(ประสบการณ์จริง จังหวัดเลย)
ช่วงปีใหม่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ฉันกับแฟนมีโอกาสไปเที่ยวบ้านพ่อที่ย้ายไปอยู่จังหวัดเลย หมู่บ้านที่พ่ออยู่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมถนนเส้นที่จะไปเชียงคาน อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร และไกลจากร้านอาหารหรือของกินที่ราชภัฏมากพอควร
ช่วงที่ไป อากาศหนาวจัด ราว ๆ เดือนตุลาคม ฉันกับแฟนเลยยืมรถน้องชายจะขับออกไปหาอะไรกินตอนประมาณ 3-4 ทุ่ม เพราะปกติอยู่ในเมืองก็กินข้าวดึกแบบนี้เป็นประจำ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก
บ้านพ่ออยู่ทางล่างของหมู่บ้าน ต้องขับรถผ่านกลางหมู่บ้านและเลยเข้าไปทางที่ติดป่า เมื่อขับขึ้นมาจนจะพ้นทางป่าอีกแค่ประมาณสิบกว่าเมตร ฉันซ้อนท้ายแฟนอยู่ ก็ได้ยินเสียง “เหมือนคนวิ่งตามรถ” — เสียงรองเท้าดีดส้น ชัดเจน เหมือนรองเท้าผ้าใบแบบช้างดาวกำลังตีพื้นถนนอย่างแรง
ตอนนั้นฉันไม่กล้าหันกลับไปมอง และคิดว่าอาจจะหูแว่วเพราะลมหนาว เลยไม่ได้พูดอะไรจนกลับมาถึงบ้าน แล้วก็นั่งคุยกับน้อง ๆ
ฉันพูดขึ้นว่า:
“เออ วันนี้ตอนขับรถไปซื้อของกับจา (ชื่อแฟน) ได้ยินเสียงคนวิ่งตามเลยอ่ะ เหมือนเสียงรองเท้าช้างดาวดีดส้นตรงป่าทางออกหมู่บ้านเลย”
น้องชายคนกลาง (เรียก A) เงยหน้าขึ้นแล้วพูดแบบไม่มีอารมณ์ตกใจอะไรเลยว่า:
“พี่ปลื้มไม่รู้หรอ ตรงนั้นมีคนตาย แม่บอกว่ามีผู้ชายสติไม่ดี เดินออกไปกลางถนนแล้วโดนรถชนตาย ฝังอยู่แถวนั้นแหละ แล้วก็เคยมีคนยิงกันแถวนั้นด้วย”
“เคยขับรถผ่านตอนดึก ๆ ได้ยินเสียงคนวิ่งตามเหมือนกัน เสียงรองเท้าแบบเดียวกับที่พี่พูดเลย ปกติเวลานี้ไม่มีใครออกจากบ้านหรอก”
ฉันถามกลับแบบขำ ๆ ปนเคืองว่า:
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ก่อนว่ามีผี?”
