420

ฟังจากคลิปนี้ครับ
------
3.22 ในคัมภีร์ธัมมสังคณีย์
410

คัมภีร์ธัมมสังคณีย์ พระไตรปิฎกเล่มที่ 34 หน้า 105
อันนี้ตัดมาให้ดูพอเป็นตัวอย่าง
เป็นพระไตรปิฎกบาลีฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย
เราดูฉบับไหนก็ได้เหมือนกัน
บาลีข้อที่ 365
ก็จะแสดง อกุศลจิตตุปปาท ดวงที่ 1 ก่อน
กะตะเม ธัมมา อะกุสะลา ?
ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศลเป็นไฉน
ยัสสะมิง สะมะเย อะกุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง โหติ โสมะนัสสะสะหะคะตัง ทิฎฐิคะตะสัมปะยุตตัง รูปารัมมะณัง วา สัททารัมมะณัง วา
คันธารัมมะณัง วา ระสารัมมะณัง วา โผฎฐัพพารัมมะณัง วา ธัมมารัมมะณัง วา ,
4.14
ในขณะใดที่จิตที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น เป็นชนิดเกิดพร้อมกับ โสมนัสสเวทนา สัมปยุตกับทิฎฐิ มีรูปเป็นอารมณ์ก็ดี มีเสียงเป็นอารมณ์ก็ดี
มีกลิ่นเป็นอารมณ์ก็ดี มีรสเป็นอารมณ์ก็ดี มีโผฎฐัพพะเป็นอารมณ์ก็ดี หรือมีธรรมเป็นอารมณ์ก็ดี
ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ ,
ก็ หรือว่า จิตดวงนี้ ปรารภซึ่งอารมณ์ใดๆเกิดขึ้นก็ดี
ตัสสะมิง สะมะเย
ในขณะนั้นก็จะมีสภาวะต่างๆเกิดประกอบเข้าไปนะ อย่างนี้ตามนี้นี้ก็คือ แสดงทั้งจิตและเจตสิกประกอบกันเลย แต่ไม่บอกว่ามีจำนวนเท่าไหร่ บอกแต่ชื่อ แถมบอกว่ามีเยวาปะนะกะด้วย ให้ไปหาเอาเองอะไรประมาณนั้น นะ
คนในยุคนั้นเรียกว่า พวกเทวดาฟังคงจะเข้าใจแหละ แต่ว่า พวกเราก็มึนตึ๊บเลย ประมาณนั้น
เพราะต้องอาศัยคัมภีร์รุ่นหลัง อรรถกถาเป็นต้นมาช่วย ครับ
ตอนนั้นมีอะไรบ้างท่านก็แสดงเป็นหมวดธรรมนะ ก็มี
ผัสโส โหติ ,
เวทนา โหติ ,
สัญญา โหติ ,
เจตนา โหติ ,
จิตตัง โหติ ,
อันนี้เป็นหมวดหนึ่งท่านเรียกว่า ผัสสะปัญจะกะ ธรรมะที่มีผัสสะเป็นที่ 5
...
((
ผัสสะ: การสัมผัสหรือการกระทบกันระหว่างอายตนะภายในและอายตนะภายนอก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึก (เวทนา).
ปัญจกะ: กลุ่มหรือหมู่ของห้าสิ่ง.
ผัสสะปัญจกะ (ในบริบทปฏิจจสมุปบาท): อาจหมายถึงกลุ่มของผัสสะห้าประการ (ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย) ที่เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา. ))
...
วิตักโก โหติ ,
วิจาโร โหติ ,
ปีติ โหติ ,
สุขัง โหติ ,
จิตตัสเสกัคคะตา โหติ ,
อันนี้ท่านเรียกว่า ฌานังคะ หรือ องค์ฌาน
ตอนที่ อกุศลจิตดวงที่ 1 เกิดขึ้น โสมมนัสสะสะหะคะตัง ทิฏฐิคะตะสัมปะยุตตัง นี่เกิดขึ้น ก็จะมีองค์ฌานอย่างนี้เกิดขึ้น ก็คือ มีวิตกด้วย
มีวิจารด้วย มีปีติ มีสุข มีจิตตัสเสกัคคะตา
.......
