
โอเค วันนี้จะมาเล่าหนังให้ฟังแบบสบาย ๆ กับหนังเรื่อง “มันอยู่ในศาล” จาก Netflix ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อหรือเห็นโปสเตอร์กันมาบ้างแล้วนะครับ เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังแนวสยองขวัญที่ผสมผสานความลึกลับแบบไทย ๆ เข้ากับความรู้สึกหลอน ๆ แบบที่หลายคนชอบเลย
เริ่มจากชื่อเรื่อง “มันอยู่ในศาล” ก็ชวนให้คิดถึงศาลพระภูมิหรือศาลเจ้าต่าง ๆ ที่คนไทยเราให้ความเคารพนับถือกันมากอยู่แล้ว หนังเปิดเรื่องมาก็จะเน้นบรรยากาศอึมครึมของสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในศาลนั้นจริง ๆ เหตุการณ์รอบ ๆ ศาลก็จะมีคนในหมู่บ้านหรือชุมชนที่ดูเหมือนจะเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาด ๆ หรือสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลธรรมดา
. ฉากเปิดเรื่อง – ถึงประเทศไทย
จิม กับ
จูลี่ เดินทางถึงกรุงเทพฯ สนุกสนานกับวัฒนธรรมไทย แต่สังเกตความแปลกตา "ศาลพระภูมิ" ริมถนน โดยไม่เข้าใจความศักดิ์สิทธิ์ของมัน
นักท่องเที่ยวอื่นบางคน ก็ทำตัวไม่ค่อยให้เกียรติศาลซักเท่าไร
2. งานปาร์ตี้/เจอเพื่อน
ทั้งคู่ร่วมดื่มกับเพื่อนใหม่ เป็นชาวอังกฤษชื่อ
โรเบิร์ต กับ
บิลล์ โรเบิร์ตชวนจิมกับจูลี่ไป "ผจญภัย" ในแบบวัยรุ่น
3. ฉากศาลพระภูมิกลางป่า
โรเบิร์ตและบิลล์หลอกให้ทั้งสองเข้าไปเยี่ยมชมศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่า
ดื่มเบียร์/เล่นพิเรนทร์พวกฝรั่งทำกับศาล เช่น เอาตุ๊กตาในศาลออกมาเล่นถ่ายรูป หรือไปหยิบข้าวของในศาล
จูลี่ถูกบังคับให้หยิบ "รูปปั้นผี" ไปถ่ายรูปด้วย แถมยังทำของตกหล่นลงพื้น
โรเบิร์ต & บิลล์จงใจแกล้ง ทิ้งให้จิมกับจูลี่เดินกลับเอง
4. ฉากกลับโรงแรม – ความหลอนเริ่มขึ้น
จูลี่เริ่มเห็นวิญญาณผู้หญิงน่ากลัวลอยมาตามหลอกหลอน เสียงแปลกๆ ทั้งสองเริ่มมีอาการฝันร้าย/โดนผีหลอกในโรงแรม
5. ถามหาความช่วยเหลือ
จิมพยายามพาจูลี่ไปหาหมอแผนโบราณและหมอผีชาวไทย (ตัวละคร:
กู่ หรือ "Gogo"– หมอผีไทยที่พูดอังกฤษได้)
กู่เล่าว่าพวกเขาโดน "ผีศาล" ตามล่า เพราะลบหลู่และไปแตะต้องของในศาล
มีฉากทำพิธี – จุดธูป จุดเทียน พยายามไล่ผีให้ ทั้งยังเน้นความเฮี้ยนแบบไทยๆ (เสียงร้อง ข้าวของตก กระจกแตก ฯลฯ)
6. พิธีกรรมคืนของ
หมอผีแนะนำให้จิมต้องนำของที่เอาออกมาจากศาลนั้น กลับไปคืนที่เดิมในป่า
แต่ระหว่างทางก็โดนผีตามหลอกหนักขึ้นเรื่อยๆ มีฉากหลอนในโรงแรม/กลางป่าต่อเนื่อง เช่น เห็นผีในกระจก ผีเดินสวนมาในระยะประชิด ไฟกระพริบ
7. ฉากไคลแม็กซ์ – กลับไปยังศาล
จิม, จูลี่, และกู่ (รวมทั้งโรเบิร์ตที่เริ่มรู้สึกผิด) เดินทางผจญภัย กลับไปค้นหา "ศาลพระภูมิ" กลางป่า โดนผีวิญญาณหญิงไล่ล่า/บาดเจ็บ มีฉากบู๊ตื่นเต้น
