จขกท. เคยกินต้มมะระได้บ้าง แม้จะไม่ชอบมาก แค่ 2-3 ชิ้น ก็พอกินได้อยู่ แต่ถ้าเป็นมะระสดๆ ไม่ทำสุก ใช้จิ้มน้ำพริก หรือใส่ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ
อันนี้กินไม่ได้เลย มันขมจนต้องคายออก
เพื่อนรุ่นน้อง อายุ 30 ต้นๆ กินมะระสดได้เปลืองมาก เขาจะหั่นเป็นแว่นๆ กินกับน้ำพริกได้เป็นลูกๆ ดูเขากินน่าอร่อยมากเลยหยิบมา 1 แว่น
จิ้มน้ำพริกแล้วใส่ปากบ้าง คายออกมาแทบไม่ทัน ขมติดลิ้น แถมมีรสเฝื่อนไปอีก
รู้จักเมนูนี้ จากร้านตามสั่งเล็กๆ ในที่ทำงาน เพื่อนในแผนกชอบสั่งกินเมนูนี้ กินเสร็จเพื่อนชมแทบทุกครั้งว่า มันอร่อยมากๆ ไม่ขมเลยนะเธอ
แล้วเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวสารพัดคำพูด บอกให้ลองบ้าง จะได้เปิดโลกเมนูมะระ ด้วยความเพื่อนชมกรอกหูบ่อยสุด เลยฮึดสั่งตามให้จบๆ ไป
คิดในใจ ถ้ากินไม่ได้ ก็จะบอกเพื่อนให้หยุดพูดให้ฟังซะที ฉันลองมาแล้วนะเธอ ( วันนั้น ได้ซื้อข้าวมันไก่ สำรองไว้ 1 จาน 55 )
หลังจากลองกินคำแรก ก็เออ มันไม่ได้แย่นะ ด้วยเขาทำรสชาติได้อร่อยมาก ทำให้ความขมที่ยังมีอยู่บ้างไม่ถึงกับทนไม่ได้ (เพื่อนตัวดี บอกไม่ขมๆ )
ผ่านไปอีกหลายวัน นึกอยากกินขึ้นมาเองละ เลยสั่งลองอีก กินหมดเกลี้ยง คิดในใจ ฉันแก่ขึ้นมากแน่นอน 55
แล้ววันหนึ่ง ก็สั่งอีกครั้ง แม่ค้าบอกยืนรอเลย ไม่มีคิว แพร๊บเดียวละ เลยได้เห็นแม่ค้าหั่นมะระสดๆ เป็นแว่นๆ นำไปล้างน้ำ มองดูว่าทำอะไรกับมะระต่ออีก
ก็เห็นหยิบมะระใส่จานตามปริมาณที่จะผัด แล้วก็จุดไฟตั้งกะทะ แล้วก็ทำการผัดตามขั้นตอนผัดกะเพราปกติ แพร๊บเดียว ส่งจานให้
ด้วยความอยากอวดญาติพี่น้องที่บ้าน เมื่อถึงวันนัดรวมพลมากินข้าวกัน เลยไปซื้อมะระมาเตรียมไว้ ทำแบบผัดกะเพราแค่เพิ่มมะระลงไป ปรากฎว่า
หมดเกลี้ยงจาน แทบทุกคนบอกว่า เฮ๊ย เมนูนี้มันอร่อยมากเลยแก จำมาจากไหน
ซื้อมะระมา 1 ลูก เมื่อ 2 วันก่อน แล้วจับแช่ตู้เย็นไว้ วันนี้เลยนำมาผ่าครึ่ง คว้านไส้และเมล็ดออก ใช้ช้อนสั้นขูดเยื่อขาวๆ ออกให้มากที่สุด
ตัดแบ่งครึ่งอีกครั้งให้สั้นลง แล้วนำไปล้างน้ำสะอาด 1-2 น้ำ ทำการหั่นเป็นแว่นๆ ขนาดไม่หนา ไม่บาง (หนาไปก็สุกยาก บางไป เวลาผัด