A ตอบหน้าตาย:
“ก็พี่ไม่ถาม”
น้องชายคนเล็ก (B) เสริมทันที:
“พี่ไม่เห็นหรอ หมู่บ้านนี้เขาเลี้ยงผีนะ เห็นศาลกลางหมู่บ้านไหม ลองไปดูดี ๆ”
ฉันตอบว่า:
“เห็นแล้ว มันก็เป็นแค่เสาไม้เฉย ๆ เอง ไม่ใช่ศาลซะหน่อย”
B พูดนิ่ง ๆ ว่า:
“นั่นแหละศาล เขาเลี้ยงผีกันจริง ๆ”
หลังจากวันนั้น ฉันไม่เคยกล้าออกจากบ้านช่วงกลางคืนอีกเลย ถ้าจะไปไหนต้องให้พ่อขับรถพาออกไปเองเท่านั้น เพราะกลัวมากจริง ๆ
…แต่เรื่องยังไม่จบ
คืนถัดมา ฉันกับน้อง ๆ รวมถึงแฟนกับพ่อ นั่งเล่นบอร์ดเกมกันในห้อง เพราะพวกเราชอบเล่นด้วยกัน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงแหย่กันตอนทำโทษที่ต้องดื่มน้ำเยอะจนเริ่มปวดฉี่
ประมาณ 4-5 ทุ่ม ฉันขอพักเกมเพื่อจะออกไปเข้าห้องน้ำ หน้าประตูห้องมีโซฟาตัวหนึ่ง ที่น้องชายชอบใช้ไว้นอน
ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกมา…
ฉันเห็น “ผู้หญิงผมยาว” นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา — นิ่งมาก ไม่มีเสียง ไม่มีการเคลื่อนไหว สวมเสื้อสีเข้ม ผมยาวปรกหน้า ไม่เห็นหน้า
ฉันยืนอึ้ง สตั๊นไปประมาณ 4-5 วินาที ไม่กล้าพูดอะไร ก่อนจะปิดประตูอย่างช้า ๆ หัวใจเต้นแรง รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
ในใจคิด…
“หรือจะเป็นแม่?”
แต่แม่ของฉันผมสั้น… แล้วในบ้านก็มีแค่ผู้หญิงอีกคนคือฉันเองกับแม่ ส่วนคนอื่นล้วนเป็นผู้ชาย แล้ว…ใครนั่งอยู่หน้าห้อง?
ฉันเลยรีบเรียกแฟน ให้เขาออกมาเปิดประตูดูแทน พอเปิดอีกครั้ง…
ไม่มีใครอยู่ที่โซฟาแล้ว
⸻
ตั้งแต่นั้น ฉันไม่เคยมองโซฟาหน้าห้องตอนกลางคืนอีกเลย และไม่เคยเดินออกไปห้องน้ำโดยไม่ให้ใครเดินตามอีก
มีต่อ...
สิ่งลี้ลับที่เจอ(ประสบการณ์จริง จังหวัดเลย)
ช่วงปีใหม่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ฉันกับแฟนมีโอกาสไปเที่ยวบ้านพ่อที่ย้ายไปอยู่จังหวัดเลย หมู่บ้านที่พ่ออยู่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมถนนเส้นที่จะไปเชียงคาน อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร และไกลจากร้านอาหารหรือของกินที่ราชภัฏมากพอควร
ช่วงที่ไป อากาศหนาวจัด ราว ๆ เดือนตุลาคม ฉันกับแฟนเลยยืมรถน้องชายจะขับออกไปหาอะไรกินตอนประมาณ 3-4 ทุ่ม เพราะปกติอยู่ในเมืองก็กินข้าวดึกแบบนี้เป็นประจำ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก
บ้านพ่ออยู่ทางล่างของหมู่บ้าน ต้องขับรถผ่านกลางหมู่บ้านและเลยเข้าไปทางที่ติดป่า เมื่อขับขึ้นมาจนจะพ้นทางป่าอีกแค่ประมาณสิบกว่าเมตร ฉันซ้อนท้ายแฟนอยู่ ก็ได้ยินเสียง “เหมือนคนวิ่งตามรถ” — เสียงรองเท้าดีดส้น ชัดเจน เหมือนรองเท้าผ้าใบแบบช้างดาวกำลังตีพื้นถนนอย่างแรง
ตอนนั้นฉันไม่กล้าหันกลับไปมอง และคิดว่าอาจจะหูแว่วเพราะลมหนาว เลยไม่ได้พูดอะไรจนกลับมาถึงบ้าน แล้วก็นั่งคุยกับน้อง ๆ
ฉันพูดขึ้นว่า:
“เออ วันนี้ตอนขับรถไปซื้อของกับจา (ชื่อแฟน) ได้ยินเสียงคนวิ่งตามเลยอ่ะ เหมือนเสียงรองเท้าช้างดาวดีดส้นตรงป่าทางออกหมู่บ้านเลย”
น้องชายคนกลาง (เรียก A) เงยหน้าขึ้นแล้วพูดแบบไม่มีอารมณ์ตกใจอะไรเลยว่า:
“พี่ปลื้มไม่รู้หรอ ตรงนั้นมีคนตาย แม่บอกว่ามีผู้ชายสติไม่ดี เดินออกไปกลางถนนแล้วโดนรถชนตาย ฝังอยู่แถวนั้นแหละ แล้วก็เคยมีคนยิงกันแถวนั้นด้วย”
“เคยขับรถผ่านตอนดึก ๆ ได้ยินเสียงคนวิ่งตามเหมือนกัน เสียงรองเท้าแบบเดียวกับที่พี่พูดเลย ปกติเวลานี้ไม่มีใครออกจากบ้านหรอก”
ฉันถามกลับแบบขำ ๆ ปนเคืองว่า:
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ก่อนว่ามีผี?”