สุดท้ายสามารถนำของกลับไปคืน แต่ผีศาลก็ไม่พอใจง่ายๆ ยังมีดราม่าเรื่องศรัทธา/ขอขมาของตัวละคร
8. ฉากจบ – บทสรุป
หลังคืนของ มีการขอขมา ตามความเชื่อท้องถิ่นในแบบไทย
ผีหยุดหลอก หลังตัวละคร "สำนึกผิด" และเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิ่น
หนังจบด้วยแง่คิดเรื่องการเคารพวัฒนธรรมต่างถิ่น ไม่ควรลบหลู่อาถรรพ์ในที่ที่เราไม่รู้จัก
รีวิวจุดเด่นของหนัง
จุดขาย ของหนังคือครึ่งเรื่องหลัง เน้นบรรยากาศความหลอนแบบไทยๆ
ผีศาลในเรื่องใช้เมคอัพเอฟเฟ็กต์โหดๆ หนังเล่นกับ "พื้นที่แคบมืดต้นไม้เยอะ" ในป่า/โรงแรมเก่า
สะท้อนความเชื่อ "ศาลพระภูมิ" ของไทย จากสายตาของฝรั่ง
การแสดงของนักแสดงไทยในหนัง (เช่น ตัวละครกู่) มีความฮา เสริมเรื่องราว
สไตล์หนังเจาะกลุ่มชอบ jump scare/หนังผีต่างชาติ
ทำไมต้องดูหนังเรื่องนี้
หากมองหาหนังฆ่าเวลาสักเรื่อง ดูง่าย ๆ แต่มีอะไรให้ติดตาม ไม่ซ้ำกับหนังตลาดทั่วไป ขอแนะนำให้ลองดูหนังเรื่อง “มันอยู่ในศาล” กันดูสักครั้ง หนังเรื่องนี้มีหลายเหตุผลเลยที่ผมว่า มันน่าสนใจแบบไม่ธรรมดา เอาหล่ะ มาลองไล่ดูทีละข้อว่าทำไมถึงต้องดู
ถ่ายทำในเมืองไทย
สิ่งแรกที่อยากพูดถึงคือ หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในเมืองไทย บรรยากาศหลาย ๆ ฉากในหนัง ทำให้เรารู้สึกอินได้ง่าย เพราะมันใกล้ตัวเหลือเกิน ใครที่รักความเป็นไทย ชอบกลิ่นอายแบบบ้าน ๆ หรือแม้แต่สถานที่อย่างศาลเก่า ๆ ตามต่างจังหวัด มันยิ่งสร้างบรรยากาศขนลุกขนพองได้ดีมาก แบบดูแล้วรู้สึกกลัวเพราะมันดูจริง ไม่เฟค คอสตูมหรือพร็อพทุกอย่างก็จัดเต็มแบบไทย ๆ เลย ดูไปก็ได้ซึมซับงานสร้างของคนไทยไปด้วย
นักแสดงโนเนมแต่กลับน่าสนใจไปอีกแบบ
แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้ดึงเอานักแสดงชื่อดัง ตัวเด็ด ๆ มาร่วมงาน แต่กลับกลายเป็นข้อดี เพราะนักแสดงโนเนมเหล่านี้เล่นกันได้เนียนแบบสุด ๆ ให้ความรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวคือคนจริง ๆ ที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แล้วมันเลยยิ่งดูน่าติดตาม เพราะเราไม่รู้จักเบื้องหลังชีวิตจริงของพวกเขา เลยรู้สึกสัมผัสกับตัวละครได้เต็มที่ เป็นความสดใหม่อีกแบบ ที่หลาย ๆ เรื่องไม่มี
เนื้อเรื่องชวนติดตาม
สำหรับเนื้อเรื่อง ต้องบอกเลยว่า วางพล็อตได้เจ๋งมาก มันไม่ได้เป็นแค่หนังผีธรรมดา ๆ ที่มาแบบเดาง่าย มีปมให้เราอยากรู้ต่อเรื่อย ๆ ยิ่งกับบรรยากาศในศาลที่ดูเงียบ ๆ ลึกลับ ตัวละครแต่ละตัวก็ดูมีอะไรในใจ เหมือนทุกคนซ่อนอะไรไว้ ทำให้เราอยากตามไปดูจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันจะจบยังไง ปริศนาที่เกี่ยวข้องกับ “มัน” ที่อยู่ในศาล มันคืออะไร ใครกันแน่ที่รอด ใครที่เป็นเหยื่อ
ความน่ากลัวของหนัง
