"ซังเท็ง หรือ ซังเพ็งบ๊ะจ่าง" บ๊ะจ่างไส้เค็มหวาน
เผือกหวานรสกลมกล่อมถูกห่อด้วยมันแพรหมู แทรกเข้าไปในตัวข้าวเหนียว ตามด้วยส่วนผสมอื่นๆทีละชั้น ทีละชั้น ไม่ว่าจะเป็นหมู เห็ด ไข่แดง กุ้งแห้ง ถั่วลิสง และแปะก้วย ห่อปิดด้วยใบไผ่แสนหอม ออกมาเป็น "บ้ะจ่าง" แสนอร่อย[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t0/1/16/1f60b.png[/img]
การทำไส้เผือกหวานแบบปกติ (วิธีโบราณ) นับว่ายากและเหนื่อยล้ามากแล้วนะคะ เพราะไหนจะต้องนึ่ง ต้องตำ มาม้าบุญธรรมของแม่นันนี่ล่ะค่ะ จะค่อยๆใช้สากตำเผือกจนเป็นเนื้อเดียวกัน แม่นันเคยไปช่วยแขนยังล้าเลย แถมยังต้องคอยแยกเอาไตเผือกที่แข็งๆออก เพราะเวลาเคี้ยวไปโดนแล้วจะเสียอรรถรส
แต่การทำไส้เผือกในช่วงเทศกาลบ้ะจ่างถือว่ายากกว่าเพราะนอกจากกรรมวิธีขั้นต้นที่กล่าวไปแล้ว ตัวเผือกจะต้องห่อด้วย "หล่าแพแซ" หรือ การห่อเผือกด้วยมันแพรหมู (ไขมันที่เป็นแพคล้ายตาข่าย) ไขมันส่วนนี้มีหน้าที่ห่อหุ้มอวัยวะภายในบางส่วนของหมูและของสัตว์อื่นๆ น่าจะเป็นส่วนที่ห่อหุ้มกระเพาะ ตับ ไต
ที่แม่นันเคยบอกไงคะ ว่าบรรพบุรุษเรา ยอมเหนื่อยลงมือทำเองมากกว่าที่จะซื้อใครเค้า ที่สำคัญคือเรื่องความสะอาด และรสชาติ "ซื้อเค้ามันจะเหมือนเราทำเองได้ไง" แม่นันมักได้ยินมาม้าพูดประโยคนี้บ่อยๆ
ปีที่แล้วทำหนึ่งพันสองร้อยใบ ต้องนึ่งเผือกเป็นสิบๆโล ลูกหลานจะถูกเกณฑ์มาช่วยกันตำ ช่วยกันห่อ แม่นันลงมือใช้มันแพรหมูช่วยห่อเผือกกับเค้าด้วย พ่อค้าหมูเจ้าประจำของแม่นันเล่าว่า ปกติแล้วไขมันส่วนนี้ไม่มีราคาค่างวดอะไร เพราะไม่ค่อยมีคนอยากได้ โรงฆ่าหมูจึงเลาะๆแล้วทิ้งมากกว่า ถามว่านำมาทำมันเจียวได้มั้ย "ได้ครับ" แต่มันเหม็นคาวไว ถ้าขาดความเย็นแป๊บเดียวกลิ่นก็ออกแล้วครับ"
แต่ในช่วงเทศกาลห่อ "บ้ะจ่าง" กลับมีราคาค่ะ มาม้าบอกว่าสั่งมาจากนครปฐม กิโลละ 60 บ. ปีนี้น่าจะขึ้นอีก มาม้าซื้อมาเต็มตู้เย็นเลย เวลาจะห่อทีต้องค่อยๆนำออกมาบางส่วนและต้องคอยแช่น้ำแข็งเพื่อคงความเย็นเอาไว้
"กว่าจะได้มาห่อนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ต้องนำมาล้างแล้วล้างอีกให้หมดกลิ่นคาว มือหนักก็ไม่ได้ ต้องล้างมือเบาๆ เพราะเดี๋ยวเยื่อบางๆจะขาดไม่ต้องห่อกันพอดี ถามอาโมสิ อีล้างจนหมดแรง" มาม้าพยักเพยิดไปที่น้องโม (แม่บ้าน) หัวเรี่ยวหัวแรงเรื่องการเตรียมวัตถุดิบในแต่ละเทศกาล
ตั้งคำถามกันในใจแล้วใช่มั้ยคะ "แล้วทำไมต้องเอามันส่วนนี้มาห่อเผือก" "ไม่ห่อไม่ได้เหรอ" "ห่อทำไม"
ไม่ห่อก็ได้ค่ะ แต่พอนึ่งไป ตัวเผือกจะเข้าไปติดตามเนื้อข้าวเหนียว ทำให้เสียอรรถรสในการทาน การห่อด้วยมันแพรจะช่วยแยกระหว่างเนื้อข้าวเหนียวและตัวเผือก แต่เมื่อโดนความร้อนขณะนึ่ง ไขมันแพรนี้ก็จะละลายไป เราจึงไม่รู้สึกว่ากินถูกไขมันตัวนี้ แปลกมั้ยคะ
มันแพรถูกขยุ้มเป็นก้อนขาวๆแช่น้ำแข็งไว้ ส่วนขาวๆคือไขมัน เมื่อคลี่ออกมาจะเห็นส่วนที่บางใสระหว่างร่างแหที่แตกแขนงต่อๆกัน ทำให้ห่อหุ้มอวัยวะภายในของสัตว์ได้เป็นอย่างดี คนเราจึงนำไขมันส่วนนี้มาห่ออาหารบางเมนู สังเกตดีๆจะเห็นบางแขนงไขมันจะหนามาก เราต้องใช้กรรไกรตัดแบ่งไขมันส่วนนี้ให้บางลงก่อนนำมาห่อ ห่อไม่ดี หรือตาไม่ดี เนื้อเผือกก็มีสิทธิ์เล็ดลอดออกมา บางลูกต้องห่อถึงสองสามรอบ ได้ทั้งสติ ได้ทั้งสมาธิเลยค่ะ
บ๊ะจ่างซังเท็งสักลูกมั้ยคะ?
กว่าจะได้เผือกหวานแบบโบราณมาอยู่ในบ๊ะจ่างที่คนจีนแต้จิ๋วเรียก บ๊ะจ่าง "ซังเท็ง"