JJNY : 5in1 ลิซ่าแนะอนุทิน│ภคมนชวนจับตาเส้นเงิน12ล.│ปชน.อ้าแขนรับภท.│แรงงานกัมพูชายังไม่กลับง่ายๆ│อิหร่านพร้อมหยุดตอบโค้

ลิซ่า แนะ อนุทิน คุยนายกฯให้จบ หากไม่อยากสลับขั้ว เชื่อประชาชนเริ่มรำคาญปรับครม.รายวัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5231926
.
.
ลิซ่า แนะ อนุทิน คุยนายกฯให้จบ หากไม่อยากสลับขั้ว เชื่อประชาชนเริ่มรำคาญ ปรับครม.รายวัน 
.
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ในการทำงานของพรรคฝ่ายค้านไม่ได้เกิดจากปฏิญญาใดๆ ใครไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน โดยลักษณะการทำงานเป็นเอกภาพชัดเจนไม่มีการแบ่งเก้าอี้หรือตำแหน่งใดๆ
.
น.ส.ภคมน กล่าวต่อว่า ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ต้องคิดถึงการเป็นพรรคฝ่ายค้าน ถ้ามั่นใจว่ากระทรวงที่ได้รับมอบหมายนั้นสามารถทำงานรับใช้ประชาชนได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดและทำได้ดีกว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาไปดูแลเอง
.
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องพูดคุยหาความชัดเจนกับ นายกฯให้จบ เพราะกระแสปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนมั่นใจว่าประชาชนเริ่มรำคาญกันแล้ว เพราะเป็นเรื่องของนักการเมืองที่พูดกันแต่เรื่องของตัวเอง ลืมวาระของประชาชนไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่ไม่ถูกแก้ ปัญหาชายแดนที่ยังไม่ได้ความชัดเจน รวมถึงปัญหาคอรัปชั่น ที่เป็นข่าวได้ทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ จนทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล ถดถอย
.
ในเมื่อความชัดเจนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจตัดสินใจเอง ดิฉันคิดว่าคุณอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคอันดับ2 มีความสำคัญมากพอที่จะยุติหาความชัดเจนเรื่องนี้ให้จบอย่าปล่อยให้พรรคเพื่อไทยปล่อยข่าวลดถอนพรรคอันดับ2รายวัน ดิฉันเชื่อว่าไม่มีท่านเขาก็ลำบาก

ถ้ากระแสข่าวปรับครม.นิ่งและชัดเจนได้เร็วที่สุด รัฐมนตรีทุกคนจะได้กลับมามีสติ สมาธิในการทำงานเพื่อประชาชน ทุกวันนี้ข่าวการเมืองมีแต่ข่าวผลประโยชน์ที่จัดการกันไม่ลงตัว วันนี้ดิฉันอยากส่งสัญญานถึงผู้มากประสบการณ์ทางการเมืองทั้งหลาย ถามตัวเองซิคะ สภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ประชาชนได้อะไร” น.ส.ภคมนกล่าว
.

.
ภคมน ชวนจับตา เส้นเงิน 12 ล้าน สาวถึงบริษัทหนุนผุดนิคมจะนะ ข้องใจสุดท้ายใครได้ประโยชน์สุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5231983
.
‘ลิซ่า’ แฉเส้นเงิน 12 ล้านข้างถังขยะ ส่อโยงนิคมจะนะ สะท้อนปัญหาขยะใต้พรมในองค์กรอิสระ
.
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีเงินสด 12 ล้านบาทข้างถังขยะ ที่ต่อมา นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงความเป็นเจ้าของว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะกำลังฉายให้เห็นภาพมือไม้ของขบวนการประเคนทรัพยากรของชาติไปสู่มือนายทุนว่าทำงานอย่างไร ก่อนหน้านี้เรื่องแบบนี้มักซ่อนอยู่ใต้พรม แต่ไม่ว่าอย่างไร หากมันเป็นขยะ ต่อให้ซ่อน วันหนึ่งมันย่อมส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา ไม่ต่างจากกรณีตึก สตง.ถล่ม หรือการซื้อตึกประกันสังคมที่แพงเกินจริง
.