ใครที่กลัวผีมาก กลัวฉากตุ้งแช่ เดี๋ยวใจจะวาย ไม่ต้องห่วง หนังเรื่องนี้จัดความสยองมาในระดับที่พอเหมาะพอดี ไม่ได้เน้นตกใจแรง ๆ หรือเอาผีมายืนจ้องหน้ากล้องแบบเกินเหตุ แต่มากับความหลอนแบบค่อยเป็นค่อยไป สร้างบรรยากาศให้คนดูรู้สึกตึง ๆ ไม่ไว้ใจได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่ามีบางฉากที่ขนลุก แต่ก็ไม่ถึงขนาดดูไม่ได้ ให้ความรู้สึกสนุกแต่ยังนอนหลับได้
สรุปเลยก็คือ “มันอยู่ในศาล” เป็นหนังแนวสยองขวัญที่มีความสดใหม่ มีความเป็นไทยสูง และทำให้คนดูต้องลุ้นจนหยุดดูไม่ได้ ใครที่ชอบหนังผี แบบที่ผสมผสานกับความลี้ลับและวัฒนธรรมท้องถิ่น เรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเลยครับ ถ้าได้ดูแล้วรับรองว่าจะมีอะไรให้คิดถึงให้พูดถึงอยู่ไม่น้อยแถมยังเสียวสันหลังไปพร้อม ๆ กันด้วย ใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหนังผีแบบไทย ๆ แนะนำเลยว่าให้เปิด Netflix แล้วหาหนังเรื่องนี้มาดู รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ ๆ
ข้อมูลของหนัง
· ความยาว 1 ชั่วโมง 36 นาที
เรท 16+ ความรุนแรง, การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม
นักแสดง: สเกาต์ เทย์เลอร์คอมป์ตัน,
เจมส์ แลนดรี เอเบิร์ต, มาร์ค บูน จูเนียร์,
แนว: ภาพยนตร์สยองขวัญ, ภาพยนตร์
อเมริกัน
[CR] ดูหนัง “มันอยู่ในศาล” หนังผีแนว Period ที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย แต่นักแสดงไม่ใช่(คนไทย)
โอเค วันนี้จะมาเล่าหนังให้ฟังแบบสบาย ๆ กับหนังเรื่อง “มันอยู่ในศาล” จาก Netflix ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อหรือเห็นโปสเตอร์กันมาบ้างแล้วนะครับ เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังแนวสยองขวัญที่ผสมผสานความลึกลับแบบไทย ๆ เข้ากับความรู้สึกหลอน ๆ แบบที่หลายคนชอบเลย
เริ่มจากชื่อเรื่อง “มันอยู่ในศาล” ก็ชวนให้คิดถึงศาลพระภูมิหรือศาลเจ้าต่าง ๆ ที่คนไทยเราให้ความเคารพนับถือกันมากอยู่แล้ว หนังเปิดเรื่องมาก็จะเน้นบรรยากาศอึมครึมของสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในศาลนั้นจริง ๆ เหตุการณ์รอบ ๆ ศาลก็จะมีคนในหมู่บ้านหรือชุมชนที่ดูเหมือนจะเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาด ๆ หรือสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลธรรมดา
. ฉากเปิดเรื่อง – ถึงประเทศไทย
จิม กับ จูลี่ เดินทางถึงกรุงเทพฯ สนุกสนานกับวัฒนธรรมไทย แต่สังเกตความแปลกตา "ศาลพระภูมิ" ริมถนน โดยไม่เข้าใจความศักดิ์สิทธิ์ของมัน
นักท่องเที่ยวอื่นบางคน ก็ทำตัวไม่ค่อยให้เกียรติศาลซักเท่าไร
2. งานปาร์ตี้/เจอเพื่อน
ทั้งคู่ร่วมดื่มกับเพื่อนใหม่ เป็นชาวอังกฤษชื่อ โรเบิร์ต กับ บิลล์ โรเบิร์ตชวนจิมกับจูลี่ไป "ผจญภัย" ในแบบวัยรุ่น
