ุ
สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากมาเล่าเรื่องหลอนที่ผมไม่มีวันลืม
เรื่องที่ทำให้ “บ้านยาย” กลายเป็นที่ที่ไม่มีใครกล้าเหยียบขึ้นไปอีกเลย...
---
บ้านไม้... กับข้อห้ามแปลก ๆ
เรื่องเริ่มหลังจากยายของผมเสียไปไม่นาน
บ้านหลังนั้น—บ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ อยู่ใกล้โรงเรียนผมพอดี แม่เลยตัดสินใจพาผมย้ายเข้าไปอยู่ เพราะเดินทางสะดวก
แต่สิ่งที่แปลกคือ...
“แม่ห้ามผมขึ้นไปบนบ้านโดยเด็ดขาด”
> “จำไว้นะ อย่าขึ้นไปบนบ้าน ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ตอนแรกผมก็เชื่อครับ ไม่คิดมากอะไร
แต่แล้วเรื่องมันก็เริ่มขึ้น... ในวันที่เพื่อนมาบ้าน
---
เสียงหัวเราะกับร่างบิดเบี้ยว
วันนั้นเพื่อนผมมาหาที่บ้าน และขอเข้าห้องน้ำ
ผมก็บอกให้เดินตรงไป แต่เขาไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ข้างล่าง... เขาเลยเผลอขึ้นไปบนบ้าน
ไม่กี่นาทีต่อมา ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่ง... อยู่ชั้นบน!
พอผมเงยหน้ามองขึ้นไปตรงบันได ประตูห้องบนบ้านมัน...เปิดอยู่
ผมรีบวิ่งขึ้นไป แล้วภาพที่เห็นทำให้ผมลืมไม่ลงจนถึงวันนี้
เพื่อนผมนอนดิ้นอยู่กับพื้น
ตัวมันบิดเบี้ยว แววตาหลุดลอย ปากหัวเราะแบบไม่ใช่เสียงคน
> “ฮะ ฮ่าฮ่า ฮะฮะฮ่า!!”
ผมตกใจสุดชีวิต รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ
สุดท้ายมีคนแถวบ้านมาช่วยพามันลงมาข้างล่าง
ไม่นาน แม่ผมกลับมาจากทำงาน
พอเห็นคนมุงหน้าบ้าน แม่ก็รู้ทันทีว่า... ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ
แม่เดินเข้ามา เห็นอาการเพื่อนผม แล้วรีบไปหยิบ กระปุกเล็ก ๆ บนหิ้งพระ
เปิดมันออกมา หยิบเม็ดกลมสีน้ำตาลอ่อน คล้ายยาลูกกลอน แล้วพูดเสียงสั่งว่า
> “จับเพื่อนแกอ้าปากไว้!!”
แม่ยัดของในกระปุกเข้าไปในปากเพื่อนผม แล้วเริ่มสวด
> “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต...”
ไม่กี่นาที เสียงหัวเราะก็ค่อย ๆ เบาลง
เพื่อนผมเริ่มมีสติ ร้องไห้ออกมา และ... อาเจียน
---
ผีทำ... ความลับที่แม่ไม่เคยบอก
คืนนั้น แม่พาผมขึ้นไปบนบ้าน และเล่าเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน...
แม่บอกว่า ยายเคยเลี้ยง “ผีทำ” เอาไว้บนบ้าน
เป็นวิญญาณตามความเชื่อโบราณในหมู่บ้าน ที่ใช้ “ควบคุม” เพื่อช่วยเหลือบางอย่าง
ผีพวกนี้อยู่ในความดูแลของยายมาตลอด
แม่จะกลับไปเอา “ของสำคัญ” ที่ใช้ควบคุมมันมาไว้ที่บ้านตลอด เพื่อรับมือเวลาเกิดเรื่องฉุกเฉิน
แม่บอกว่า:
> “ผีพวกนี้ไม่เคยทำร้ายใครหรอก... แค่แกล้งบ้าง เดินบ้าง แต่ไม่เคยเข้าใครสิงใคร”
ผมฟังแล้วก็กลัวครับ... แต่ก็คิดว่า
ถ้าไม่ขึ้นไปอีก ก็คงไม่เป็นไร
---
“เสียงนั้น”... ในคืนปาร์ตี้ปีใหม่
คืนวันปีใหม่ แม่ติดเวรทำงานกะดึก ผมเลยจัดปาร์ตี้กับเพื่อนที่บ้าน
เมากันจนสนุกเฮฮา
อยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนลงมาจากชั้นบน
> “เงียบหน่อย!”
