คุรุปัทมสัมภวะ (คุรุรินโปเช)
คุรุปัทมสัมภวะ หรือ
คุรุรินโปเช (สันสกฤต:
ปทฺมสํภว แปลว่า “ผู้เกิดจากดอกบัว”) เป็นมหาคุรุผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาสายวัชรยานในทิเบต ราวคริสต์ศตวรรษที่ 8–9
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ทิเบตยุคต้น ท่านได้เดินทางมายังทิเบตในช่วงรัชกาลพระเจ้าทรีซองเดเซน และมีบทบาทสำคัญในการสร้าง
อารามซัมเย ซึ่งถือเป็นอารามพุทธแห่งแรกของทิเบต อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ภายนอกยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าท่านเป็นบุคคลจริงในทางโลกหรือเป็นบุคคลในตำนานที่แฝงด้วยนัยทางจิตวิญญาณ
คุรุปัทมสัมภวะถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนผ่านทิเบตเข้าสู่พระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง มีการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับท่านอย่างแพร่หลายในเอกสารศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ซึ่งกล่าวถึงท่านว่าเป็น “ผู้ปราบภูตผีและเทพเจ้าทิเบตทั้งปวง” และเป็น “ผู้ซ่อนคัมภีร์ลับ” หรือ
เตร์มา (terma) เพื่อรอให้ผู้มีบุญบารมีในอนาคตค้นพบ
หนึ่งในบันทึกชีวประวัติที่เก่าแก่ที่สุดของท่าน คือ
“ประคำแก้วมณี” (ซังลิงมา, Zangling-ma) ซึ่งประพันธ์โดย
ญังรัล ญีมา เออเซร์ (Nyangral Nyima Özer, 1124–1192) นักปราชญ์ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้วางรากฐานตำนานของคุรุปัทมสัมภวะ” และเป็นผู้ที่เชื่อมโยงคุรุกับคำสอนสาย
ซกเชน (Dzogchen) ซึ่งเป็นแก่นธรรมอันสูงสุดของนิกายญิงมาปะ
ในพระพุทธศาสนาแบบทิเบตยุคหลัง คุรุปัทมสัมภวะได้รับการยกย่องว่าเป็น
“พระพุทธเจ้าองค์ที่สอง” รองจากพระศากยมุนีพุทธเจ้า เนื่องจากท่านถือเป็นผู้ปรากฏขึ้นตามพุทธพยากรณ์ เพื่อฟื้นฟูธรรมในดินแดนหิมาลัย
คุรุปัทมสัมภวะมีศิษย์สำคัญหลายองค์ เช่น
พระนางเยเช โซเกียล (Yeshe Tsogyal) และ
พระนางมัณทารวา (Mandarava) ซึ่งต่างเป็นผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด นิกาย
หญิงมาปะ (Nyingma) ถือว่าคุรุรินโปเชเป็นผู้สถาปนานิกายนี้ และเชื่อว่าสายคำสอน
ซกเชน ได้รับการถ่ายทอดจากท่าน
การับ โดร์เจ มายังคุรุปัทมสัมภวะโดยตรง
โดยชาวทิเบตจะบูชาพระองค์ โดยจะสวดมนตราประจำพระองค์คือ
"โอม อา ฮุง เบนซา กูรู เปมา สิทธิ ฮุง"

(ภาพพระคุรุรินโปเช จากวัดตกเต็น เมืองงาวา แคว้นอัมโด ของทิเบต)
พระคุรุรินโปเช (คุรุปัทมสัมภวะ)
คุรุปัทมสัมภวะ หรือ คุรุรินโปเช (สันสกฤต: ปทฺมสํภว แปลว่า “ผู้เกิดจากดอกบัว”) เป็นมหาคุรุผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาสายวัชรยานในทิเบต ราวคริสต์ศตวรรษที่ 8–9
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ทิเบตยุคต้น ท่านได้เดินทางมายังทิเบตในช่วงรัชกาลพระเจ้าทรีซองเดเซน และมีบทบาทสำคัญในการสร้าง อารามซัมเย ซึ่งถือเป็นอารามพุทธแห่งแรกของทิเบต อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ภายนอกยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าท่านเป็นบุคคลจริงในทางโลกหรือเป็นบุคคลในตำนานที่แฝงด้วยนัยทางจิตวิญญาณ
คุรุปัทมสัมภวะถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนผ่านทิเบตเข้าสู่พระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง มีการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับท่านอย่างแพร่หลายในเอกสารศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ซึ่งกล่าวถึงท่านว่าเป็น “ผู้ปราบภูตผีและเทพเจ้าทิเบตทั้งปวง” และเป็น “ผู้ซ่อนคัมภีร์ลับ” หรือ เตร์มา (terma) เพื่อรอให้ผู้มีบุญบารมีในอนาคตค้นพบ
หนึ่งในบันทึกชีวประวัติที่เก่าแก่ที่สุดของท่าน คือ “ประคำแก้วมณี” (ซังลิงมา, Zangling-ma) ซึ่งประพันธ์โดย ญังรัล ญีมา เออเซร์ (Nyangral Nyima Özer, 1124–1192) นักปราชญ์ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้วางรากฐานตำนานของคุรุปัทมสัมภวะ” และเป็นผู้ที่เชื่อมโยงคุรุกับคำสอนสาย ซกเชน (Dzogchen) ซึ่งเป็นแก่นธรรมอันสูงสุดของนิกายญิงมาปะ
ในพระพุทธศาสนาแบบทิเบตยุคหลัง คุรุปัทมสัมภวะได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระพุทธเจ้าองค์ที่สอง” รองจากพระศากยมุนีพุทธเจ้า เนื่องจากท่านถือเป็นผู้ปรากฏขึ้นตามพุทธพยากรณ์ เพื่อฟื้นฟูธรรมในดินแดนหิมาลัย
คุรุปัทมสัมภวะมีศิษย์สำคัญหลายองค์ เช่น พระนางเยเช โซเกียล (Yeshe Tsogyal) และ พระนางมัณทารวา (Mandarava) ซึ่งต่างเป็นผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด นิกาย หญิงมาปะ (Nyingma) ถือว่าคุรุรินโปเชเป็นผู้สถาปนานิกายนี้ และเชื่อว่าสายคำสอน ซกเชน ได้รับการถ่ายทอดจากท่าน การับ โดร์เจ มายังคุรุปัทมสัมภวะโดยตรง
โดยชาวทิเบตจะบูชาพระองค์ โดยจะสวดมนตราประจำพระองค์คือ
"โอม อา ฮุง เบนซา กูรู เปมา สิทธิ ฮุง"
(ภาพพระคุรุรินโปเช จากวัดตกเต็น เมืองงาวา แคว้นอัมโด ของทิเบต)