3. ฉากศาลพระภูมิกลางป่า
โรเบิร์ตและบิลล์หลอกให้ทั้งสองเข้าไปเยี่ยมชมศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่า
ดื่มเบียร์/เล่นพิเรนทร์พวกฝรั่งทำกับศาล เช่น เอาตุ๊กตาในศาลออกมาเล่นถ่ายรูป หรือไปหยิบข้าวของในศาล
จูลี่ถูกบังคับให้หยิบ "รูปปั้นผี" ไปถ่ายรูปด้วย แถมยังทำของตกหล่นลงพื้น
โรเบิร์ต & บิลล์จงใจแกล้ง ทิ้งให้จิมกับจูลี่เดินกลับเอง
4. ฉากกลับโรงแรม – ความหลอนเริ่มขึ้น
จูลี่เริ่มเห็นวิญญาณผู้หญิงน่ากลัวลอยมาตามหลอกหลอน เสียงแปลกๆ ทั้งสองเริ่มมีอาการฝันร้าย/โดนผีหลอกในโรงแรม
5. ถามหาความช่วยเหลือ
จิมพยายามพาจูลี่ไปหาหมอแผนโบราณและหมอผีชาวไทย (ตัวละคร: กู่ หรือ "Gogo"– หมอผีไทยที่พูดอังกฤษได้)
กู่เล่าว่าพวกเขาโดน "ผีศาล" ตามล่า เพราะลบหลู่และไปแตะต้องของในศาล
มีฉากทำพิธี – จุดธูป จุดเทียน พยายามไล่ผีให้ ทั้งยังเน้นความเฮี้ยนแบบไทยๆ (เสียงร้อง ข้าวของตก กระจกแตก ฯลฯ)
6. พิธีกรรมคืนของ
หมอผีแนะนำให้จิมต้องนำของที่เอาออกมาจากศาลนั้น กลับไปคืนที่เดิมในป่า
แต่ระหว่างทางก็โดนผีตามหลอกหนักขึ้นเรื่อยๆ มีฉากหลอนในโรงแรม/กลางป่าต่อเนื่อง เช่น เห็นผีในกระจก ผีเดินสวนมาในระยะประชิด ไฟกระพริบ
7. ฉากไคลแม็กซ์ – กลับไปยังศาล
จิม, จูลี่, และกู่ (รวมทั้งโรเบิร์ตที่เริ่มรู้สึกผิด) เดินทางผจญภัย กลับไปค้นหา "ศาลพระภูมิ" กลางป่า โดนผีวิญญาณหญิงไล่ล่า/บาดเจ็บ มีฉากบู๊ตื่นเต้น
สุดท้ายสามารถนำของกลับไปคืน แต่ผีศาลก็ไม่พอใจง่ายๆ ยังมีดราม่าเรื่องศรัทธา/ขอขมาของตัวละคร
8. ฉากจบ – บทสรุป
หลังคืนของ มีการขอขมา ตามความเชื่อท้องถิ่นในแบบไทย
ผีหยุดหลอก หลังตัวละคร "สำนึกผิด" และเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิ่น
หนังจบด้วยแง่คิดเรื่องการเคารพวัฒนธรรมต่างถิ่น ไม่ควรลบหลู่อาถรรพ์ในที่ที่เราไม่รู้จัก
รีวิวจุดเด่นของหนัง
จุดขาย ของหนังคือครึ่งเรื่องหลัง เน้นบรรยากาศความหลอนแบบไทยๆ
ผีศาลในเรื่องใช้เมคอัพเอฟเฟ็กต์โหดๆ หนังเล่นกับ "พื้นที่แคบมืดต้นไม้เยอะ" ในป่า/โรงแรมเก่า
สะท้อนความเชื่อ "ศาลพระภูมิ" ของไทย จากสายตาของฝรั่ง
การแสดงของนักแสดงไทยในหนัง (เช่น ตัวละครกู่) มีความฮา เสริมเรื่องราว
สไตล์หนังเจาะกลุ่มชอบ jump scare/หนังผีต่างชาติ
ทำไมต้องดูหนังเรื่องนี้
หากมองหาหนังฆ่าเวลาสักเรื่อง ดูง่าย ๆ แต่มีอะไรให้ติดตาม ไม่ซ้ำกับหนังตลาดทั่วไป ขอแนะนำให้ลองดูหนังเรื่อง “มันอยู่ในศาล” กันดูสักครั้ง หนังเรื่องนี้มีหลายเหตุผลเลยที่ผมว่า มันน่าสนใจแบบไม่ธรรมดา เอาหล่ะ มาลองไล่ดูทีละข้อว่าทำไมถึงต้องดู
ถ่ายทำในเมืองไทย