เสียงนั้นเย็นวาบ... ทุกคนหยุดคุยทันที
ผมหัวเราะกลบเกลื่อนไปว่า
> “คงผีแหละ บ้านนี้มีผี ฮ่า ๆ ๆ”
แต่เพื่อนคนหนึ่งชื่อ “ตั้ม” มันพูดแบบไม่กลัว
> “ผีอะไรจะตะโกนด่า? กล้าขึ้นไปเจอหน้าป่ะล่ะ?”
ผมยังไม่ทันตอบ...
เสียงหนึ่งกระซิบใกล้หูผม ชัดเจนเหมือนอยู่ข้างตัว
> “กูเตือนแล้วนะ...”
ผมหันขวับ—แต่ตรงนั้นไม่มีใคร
เพื่อนทุกคนอยู่ห่างเกินจะมากระซิบได้
...และตั้มก็เดินขึ้นไปข้างบน
---
“กูเตือนแล้วนะ...”
ผมรีบตามขึ้นไป สิ่งที่เห็นทำให้ขนลุกจับหัวใจ
ตั้มกำลังกระโดดไปรอบ ๆ โต๊ะบูชากลางห้อง
เหมือนเด็กเล่นซน แล้วหันมามองหน้าผม พูดว่า
> “กูเตือนแล้ว...”
เสียงนั้นไม่ใช่เสียงตั้ม มันเย็นชา... และรู้สึกเหมือนพูดมานานแล้ว
จากนั้น ตั้มวิ่งไปที่หน้าต่าง...
แล้วกระโดดลงจากชั้นสอง!!
ผมกับเพื่อนรีบวิ่งลงไปดู มันนอนกองอยู่กลางวงเหล้า
เลือดไหลเต็มตัว ร้องด้วยเสียงเจ็บปวด
> “ช่วยกูด้วย!! เจ็บโว้ย!!”
---
ความจริง... ที่เกือบสายไป
เราพาตั้มไปโรงพยาบาล
ผมโทรหาแม่อย่างไม่รู้จะทำยังไง
แม่มาถึง พร้อมกับตะโกนขึ้นมาว่า
> “ไม่ได้ให้มันกินยาใช่ไหม!?”
ผมพยักหน้า
แม่อุทานเสียงสั่น...
> “

แล้ว!!”
---
เสียงสุดท้าย... ก่อนทุกอย่างสงบ
ขณะที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
ตั้มก็เริ่มหัวเราะอีกครั้ง บิดตัว
ตอนนี้ ตั้มเริ่มมีอาการเหมือนเดิมอีกครั้ง บิดตัว หัวเราะ แล้วพูดด้วยเสียงหลอน ๆ ว่า
“แม่สั่งแล้วนะ

ไม่เชื่อ... งั้นกูขอเพื่อนนะ!”
ผมช่วยจับตัวตั้มไว้ พร้อมสวด “นะโมตัสสะ…” แต่เสียงนั้นก็กระซิบข้างหูผมอีกว่า
> “รีบ ๆ สวดนะ เดี๋ยวเพื่อนไปแน่ ๆ”
ผมหลุดปากด่ากลับไปว่า
“ถ้าเพื่อนกูตาย ก็โดนด้วย !!”
หลังจากนั้น แม่มาถึงทันเวลา และยัดยาเม็ดนั้นเข้าไปในปากตั้ม ก่อนจะสวดมนต์ต่อ อาการของตั้มเริ่มสงบลง จนกลับสู่ปกติ
แม่โมโหผมมาก และวันนั้นเอง แม่ล็อกประตูบ้านข้างบน และไม่มีใครได้ขึ้นไปอีกเลย…
---
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากฝากไว้ว่า...