ก็เละง่าย แถมหักครึ่งไม่เป็นรูปทรงสวย ) กะด้วยสายตา ประมาณ 1/2 ซม. หรือเกินเล็กน้อย กำลังดีละ
หั่นเสร็จ ใส่ตะกร้าหรือกระชอนใดๆ ก็ได้ ให้สะเด็ดน้ำพักไว้ ไม่ต้องคลุกเกลือ ไม่ต้องทำอะไรเขา ปล่อยไว้อย่างนั้น
เดินไปที่สวนผัก เด็ดใบกะเพรามา 1 กำใหญ่ๆ
แล้วก็เด็ดพริกขี้หนูมาอีก 1 กำมือ นำมาตำ หยาบละเอียดแล้วแต่ชอบ เตรียมผัดกะเพรา
พริกสดๆ ใหม่ๆ พอโดนน้ำมันร้อนๆ กลิ่นเขาจะหอมฉุนสุดๆ ข้างบ้านเรือนเคียง มีเสียงจามสิคะ 55
สูตรผัดกะเพรามะระ เป็นเช่นการผัดกะเพราปกติทั่วๆไป แค่เพิ่มขั้นตอนใส่มะระเข้าไปเท่านั้นเอง ใครถนัดผัดแบบไหนก็ตามชอบค่ะ
แล้วก็ใส่หมูสับลงไป ผัดให้รสชาติเผ็ดร้อนของพริก ซึมเข้าไปอยู่ในหมูสับสักเล็กน้อย แล้วก็เร่งไฟแรงขึ้น ใส่มะระที่เตรียมไว้ลงไป
แล้วเติมน้ำสะอาด สัก 2 ชต. (เพื่อช่วยให้มะระสุกไว สีเขียวสวย) มือข้างที่จับตะหลิวก็ทำการคลุกมะระให้โดนความร้อนทั่วๆ กัน
พอมะระโดนความร้อน เขาก็จะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นเขียวเข้มค่ะ
ขั้นตอนนี้ ก็ปรุงรสตามต้องการได้เลย (จขกท. จะใช้ถ้วยเล็กๆ 1 ใบ ทำการใส่เครื่องปรุงและซอสตามต้องการ ผสมให้เข้ากันในถ้วย
แล้วเทจากถ้วยลงกะทะทีเดียว ) คลุกเคล้ามะระ หมูสับ ให้เข้ากับน้ำซอสที่ใส่ลงไป (ถ้ากะทะแห้งไป ก็เติมน้ำสะอาด 1-2 ชต.)
พอมะระสุกได้ที่ ก็ใส่ใบกะเพราที่เตรียมไว้ ผัดๆ ให้เข้ากัน พอกะเพราโดนไฟ เปลี่ยนสีเข้มส่งกลิ่นหอม ก็ปิดไฟ ตักใส่จานกินร้อนๆ
เพิ่มเติม : น้ำสะอาดที่เติมลงไป ทำให้ในกะทะมีความชื้นไอน้ำ ช่วยให้มะระสุกไวขึ้น สีเขียวสวย (ถ้าผัดไฟอ่อน ผัดนาน มะระจะนิ่มเกินไป)
ผัดไฟแรงๆ ช่วงใส่มะระจะช่วยทำให้สีเขียวสวยและไม่ขมมาก ใช้กะทะเหล็ก หรือ สแตนเลส จะร้อนง่าย ร้อนไว ดีกว่ากะทะเทปล่อน
เมนูนี้ผัดกะเพรามะระนี้ ใส่หมูสับ เข้ากันดีมาก แต่ครั้งต่อไปจะลองเปลี่ยนเนื้อสัตว์อื่นๆ ดูว่าจะเข้ากันได้ไหม
เพิ่มไข่ดาวคนละฟอง ไว้แก้เผ็ด
ถ้าจะบอกว่าความขมไม่มีเลย ก็ไม่ใช่ ต้องบอกว่า ความขมเหลือน้อยมาก แต่ขมแบบกินได้ ปรุงรสชาติให้เข้มๆ ก็กินได้อร่อยค่ะ
หวานเป็นลม ขมเป็นยา ตามคำโบราณว่าไว้
ผัดกะเพรามะระหมูสับ