น.ส.ภคมนกล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่านายทวีวัฒน์เก่งกล้าสามารถมาจากไหน แต่สิ่งที่รู้คือคนคนนี้สามารถเข้าไปมีตำแหน่งในองค์กรอิสระได้หลายองค์กร และมักอยู่ในบทบาทที่สามารถชงความเห็นทางกฎหมายที่เป็นคุณต่อกลุ่มทุนเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจได้ ภายใต้โครงสร้างขององค์กรอิสระที่มีที่มายึดโยงกับการรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็น กสทช.ที่นายทวีวัฒน์เป็นที่ปรึกษาและเป็นอนุกรรมการชุดสำคัญ เช่น การควบรวมทรู-ดีแทค
.
ผลที่ออกมาก็คือการผูกขาดทางการค้าที่ทำให้คลื่นมือถือเหลือแค่ 2 เจ้า จนแทบไม่มีการแข่งขัน และหากดูความสัมพันธ์กับกลุ่มทุนก็ไม่ยาก เพราะก่อนจะเข้ามามีบทบาทใน กสทช. เขาเคยเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่สุดท้ายสัมปทานนี้ไปอยู่ในมือกลุ่มทุนใดคงเป็นเรื่องที่ทุกคนคงทราบกันดีแล้ว
.
น.ส.ภคมนกล่าวว่า นายทวีวัฒน์ยังได้เข้าไปมีตำแหน่งใน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบทุจริต
.
ล่าสุดลาออกแล้วจากทุกตำแหน่งหลังเกิดกรณีเงิน 12 ล้าน และที่น่าสนใจก็คือ จากการตรวจสอบเส้นเงินพบว่าเงิดสด 12 ล้านนี้อาจมาจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นโครงการที่มีเสียงคัดค้านจากพื้นที่ ทำให้มีความพยามยามหาแนวร่วมสนับสนุนในพื้นที่อย่างไม่เลือกวิธีการเพื่อให้โครงการผ่าน ซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเส้นเงิน 12 ล้านบาท มาจากแหล่งที่มาดังกล่าวจริง คงสันนิษฐานไม่ยากว่าเงินก้อนนี้จะถูกนำไปใช้งานอย่างไร
.
ความไม่ปกติและไม่โปร่งใสต่อโครงการนี้ยังมีอีกมาก รวมถึงกระบวนการได้มาซึ่งที่ดินในพื้นที่ 3 ตำบล ติดชายฝั่งทะเล ของ อ.จะนะ ที่ถูกจัดซื้อจัดขายกันโดยมิชอบและทำกันเป็นขบวนการระหว่างนักการเมือง เจ้าหน้าที่ที่ดินในพื้นที่ กับบริษัทผู้เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งทราบว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เคยค้นพบความไม่ปกติในเรื่องนี้มาแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าการตรวจสอบว่ามีข้อสรุปเป็นอย่างไร” น.ส.ภคมนกล่าว
.
น.ส.ภคมนกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะคือหนึ่งในโครงการที่อดีตพรรคก้าวไกลเคยตรวจสอบรัฐบาลชุดก่อน เพราะมีร่องรอยของความพยายามร่วมมือกันระหว่างฝ่ายการเมืองบ้านใหญ่ของสงขลา กับนายทุนใหญ่ท่อน้ำเลี้ยงอดีตม็อบสีหนึ่งที่สนับสนุนการรัฐประหาร ที่รวมหัวกันปั่นราคาที่ดินและกว้านเอาทรัพยากรให้ไปอยู่ในมือนายทุน ซึ่งมีพี่น้องประชานในพื้นที่มากมายคัดค้าน กลายเป็นความขัดแย้งในพื้นที่ที่ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
.