บางเรื่องแม้จะไม่เห็นกับตา แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
ถ้าผมเชื่อแม่ตั้งแต่แรก... บางอย่างอาจไม่ต้องเกิดขึ้นเลยก็ได้
กูเตือนแล้วนะ...” บ้านยายที่ไม่มีใครกล้าขึ้นไปอีกเลย
สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากมาเล่าเรื่องหลอนที่ผมไม่มีวันลืม
เรื่องที่ทำให้ “บ้านยาย” กลายเป็นที่ที่ไม่มีใครกล้าเหยียบขึ้นไปอีกเลย...
---
บ้านไม้... กับข้อห้ามแปลก ๆ
เรื่องเริ่มหลังจากยายของผมเสียไปไม่นาน
บ้านหลังนั้น—บ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ อยู่ใกล้โรงเรียนผมพอดี แม่เลยตัดสินใจพาผมย้ายเข้าไปอยู่ เพราะเดินทางสะดวก
แต่สิ่งที่แปลกคือ...
“แม่ห้ามผมขึ้นไปบนบ้านโดยเด็ดขาด”
> “จำไว้นะ อย่าขึ้นไปบนบ้าน ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ตอนแรกผมก็เชื่อครับ ไม่คิดมากอะไร
แต่แล้วเรื่องมันก็เริ่มขึ้น... ในวันที่เพื่อนมาบ้าน
---
เสียงหัวเราะกับร่างบิดเบี้ยว
วันนั้นเพื่อนผมมาหาที่บ้าน และขอเข้าห้องน้ำ
ผมก็บอกให้เดินตรงไป แต่เขาไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ข้างล่าง... เขาเลยเผลอขึ้นไปบนบ้าน
ไม่กี่นาทีต่อมา ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่ง... อยู่ชั้นบน!
พอผมเงยหน้ามองขึ้นไปตรงบันได ประตูห้องบนบ้านมัน...เปิดอยู่
ผมรีบวิ่งขึ้นไป แล้วภาพที่เห็นทำให้ผมลืมไม่ลงจนถึงวันนี้
เพื่อนผมนอนดิ้นอยู่กับพื้น
ตัวมันบิดเบี้ยว แววตาหลุดลอย ปากหัวเราะแบบไม่ใช่เสียงคน
> “ฮะ ฮ่าฮ่า ฮะฮะฮ่า!!”
ผมตกใจสุดชีวิต รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ
สุดท้ายมีคนแถวบ้านมาช่วยพามันลงมาข้างล่าง
ไม่นาน แม่ผมกลับมาจากทำงาน
พอเห็นคนมุงหน้าบ้าน แม่ก็รู้ทันทีว่า... ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ
แม่เดินเข้ามา เห็นอาการเพื่อนผม แล้วรีบไปหยิบ กระปุกเล็ก ๆ บนหิ้งพระ
เปิดมันออกมา หยิบเม็ดกลมสีน้ำตาลอ่อน คล้ายยาลูกกลอน แล้วพูดเสียงสั่งว่า
> “จับเพื่อนแกอ้าปากไว้!!”
แม่ยัดของในกระปุกเข้าไปในปากเพื่อนผม แล้วเริ่มสวด
> “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต...”
ไม่กี่นาที เสียงหัวเราะก็ค่อย ๆ เบาลง
เพื่อนผมเริ่มมีสติ ร้องไห้ออกมา และ... อาเจียน
---
ผีทำ... ความลับที่แม่ไม่เคยบอก
คืนนั้น แม่พาผมขึ้นไปบนบ้าน และเล่าเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน...
แม่บอกว่า ยายเคยเลี้ยง “ผีทำ” เอาไว้บนบ้าน
เป็นวิญญาณตามความเชื่อโบราณในหมู่บ้าน ที่ใช้ “ควบคุม” เพื่อช่วยเหลือบางอย่าง
ผีพวกนี้อยู่ในความดูแลของยายมาตลอด
แม่จะกลับไปเอา “ของสำคัญ” ที่ใช้ควบคุมมันมาไว้ที่บ้านตลอด เพื่อรับมือเวลาเกิดเรื่องฉุกเฉิน
แม่บอกว่า:
> “ผีพวกนี้ไม่เคยทำร้ายใครหรอก... แค่แกล้งบ้าง เดินบ้าง แต่ไม่เคยเข้าใครสิงใคร”
ผมฟังแล้วก็กลัวครับ... แต่ก็คิดว่า
ถ้าไม่ขึ้นไปอีก ก็คงไม่เป็นไร
---
“เสียงนั้น”... ในคืนปาร์ตี้ปีใหม่
คืนวันปีใหม่ แม่ติดเวรทำงานกะดึก ผมเลยจัดปาร์ตี้กับเพื่อนที่บ้าน
เมากันจนสนุกเฮฮา
อยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนลงมาจากชั้นบน
> “เงียบหน่อย!”