มีอินทรีย์ด้วย
วิริยินทะริยัง
สะมาธินทะริยัง
มนินทะริยัง
โสมมะนัสสินทะริยัง
ชีวิตตินทะริยัง
อันนี้แสดงอินทรีย์
........
6.21
ท่านแสดงเป็นหมวดๆเห็นไหม แสดงเป็นหมวด ผัสสะปัญจะกะ หมวดฌานังคะ หมวดอินทรีย์ ต่อมา
มิจฉาทิฎฐิ โหติ , มิจฉาทิฎฐิก็ย่อมมีขึ้นตอนนั้นแหละ
มิจฉาสังกัปโป
มิจฉาวายาโม
มิจฉาสมาธิ
อันนี้คือ องค์มรรค มัคคังคะ
(มัคคังคะ แปลว่า องค์แห่งมัคค)
ตอนที่ อกุศลจิตดวงที่ เกิดขึ้น
โลภะมูลจิตดวงที่ เนี่ยก็มีองค์ฌานอยู่คือ มีองค์มัคเกิดขึ้น องค์มัคด้วยกัน แต่เป็นมัคพาไปอบายครับ เป็นมิจฉามรรค
....
วิริยะพลัง
สมาธิพลัง
อะหิริกะพลัง
อะโนตตัปปะพลัง
อันนี้ก็คือ มีพละ เกิดขึ้นมา
....
7.05
ก็คือแสดงเป็นหมวดธรรมนั่นเอง
เวลาแสดงเป็นหมวดธรรมอย่างนี้ บางเจตสิกก็จะอยู่หลายหมวดธรรม
ฉนั้นพวกท่านก็ต้องรู้วิธีการหรือโครงในการแสดง ไปหาองค์ธรรมได้
ถ้าไม่รู้ก็จบตั้งแต่ต้นเลยงงตั้งแต่ต้น
ทีนี้นอกจากหาองค์ธรรมเป็นแล้ว
ก็ต้องรู้ เยวาปะนะกะ อีก ก็ยาก
....
โลโภ
โมโห
อันนี้คือหมวดหมู่ แต่ตอนนี้มีมูลเกิด 2
มี อกุศลมูล 2 เกิดขึ้น
....
อะภิชชา
มิจฉาทิฎฐิ
ตัวนี้ก็คือ เป็นกรรมบท
....
อะหิริกัง
อะโนตตัปปัง
ก็เป็นชุดของเขา
....
สะมะโถ โหติ ,
7.56
ปัคคาโห
อะวิกเขโป
คือ สภาวะต่างๆเกิดขึ้น
411

ถ้าเราลองนับดูนี่นะ นับดูชื่อ มันก็จะมีเยอะกว่าสภาวะ เนื่องจากว่า เมื่อแสดงเป็นหมวดธรรม บางสภาวะกระจายไปทั่ว อย่างนี้นะครับ
ถ้าทุกท่านลองนับดูว่าได้กี่ชื่อในที่นี้ ก็เริ่มตั้งแต่
1 ผัสโส
2 เวทนา
3 สัญญา
4 เจตนา
5 จิตตัง
6 วิตักโก
7 วิจาโร
8 ปีติ
9 สุขัง
10 จิตตัสเสกัคคะตา
11 วิริยัง นะ วิริยินทะริยัง
12 สะมาธินทะริยัง
13 มะนินทะริยัง
14 โสมะนัสสินทะริยัง
15 ชีวิตตินทะริยัง
16 มิจฉาทิฎฐิ
17 มิจฉาสังกัปโป
18 มิจฉาวายาโม
19 มิจฉาสมาธิ
20 วิริยะพะลัง
21 สะมาธิพะลัง
22 อะหิริกะพะลัง
23 อะโนตตัปปะพะลัง
24 โลโภ
25 โมโห
26 อะภิชชา
27 มิจฉาทิฎฐิ
28 อะหิริกัง
29 อะโนตตัปปัง
30 สะมะโถ
31 ปัคคาโห
32 อะวิกเขโป
9.27
412

9.27
มีชื่อปรากฎอยู่จำนวน 32 ชื่อ
ใน 32 ชื่อเนี่ยก็จะมี สภาวะ ก็คือ จิต กับ เจตสิก นั่นแหละนะ อย่างนี้
ทีนี้ยังมี เยวาปะนะกะ ด้วย
เยวา ปะนะ ตัสสะมิง สะมะเย อัญเญปิ อัตถิ ปะฎิจจะสะมุปันนา อะรูปิโน ธัมมา ;
อิเม ธัมมา อะกุสะลา .