น.ส.ภคมนระบุว่า สิ่งที่น่าสังเกตคือขณะนี้ภาคใต้กำลังหอมหวาน ภายใต้ข้ออ้างการพัฒนา บอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจดี คุณภาพชีวิตดี จึงมีความพยายามดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ลงมามากมาย นอกจากโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะแล้ว ยังมีโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC ที่ต้องจับตา หลังเปิดสมัยประชุมสภา 3 กรกฎาคมนี้ คงได้เห็นความพยายามดันกันสุดตัว ถ้ากฎหมายนี้ผ่าน จะเกิดการเวนคืนที่ดิน ออกแบบผังเมืองใหม่ พื้นที่สีเขียวอาจจะกลายเป็นพื้นที่สีม่วงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทุนอุตสาหกรรม สุดท้ายไม่รู้ว่าผลประโยชน์จะตกแก่ใครมากกว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามที่รัฐบาลโฆษณา หรือทุนใหญ่ไม่กี่รายที่อยู่เบื้องหลัง
.
ดิฉันไม่ปฏิเสธว่าภาคใต้เราถูกละเลยและไม่มีเรือธงทางเศรษฐกิจตัวใหม่มานาน พูดง่ายๆ ก็คือมีแต่ยางกับปาล์ม ในขณะที่ตลาดเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ไม่เติบโตตามศักยภาพอย่างที่ควรเป็น แต่สิ่งที่ภาคใต้ต้องการคือยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม พัฒนาบนฐานทรัพยากรที่มี ไม่ใช่การพัฒนาแบบผีจับยัด ที่คนได้คือนายทุนข้างนอก แต่คนที่จะเสียต้นทุนทางทรัพยากรอันมีคุณค่าไปตลอดกาลก็คือคนในพื้นที่” น.ส.ภคมนกล่าว
.
น.ส.ภคมนกล่าวด้วยว่า กรณีเงินสด 12 ล้านบาทเป็นจิ๊กซอว์ที่ช่วยต่อภาพใหญ่ให้เห็นความโหยกระหายของคนบางกลุ่มที่ต้องการช่วงชิงทรัพยากรของชาติ คนที่ถวายตัวรับใช้ทำเรื่องไม่ตรงไปตรงมาเพื่อแลกกับผลประโยชน์เฉพาะตัวเฉพาะหน้า บุคคลประเภทนี้คงมีอีกมากมายแทรกซึมในองคาพยพของรัฐและองค์กรอิสระ เพื่อทำหน้าที่ชง ล็อบบี้ หรือกระทั่งลดทอนการตรวจสอบแบบเดียวกับนายทวีวัฒน์ไปปรากฏตัวทั้งใน กสทช. และ ป.ป.ช. ซึ่งขบวนการแบบนี้เติบโตขึ้นมากในช่วงหลังการรัฐประหาร
.
“นี่จึงเป็นเรื่องที่ดิฉันอยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันติดตามและตรวจสอบการทำงานขององค์กรพวกนี้ แม้ว่าดูเผินๆ เหมือนไม่เกี่ยวกับเรา แต่พอสืบสาวจะเห็นความเชื่อมโยงของทุน-องค์กรอิสระ-พวกสุนัขรับใช้ ที่ทำให้ชาติเสียประโยชน์ปีละมหาศาล และที่สำคัญคือทรัพยากรที่เจ้าของกลับไม่ใช่ผู้ได้ประโยชน์ มีแต่นายทุนที่ยืนลูบปากยิ้มหวาน ท่ามกลางผลกระทบมากมายที่ปราศจากการศึกษาและรับฟังผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างถ่องแท้ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีโครงการอะไรลงมา ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบ และยืนยันสิทธิในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาไม่ว่าจะระดับภูมิภาคและประเทศนี้” น.ส.ภคมนกล่าว
.

.
ปชน. อ้าแขนรับ ภูมิใจไทย มาเป็นฝ่ายค้าน เชื่อ เพื่อไทย ไม่กล้าขับพ้นรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9805565
.
ปชน. อ้าแขนรับ ภูมิใจไทย มาเป็นฝ่ายค้าน เชื่อ เพื่อไทย ไม่กล้าขับพ้นรัฐบาล “วิโรจน์” ชี้ ภท. ดูดสส.ก๊วนนั้นก๊วนนี้ สร้างอำนาจต่อรองในรัฐบาล
.