A ตอบหน้าตาย:
“ก็พี่ไม่ถาม”
น้องชายคนเล็ก (B) เสริมทันที:
“พี่ไม่เห็นหรอ หมู่บ้านนี้เขาเลี้ยงผีนะ เห็นศาลกลางหมู่บ้านไหม ลองไปดูดี ๆ”
ฉันตอบว่า:
“เห็นแล้ว มันก็เป็นแค่เสาไม้เฉย ๆ เอง ไม่ใช่ศาลซะหน่อย”
B พูดนิ่ง ๆ ว่า:
“นั่นแหละศาล เขาเลี้ยงผีกันจริง ๆ”
หลังจากวันนั้น ฉันไม่เคยกล้าออกจากบ้านช่วงกลางคืนอีกเลย ถ้าจะไปไหนต้องให้พ่อขับรถพาออกไปเองเท่านั้น เพราะกลัวมากจริง ๆ
…แต่เรื่องยังไม่จบ
คืนถัดมา ฉันกับน้อง ๆ รวมถึงแฟนกับพ่อ นั่งเล่นบอร์ดเกมกันในห้อง เพราะพวกเราชอบเล่นด้วยกัน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงแหย่กันตอนทำโทษที่ต้องดื่มน้ำเยอะจนเริ่มปวดฉี่
ประมาณ 4-5 ทุ่ม ฉันขอพักเกมเพื่อจะออกไปเข้าห้องน้ำ หน้าประตูห้องมีโซฟาตัวหนึ่ง ที่น้องชายชอบใช้ไว้นอน
ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกมา…
ฉันเห็น “ผู้หญิงผมยาว” นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา — นิ่งมาก ไม่มีเสียง ไม่มีการเคลื่อนไหว สวมเสื้อสีเข้ม ผมยาวปรกหน้า ไม่เห็นหน้า
ฉันยืนอึ้ง สตั๊นไปประมาณ 4-5 วินาที ไม่กล้าพูดอะไร ก่อนจะปิดประตูอย่างช้า ๆ หัวใจเต้นแรง รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
ในใจคิด…
“หรือจะเป็นแม่?”
แต่แม่ของฉันผมสั้น… แล้วในบ้านก็มีแค่ผู้หญิงอีกคนคือฉันเองกับแม่ ส่วนคนอื่นล้วนเป็นผู้ชาย แล้ว…ใครนั่งอยู่หน้าห้อง?
ฉันเลยรีบเรียกแฟน ให้เขาออกมาเปิดประตูดูแทน พอเปิดอีกครั้ง…
ไม่มีใครอยู่ที่โซฟาแล้ว
⸻
ตั้งแต่นั้น ฉันไม่เคยมองโซฟาหน้าห้องตอนกลางคืนอีกเลย และไม่เคยเดินออกไปห้องน้ำโดยไม่ให้ใครเดินตามอีก
มีต่อ...