุดเปลี่ยนของตัวเอง สิ้​นที่ผมได้ตัดสิ้นใจนั้นคือ การลาออก ซึ่งฐานเงินเดือนก็ค่อนข้างสูง นั้นคือการตัดสิ้นใจที่ผิดพลาด แต่ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้เกิดขึ้น
มีอยู่ช่วงนึงก่อนเกิดโควิค พ่อผมได้ล้มป่วยจากอาการไม่ทราบสาเหตุของโรค ระหว่างช่วงรักษาจิตใจและสภาวะต่างๆย้ำแย่มาก แต่ก็พยุงตัวเองไปทำงานในแต่ละวันได้ จนมาถึงวันที่เขาไม่ไหวจากการรักษา ก็จากไปอย่างสงบ โรคร้ายนั้นคือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ระยะเวลารักษา1ปี6เดือน ส่วนแม่สภาวะจิตใจย้ำแย่สุด เพราะเขารับไม่ได้ ช่วงแรกก็อาจจะต้องให้เวลาทั้งผมและแม่ แต่แม่เขาจะย้อมใจโดยการดื่มเหล้า ยิ่งทำให้แย่ลงไปกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ดื่มทุกวันหรือตลอด หลังผ่านไป2-3ปี จากที่พ่อจากไป แม่ก้ยังมีอาการคิดถึงเขาอยู่ ผมก็เข้าใจในเรื่องนี้ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ การดื่มเหล้า นั้นคือจุดนึงที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ไหวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ความถี่ก็เริมมากขึ้น พูดเตือนอะไรไม่ได้ เพราะผมก้เหนื่อยจากการทำงาน เหนื่อยจากสังคมโรงงานมาแล้ว ยังต้องเจอสภาพแวดล้อมที่บ้านเป็นแบบนี้อีก ซึ่งผมก้รู้สึกว่า เราเป็นลูกยังพูดยังเตือนอะไร เขาไม่ได้ แล้วคนอื่นมาพูดเขาจะไปฟังอะไร จนถึงจุดแตกหัก และพังหลังในที่สุด คือการลาออก​จากงาน และสภาวะที่สะสมมานานจากเรื่องนี้ ทำให้ผมตัดสินใจที่ผิด   จนณ ตอนนี้ ผมได้แยกตัวเองออกมาอยู่คนเดียว งานการก็ยังไม่ได้ทำ เหมือนตกงาน100% สภาวะเคลียดในหลายๆเรื่อง จนไม่รู้จะแก้ไขอย่างไงต่อ ส่วนเรื่องแม่นั้น ผมก้ไม่รู้ว่า เขาเปนไงมั่งตอนนี้ บางเรื่องผมก้ไม่ได้พิมไปทั้งหมด เพราะมันก้ทำให้รู้สึกแย่มากตอนนี้ ไม่มีจุดยืนอะไรอีกต่อไป ก็หวังว่าอะไรน่าจะดีขึ้นมากกว่านี่ และให้มันผ่านไปให้เร็วมากที่สุด
ขอโทษตัวเอง ที่พามาทุกจุดนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่