วันที่ 15 มิ.ย. 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ ข่าวสดออนไลน์ กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน แต่มีเงื่อนไขเดียวคือไม่แตะมาตรา 112
.
โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้านายอนุทินตัดสินใจมาเป็นฝ่ายค้านก็ยินดีต้อนรับ ซึ่งจุดยืนของพรรคประชาชนเหมือนเดิม แต่ถ้าต้องมายืนอยู่ในบทบาทที่ต้องตรวจสอบรัฐบาลร่วมกันก็ต้องทำงานร่วมกัน ต้องเป็นมืออาชีพ
.
พรรคประชาชนมีจุดยืนของพรรคประชาชน ภูมิใจไทยก็มีจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ต่างฝ่ายต่างสงวนจุดยืนของตัวเอง นายอนุทินจะสงวนจุดยืนของตัวเองเราก็เคารพ และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายอนุทินก็ควรจะเคารพจุดยืนของพรรคประชาชนด้วยเช่นกัน” นายวิโรจน์ กล่าว
.
เมื่อถามกรณีนายอนุทินประกาศเงื่อนไขไม่แตะมาตรา 112 จะทำให้พรรคประชาชนผลักดันเรื่องนี้ในสภาฯ ยากหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับประชาชน ทุกคนชอบคิดแต่ว่าพึ่งมือเสียง สส. ในสภา ยกตัวอย่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า หรือพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ถ้าเราหวังพึ่งแต่มือในสภา โดยไม่ให้ความสำคัญกับภาคประชาชน มันไม่สำเร็จหรอก
.
พรรคประชาชนไม่เชื่อเรื่องการดีลหรือคุยในวงลับมากนัก ตนคิดว่าการผลักดันวาระสำคัญ การสื่อสารกับประชาชนให้เห็นถึงเจตนาที่ดีและปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เหตุผลอะไรที่นำไปสู่การแก้ไข ตรงนี้สำคัญที่สุด หลายครั้งที่คุณไปดีลลับกันมา มีปฏิญญานั้นปฏิญญานี้ สุดท้ายถ้าคุณขาดการสื่อสารกับประชาชน มันล่มทุกครั้ง
.
เมื่อถามว่ามองสถานการณ์พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เพื่อไทยกับภูมิใจไทยตอนนี้ สภาพเหมือนอยู่กันไปก็ทรมาน แต่ขาดจากกันก็ไม่ได้ เชื่อว่าภูมิใจไทยไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน
.
ยุทธศาสตร์ทางการเมืองของภูมิใจไทย คือ ฉันต้องเป็นรัฐบาลเสมอ ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของภูมิใจไทยเรื่อยมา คือเขาต้องดำรงตนให้เป็นพรรคตัวแปร หมายความว่าถ้าเขาไปอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นจะได้เป็นรัฐบาล อาจจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวนสส.มากที่สุด แต่มีจำนวนสส.มากระดับหนึ่ง ที่จะเป็นพรรคตัวแปรจัดตั้งรัฐบาลได้
.
“ภูมิใจไทยไม่ได้อยากเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่ในส่วนเพื่อไทย ถ้าไม่มีภูมิใจไทย ถ้าดูสมการทางการเมืองและจำนวนสส. ณ ตอนนี้ อยู่ไม่ได้ ที่บอกว่าเสียงกึ่งหนึ่ง ใช่ แต่มีศักยภาพหรือไม่
.
และเห็นท่าทีของภูมิใจไทยหรือไม่ ที่พยายามดึงพยายามดูดกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เช่น กลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นการสั่งสมศักยภาพผ่านจำนวนที่นั่งของ สส. ของทั้งภูมิใจไทยและเครือข่ายภูมิใจไทย เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในรัฐบาล ดังนั้น เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่กล้าขับพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล” นายวิโรจน์ กล่าว
.
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ภูมิใจไทยประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน เป็นการประกาศว่าฉันไม่ง้อเธอเหมือนกัน และเป็นการประกาศว่า พรรคเพื่อไทยไม่กล้าหรอก ซึ่งไม่ใช่การท้าทาย แต่เป็นการสวนพรรคเพื่อไทยอย่างสุภาพ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่