สำหรับผม การออกกำลังกายทุกวันยากกว่าชัดเจน
เคยทำได้เป็นช่วง ๆ นานสุดเกือบปี แล้วก็เลิก เพราะหมดแรงจูงใจและรู้สึกเบื่อหน่าย แม้ช่วงหลังจะเปลี่ยนมาเล่น Tabata เพื่อลดเวลา ก็ยังไม่ยั่งยืน พอน้ำหนักเพิ่มก็ค่อยกลับมาออกใหม่ แล้วพอลดได้ ก็เลิกอีก
ปัจจุบันเลยใช้วิธี “แทรกการออกกำลังกายเข้ากับชีวิตประจำวัน” แทน เช่น
อยู่คอนโดชั้น 5 ก็วิ่งข้ามขั้นขึ้นแทนลิฟต์
รถจอดชั้น 7 ก็วิ่งขึ้นไปเอา
หรือถ้าที่หมายอยู่ในรัศมี 1–2 กม. ก็เดินเอา
แบบนี้ไม่น่าเบื่อเลย เพราะไม่ต้องบังคับตัวเองเหมือนการออกกำลังกายเป็นกิจวัตร
ตรงกันข้ามกับเรื่องอาหาร ผมคุมได้ง่ายมาก
ไม่กินขนม ขนมปัง น้ำอัดลม ของหวาน กาแฟเย็น ฯลฯ พูดง่าย ๆ คือ ของไม่มีประโยชน์ตัดออกให้หมด
ทุกวันกินแค่: ข้าว + กับข้าว 3 มื้อ, นม 1 กล่อง, ชงชาต่างๆ ไม่ใส่น้ำตาล 2 ขวด, น้ำเปล่า 2 ขวด, กาแฟดำ 1 ขวด, ถั่วต่างๆ 20–30 กรัม
ผลคือ น้ำหนักลดเองโดยไม่ต้องออกกำลังกายเป็นกิจวัตร
ร่างกายฟิตระดับหนึ่ง สังเกตได้จากการวิ่งข้ามขั้นขึ้นชั้น 7 ได้แบบไม่เหนื่อยหอบ
ล่าสุดก็อุ้มลูกหนัก 12 กก. กว่า เดินขึ้นปราสาทโอซาก้าจากชั้น 1 ถึงชั้น 8 ได้
ที่สำคัญคือประหยัดเงินมาก แม้จะไม่ได้ลำบากเรื่องการเงิน แต่ก็ตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มอีก 1 ทริปได้แบบมีทอน
สุดท้ายคือได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยกลับมา แทบไม่ต้องใช้สิทธิ์ประกัน OPD ที่เบิกได้ปีละ 30 ครั้งเลย — ปกติทั้งปีใช้ไม่เกิน 1-2 ครั้ง
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดว่าอะไรยากกว่ากัน? การคุมอาหาร หรือการออกกำลังกายทุกวัน?
สำหรับคุณ การคุมอาหารหรือการออกกำลังกายทุกวัน อะไรยากกว่ากัน?
เคยทำได้เป็นช่วง ๆ นานสุดเกือบปี แล้วก็เลิก เพราะหมดแรงจูงใจและรู้สึกเบื่อหน่าย แม้ช่วงหลังจะเปลี่ยนมาเล่น Tabata เพื่อลดเวลา ก็ยังไม่ยั่งยืน พอน้ำหนักเพิ่มก็ค่อยกลับมาออกใหม่ แล้วพอลดได้ ก็เลิกอีก
ปัจจุบันเลยใช้วิธี “แทรกการออกกำลังกายเข้ากับชีวิตประจำวัน” แทน เช่น
อยู่คอนโดชั้น 5 ก็วิ่งข้ามขั้นขึ้นแทนลิฟต์
รถจอดชั้น 7 ก็วิ่งขึ้นไปเอา
หรือถ้าที่หมายอยู่ในรัศมี 1–2 กม. ก็เดินเอา
แบบนี้ไม่น่าเบื่อเลย เพราะไม่ต้องบังคับตัวเองเหมือนการออกกำลังกายเป็นกิจวัตร
ตรงกันข้ามกับเรื่องอาหาร ผมคุมได้ง่ายมาก
ไม่กินขนม ขนมปัง น้ำอัดลม ของหวาน กาแฟเย็น ฯลฯ พูดง่าย ๆ คือ ของไม่มีประโยชน์ตัดออกให้หมด
ทุกวันกินแค่: ข้าว + กับข้าว 3 มื้อ, นม 1 กล่อง, ชงชาต่างๆ ไม่ใส่น้ำตาล 2 ขวด, น้ำเปล่า 2 ขวด, กาแฟดำ 1 ขวด, ถั่วต่างๆ 20–30 กรัม
ผลคือ น้ำหนักลดเองโดยไม่ต้องออกกำลังกายเป็นกิจวัตร
ร่างกายฟิตระดับหนึ่ง สังเกตได้จากการวิ่งข้ามขั้นขึ้นชั้น 7 ได้แบบไม่เหนื่อยหอบ
ล่าสุดก็อุ้มลูกหนัก 12 กก. กว่า เดินขึ้นปราสาทโอซาก้าจากชั้น 1 ถึงชั้น 8 ได้
ที่สำคัญคือประหยัดเงินมาก แม้จะไม่ได้ลำบากเรื่องการเงิน แต่ก็ตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มอีก 1 ทริปได้แบบมีทอน
สุดท้ายคือได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยกลับมา แทบไม่ต้องใช้สิทธิ์ประกัน OPD ที่เบิกได้ปีละ 30 ครั้งเลย — ปกติทั้งปีใช้ไม่เกิน 1-2 ครั้ง
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดว่าอะไรยากกว่ากัน? การคุมอาหาร หรือการออกกำลังกายทุกวัน?