สิ่งแรกที่อยากพูดถึงคือ หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในเมืองไทย บรรยากาศหลาย ๆ ฉากในหนัง ทำให้เรารู้สึกอินได้ง่าย เพราะมันใกล้ตัวเหลือเกิน ใครที่รักความเป็นไทย ชอบกลิ่นอายแบบบ้าน ๆ หรือแม้แต่สถานที่อย่างศาลเก่า ๆ ตามต่างจังหวัด มันยิ่งสร้างบรรยากาศขนลุกขนพองได้ดีมาก แบบดูแล้วรู้สึกกลัวเพราะมันดูจริง ไม่เฟค คอสตูมหรือพร็อพทุกอย่างก็จัดเต็มแบบไทย ๆ เลย ดูไปก็ได้ซึมซับงานสร้างของคนไทยไปด้วย
นักแสดงโนเนมแต่กลับน่าสนใจไปอีกแบบ
แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้ดึงเอานักแสดงชื่อดัง ตัวเด็ด ๆ มาร่วมงาน แต่กลับกลายเป็นข้อดี เพราะนักแสดงโนเนมเหล่านี้เล่นกันได้เนียนแบบสุด ๆ ให้ความรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวคือคนจริง ๆ ที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แล้วมันเลยยิ่งดูน่าติดตาม เพราะเราไม่รู้จักเบื้องหลังชีวิตจริงของพวกเขา เลยรู้สึกสัมผัสกับตัวละครได้เต็มที่ เป็นความสดใหม่อีกแบบ ที่หลาย ๆ เรื่องไม่มี
เนื้อเรื่องชวนติดตาม
สำหรับเนื้อเรื่อง ต้องบอกเลยว่า วางพล็อตได้เจ๋งมาก มันไม่ได้เป็นแค่หนังผีธรรมดา ๆ ที่มาแบบเดาง่าย มีปมให้เราอยากรู้ต่อเรื่อย ๆ ยิ่งกับบรรยากาศในศาลที่ดูเงียบ ๆ ลึกลับ ตัวละครแต่ละตัวก็ดูมีอะไรในใจ เหมือนทุกคนซ่อนอะไรไว้ ทำให้เราอยากตามไปดูจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันจะจบยังไง ปริศนาที่เกี่ยวข้องกับ “มัน” ที่อยู่ในศาล มันคืออะไร ใครกันแน่ที่รอด ใครที่เป็นเหยื่อ
ความน่ากลัวของหนัง
ใครที่กลัวผีมาก กลัวฉากตุ้งแช่ เดี๋ยวใจจะวาย ไม่ต้องห่วง หนังเรื่องนี้จัดความสยองมาในระดับที่พอเหมาะพอดี ไม่ได้เน้นตกใจแรง ๆ หรือเอาผีมายืนจ้องหน้ากล้องแบบเกินเหตุ แต่มากับความหลอนแบบค่อยเป็นค่อยไป สร้างบรรยากาศให้คนดูรู้สึกตึง ๆ ไม่ไว้ใจได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่ามีบางฉากที่ขนลุก แต่ก็ไม่ถึงขนาดดูไม่ได้ ให้ความรู้สึกสนุกแต่ยังนอนหลับได้
สรุปเลยก็คือ “มันอยู่ในศาล” เป็นหนังแนวสยองขวัญที่มีความสดใหม่ มีความเป็นไทยสูง และทำให้คนดูต้องลุ้นจนหยุดดูไม่ได้ ใครที่ชอบหนังผี แบบที่ผสมผสานกับความลี้ลับและวัฒนธรรมท้องถิ่น เรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเลยครับ ถ้าได้ดูแล้วรับรองว่าจะมีอะไรให้คิดถึงให้พูดถึงอยู่ไม่น้อยแถมยังเสียวสันหลังไปพร้อม ๆ กันด้วย ใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหนังผีแบบไทย ๆ แนะนำเลยว่าให้เปิด Netflix แล้วหาหนังเรื่องนี้มาดู รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ ๆ
เรท 16+ ความรุนแรง, การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม
นักแสดง: สเกาต์ เทย์เลอร์คอมป์ตัน,
เจมส์ แลนดรี เอเบิร์ต, มาร์ค บูน จูเนียร์,
แนว: ภาพยนตร์สยองขวัญ, ภาพยนตร์
อเมริกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้