นี้ทำนองนี้นะครับ
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า 32 ชื่อมีกี่สภาวะอย่างนี้
เราก็ต้องรู้หมวดธรรมต่างๆเป็นอย่างดี จะได้รู้ได้
อย่าให้ผิด ถ้าผิดตรงนี้ ก็ผิดตั้งแต่ต้น เลย
แล้วเยวาปะนะมีอะไรบ้าง
จะได้ไม่ขาดไม่เหลือหรือว่าไม่เกินไปนะ เราก็ต้องไปอ่านอรรถกถาบ้างอะไรบ้างเพื่อจะทำความเข้าใจนะครับ
คัมภีร์อภิธัมมาวตารเนี่ย 10.29
ท่านก็สรุปเรื่องนี้ไว้ทั้งหมดเลยเราก็สบายนะ อันนี้ก็คือ ลักษณะของคัมภีร์ให้ทุกท่านได้ดู
ครับ นี่คืออกุศลจิตดวงที่ 1 นะ เป็นโลภะมูลจิต
โสมมะนัสสะสะหะคะตัง ทิฎฐิคะตะสัมปะยุตตัง อะสังขาริกัง นี่
เอาละต่อไปเราก็ 10.55
อกุศลจิตตุปปาท ดวงที่ 1-คัมภีร์ธัมมสังคณีย์ พระไตรปิฎกเล่มที่ 34 หน้า 105-ฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย
ฟังจากคลิปนี้ครับ
------
3.22 ในคัมภีร์ธัมมสังคณีย์
410
คัมภีร์ธัมมสังคณีย์ พระไตรปิฎกเล่มที่ 34 หน้า 105
อันนี้ตัดมาให้ดูพอเป็นตัวอย่าง
เป็นพระไตรปิฎกบาลีฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย
เราดูฉบับไหนก็ได้เหมือนกัน
บาลีข้อที่ 365
ก็จะแสดง อกุศลจิตตุปปาท ดวงที่ 1 ก่อน
กะตะเม ธัมมา อะกุสะลา ?
ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศลเป็นไฉน
ยัสสะมิง สะมะเย อะกุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง โหติ โสมะนัสสะสะหะคะตัง ทิฎฐิคะตะสัมปะยุตตัง รูปารัมมะณัง วา สัททารัมมะณัง วา
คันธารัมมะณัง วา ระสารัมมะณัง วา โผฎฐัพพารัมมะณัง วา ธัมมารัมมะณัง วา ,
4.14
ในขณะใดที่จิตที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น เป็นชนิดเกิดพร้อมกับ โสมนัสสเวทนา สัมปยุตกับทิฎฐิ มีรูปเป็นอารมณ์ก็ดี มีเสียงเป็นอารมณ์ก็ดี
มีกลิ่นเป็นอารมณ์ก็ดี มีรสเป็นอารมณ์ก็ดี มีโผฎฐัพพะเป็นอารมณ์ก็ดี หรือมีธรรมเป็นอารมณ์ก็ดี
ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ ,
ก็ หรือว่า จิตดวงนี้ ปรารภซึ่งอารมณ์ใดๆเกิดขึ้นก็ดี
ตัสสะมิง สะมะเย
ในขณะนั้นก็จะมีสภาวะต่างๆเกิดประกอบเข้าไปนะ อย่างนี้ตามนี้นี้ก็คือ แสดงทั้งจิตและเจตสิกประกอบกันเลย แต่ไม่บอกว่ามีจำนวนเท่าไหร่ บอกแต่ชื่อ แถมบอกว่ามีเยวาปะนะกะด้วย ให้ไปหาเอาเองอะไรประมาณนั้น นะ
คนในยุคนั้นเรียกว่า พวกเทวดาฟังคงจะเข้าใจแหละ แต่ว่า พวกเราก็มึนตึ๊บเลย ประมาณนั้น
เพราะต้องอาศัยคัมภีร์รุ่นหลัง อรรถกถาเป็นต้นมาช่วย ครับ
ตอนนั้นมีอะไรบ้างท่านก็แสดงเป็นหมวดธรรมนะ ก็มี
ผัสโส โหติ ,
เวทนา โหติ ,
สัญญา โหติ ,
เจตนา โหติ ,
จิตตัง โหติ ,
อันนี้เป็นหมวดหนึ่งท่านเรียกว่า ผัสสะปัญจะกะ ธรรมะที่มีผัสสะเป็นที่ 5
...
((ผัสสะ: การสัมผัสหรือการกระทบกันระหว่างอายตนะภายในและอายตนะภายนอก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึก (เวทนา).
วิจาโร โหติ ,
ปีติ โหติ ,
สุขัง โหติ ,
จิตตัสเสกัคคะตา โหติ ,
อันนี้ท่านเรียกว่า ฌานังคะ หรือ องค์ฌาน
ตอนที่ อกุศลจิตดวงที่ 1 เกิดขึ้น โสมมนัสสะสะหะคะตัง ทิฏฐิคะตะสัมปะยุตตัง นี่เกิดขึ้น ก็จะมีองค์ฌานอย่างนี้เกิดขึ้น ก็คือ มีวิตกด้วย
มีวิจารด้วย มีปีติ มีสุข มีจิตตัสเสกัคคะตา
.......
มีอินทรีย์ด้วย
วิริยินทะริยัง
สะมาธินทะริยัง
มนินทะริยัง
โสมมะนัสสินทะริยัง
ชีวิตตินทะริยัง
อันนี้แสดงอินทรีย์
........
6.21
ท่านแสดงเป็นหมวดๆเห็นไหม แสดงเป็นหมวด ผัสสะปัญจะกะ หมวดฌานังคะ หมวดอินทรีย์ ต่อมา
มิจฉาทิฎฐิ โหติ , มิจฉาทิฎฐิก็ย่อมมีขึ้นตอนนั้นแหละ
มิจฉาสังกัปโป
มิจฉาวายาโม
มิจฉาสมาธิ
อันนี้คือ องค์มรรค มัคคังคะ
(มัคคังคะ แปลว่า องค์แห่งมัคค)
ตอนที่ อกุศลจิตดวงที่ เกิดขึ้น
โลภะมูลจิตดวงที่ เนี่ยก็มีองค์ฌานอยู่คือ มีองค์มัคเกิดขึ้น องค์มัคด้วยกัน แต่เป็นมัคพาไปอบายครับ เป็นมิจฉามรรค
....
วิริยะพลัง
สมาธิพลัง
อะหิริกะพลัง
อะโนตตัปปะพลัง
อันนี้ก็คือ มีพละ เกิดขึ้นมา
....
7.05
ก็คือแสดงเป็นหมวดธรรมนั่นเอง
เวลาแสดงเป็นหมวดธรรมอย่างนี้ บางเจตสิกก็จะอยู่หลายหมวดธรรม
ฉนั้นพวกท่านก็ต้องรู้วิธีการหรือโครงในการแสดง ไปหาองค์ธรรมได้
ถ้าไม่รู้ก็จบตั้งแต่ต้นเลยงงตั้งแต่ต้น
ทีนี้นอกจากหาองค์ธรรมเป็นแล้ว
ก็ต้องรู้ เยวาปะนะกะ อีก ก็ยาก
....