เสียงนั้นเย็นวาบ... ทุกคนหยุดคุยทันที
ผมหัวเราะกลบเกลื่อนไปว่า
> “คงผีแหละ บ้านนี้มีผี ฮ่า ๆ ๆ”
แต่เพื่อนคนหนึ่งชื่อ “ตั้ม” มันพูดแบบไม่กลัว
> “ผีอะไรจะตะโกนด่า? กล้าขึ้นไปเจอหน้าป่ะล่ะ?”
ผมยังไม่ทันตอบ...
เสียงหนึ่งกระซิบใกล้หูผม ชัดเจนเหมือนอยู่ข้างตัว
> “กูเตือนแล้วนะ...”
ผมหันขวับ—แต่ตรงนั้นไม่มีใคร
เพื่อนทุกคนอยู่ห่างเกินจะมากระซิบได้
...และตั้มก็เดินขึ้นไปข้างบน
---
“กูเตือนแล้วนะ...”
ผมรีบตามขึ้นไป สิ่งที่เห็นทำให้ขนลุกจับหัวใจ
ตั้มกำลังกระโดดไปรอบ ๆ โต๊ะบูชากลางห้อง
เหมือนเด็กเล่นซน แล้วหันมามองหน้าผม พูดว่า
> “กูเตือนแล้ว...”
เสียงนั้นไม่ใช่เสียงตั้ม มันเย็นชา... และรู้สึกเหมือนพูดมานานแล้ว
จากนั้น ตั้มวิ่งไปที่หน้าต่าง...
แล้วกระโดดลงจากชั้นสอง!!
ผมกับเพื่อนรีบวิ่งลงไปดู มันนอนกองอยู่กลางวงเหล้า
เลือดไหลเต็มตัว ร้องด้วยเสียงเจ็บปวด
> “ช่วยกูด้วย!! เจ็บโว้ย!!”
---
ความจริง... ที่เกือบสายไป
เราพาตั้มไปโรงพยาบาล
ผมโทรหาแม่อย่างไม่รู้จะทำยังไง
แม่มาถึง พร้อมกับตะโกนขึ้นมาว่า
> “ไม่ได้ให้มันกินยาใช่ไหม!?”
ผมพยักหน้า
แม่อุทานเสียงสั่น...
> “
---
เสียงสุดท้าย... ก่อนทุกอย่างสงบ
ขณะที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
ตั้มก็เริ่มหัวเราะอีกครั้ง บิดตัว
ตอนนี้ ตั้มเริ่มมีอาการเหมือนเดิมอีกครั้ง บิดตัว หัวเราะ แล้วพูดด้วยเสียงหลอน ๆ ว่า
“แม่สั่งแล้วนะ
ผมช่วยจับตัวตั้มไว้ พร้อมสวด “นะโมตัสสะ…” แต่เสียงนั้นก็กระซิบข้างหูผมอีกว่า
> “รีบ ๆ สวดนะ เดี๋ยวเพื่อนไปแน่ ๆ”
ผมหลุดปากด่ากลับไปว่า
“ถ้าเพื่อนกูตาย ก็โดนด้วย !!”
หลังจากนั้น แม่มาถึงทันเวลา และยัดยาเม็ดนั้นเข้าไปในปากตั้ม ก่อนจะสวดมนต์ต่อ อาการของตั้มเริ่มสงบลง จนกลับสู่ปกติ
แม่โมโหผมมาก และวันนั้นเอง แม่ล็อกประตูบ้านข้างบน และไม่มีใครได้ขึ้นไปอีกเลย…
---
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากฝากไว้ว่า...
บางเรื่องแม้จะไม่เห็นกับตา แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
ถ้าผมเชื่อแม่ตั้งแต่แรก... บางอย่างอาจไม่ต้องเกิดขึ้นเลยก็ได้