โลโภ
โมโห
อันนี้คือหมวดหมู่ แต่ตอนนี้มีมูลเกิด 2
มี อกุศลมูล 2 เกิดขึ้น
....
อะภิชชา
มิจฉาทิฎฐิ
ตัวนี้ก็คือ เป็นกรรมบท
....
อะหิริกัง
อะโนตตัปปัง
ก็เป็นชุดของเขา
....
สะมะโถ โหติ ,
7.56
ปัคคาโห
อะวิกเขโป
คือ สภาวะต่างๆเกิดขึ้น
411
ถ้าเราลองนับดูนี่นะ นับดูชื่อ มันก็จะมีเยอะกว่าสภาวะ เนื่องจากว่า เมื่อแสดงเป็นหมวดธรรม บางสภาวะกระจายไปทั่ว อย่างนี้นะครับ
ถ้าทุกท่านลองนับดูว่าได้กี่ชื่อในที่นี้ ก็เริ่มตั้งแต่
1 ผัสโส
2 เวทนา
3 สัญญา
4 เจตนา
5 จิตตัง
6 วิตักโก
7 วิจาโร
8 ปีติ
9 สุขัง
10 จิตตัสเสกัคคะตา
11 วิริยัง นะ วิริยินทะริยัง
12 สะมาธินทะริยัง
13 มะนินทะริยัง
14 โสมะนัสสินทะริยัง
15 ชีวิตตินทะริยัง
16 มิจฉาทิฎฐิ
17 มิจฉาสังกัปโป
18 มิจฉาวายาโม
19 มิจฉาสมาธิ
20 วิริยะพะลัง
21 สะมาธิพะลัง
22 อะหิริกะพะลัง
23 อะโนตตัปปะพะลัง
24 โลโภ
25 โมโห
26 อะภิชชา
27 มิจฉาทิฎฐิ
28 อะหิริกัง
29 อะโนตตัปปัง
30 สะมะโถ
31 ปัคคาโห
32 อะวิกเขโป
9.27
412
9.27
มีชื่อปรากฎอยู่จำนวน 32 ชื่อ
ใน 32 ชื่อเนี่ยก็จะมี สภาวะ ก็คือ จิต กับ เจตสิก นั่นแหละนะ อย่างนี้
ทีนี้ยังมี เยวาปะนะกะ ด้วย
เยวา ปะนะ ตัสสะมิง สะมะเย อัญเญปิ อัตถิ ปะฎิจจะสะมุปันนา อะรูปิโน ธัมมา ;
อิเม ธัมมา อะกุสะลา .
นี้ทำนองนี้นะครับ
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า 32 ชื่อมีกี่สภาวะอย่างนี้
เราก็ต้องรู้หมวดธรรมต่างๆเป็นอย่างดี จะได้รู้ได้
อย่าให้ผิด ถ้าผิดตรงนี้ ก็ผิดตั้งแต่ต้น เลย
แล้วเยวาปะนะมีอะไรบ้าง
จะได้ไม่ขาดไม่เหลือหรือว่าไม่เกินไปนะ เราก็ต้องไปอ่านอรรถกถาบ้างอะไรบ้างเพื่อจะทำความเข้าใจนะครับ
คัมภีร์อภิธัมมาวตารเนี่ย 10.29
ท่านก็สรุปเรื่องนี้ไว้ทั้งหมดเลยเราก็สบายนะ อันนี้ก็คือ ลักษณะของคัมภีร์ให้ทุกท่านได้ดู
ครับ นี่คืออกุศลจิตดวงที่ 1 นะ เป็นโลภะมูลจิต
โสมมะนัสสะสะหะคะตัง ทิฎฐิคะตะสัมปะยุตตัง อะสังขาริกัง นี่
เอาละต่อไปเราก็ 10.55