ยังอยู่ในช่วงการเสียภาษีปี 2568 ในวันนี้คุณน้าจะอาสาพาทุกคนมารู้จักกับภาษีที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าที่ควร อย่างภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หากันค่ะ ทุ
กคนเคยสังเกตกันไหมคะว่า ภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หา คืออะไร? มีสินทรัพย์ใดเข้าเกณฑ์เสียภาษี และที่สำคัญใครต้องเสียภาษีบ้าง?
ภาษีมรดก คืออะไร?
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากผู้รับมรดก เมื่อเจ้าของมรดกถึงแก่ความตาย ซึ่งค่ามรดกสุทธิรวมกันเกิน 100 ล้านบาท โดยผู้รับมรดกจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีการรับมรดก ภ.ม. 60 และต้องชำระภาษีภายใน 150 วัน นับจากวันที่ได้รับมรดกนั่นเอง
ใครต้องเสียภาษีมรดก และต้องเสียเท่าใดบ้าง?
ผู้รับมรดกเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีมรดกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามตารางด้านล่าง ดังนี้ค่ะ
สูตรการคำนวณมูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี 5% และ 10% คิดยังไง?
"ภาษีมรดกที่ต้องจ่าย = (มูลค่ามรดกสุทธิ – 100 ล้านบาท) x 5% หรือ 10%"
💡 รู้หรือไม่ ภาษีมรดกสามารถผ่อนชำระได้!
เนื่องจากการเสียภาษีมรดกเป็นเงินจำนวนค่อนข้างสูง ซึ่งผู้เสียภาษีมรดกสามารถผ่อนชำระได้นะคะ โดยสามารถยื่นคำร้องขอผ่อนชำระ ดังนี้ค่ะ
1. ขอผ่อนชำระภายใน 2 ปี จะได้รับการยกเว้นในการเสียเงินเพิ่มเติม
2. ขอผ่อนชำระภายใน 2 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี จะต้องเสียเงินเพิ่ม 0.5% ต่อเดือน
ภาษีการให้โดยเสน่หา คืออะไร?
ภาษีการให้โดยเสน่หา (Gift Tax) คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ได้รับทรัพย์สินซึ่งให้โดยเสน่หา ในขณะที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ โดยผู้ให้หรือผู้รับจะต้องเสียภาษีในอัตราคงที่ 5% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับส่วนเกิน โดยมีเกณฑ์ ดังนี้
1. หากมูลค่าสินทรัพย์ส่วนเกิน 10 ล้านบาท ในกรณีผู้รับเงินเป็นบุคคลอื่น
2. หากมูลค่าสินทรัพย์ส่วนเกิน 20 ล้านบาท ในกรณีผู้รับเงินเป็นผู้สืบสันดาน, พ่อแม่ และคู่สมรส
>>> โดยภาษีการให้โดยเสน่หาจัดเป็นภาษีเงินได้อื่น ๆ (เงินได้ประเภทที่ 8) ซึ่งผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 ได้ด้วยตนเองที่กรมสรรพากรได้เลยค่ะ
ใครบ้างต้องเสียภาษีการให้โดยเสน่หา?
หากทรัพย์สินที่ได้รับเป็นประเภทสังหาริมทรัพย์ที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ เช่น รถยนต์, เงินสด หรือหุ้น เป็นต้น
ผู้ที่จะต้องเสียภาษี คือ ผู้ที่ได้รับเงิน ได้แก่ ผู้สืบสันดาน, พ่อแม่, คู่สมรส หรือบุคคลอื่น
ในขณะที่หากทรัพย์สินเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ที่จะต้องเสียภาษี คือ
ผู้โอนกรรมสิทธิ์นั่นเองค่ะ โดยอัตราการเสียภาษีมีรายละเอียด ตามตารางด้านล่าง ดังนี้
การคำนวณภาษีการให้โดยเสน่หา คิดยังไง?
"ภาษีการให้โดยเสน่หา = (ภาษีส่วนเกิน – 10 ล้านบาท หรือ 20 ล้านบาท) x อัตราภาษีคงที่ 5%"
สรุปภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หา
นอกจากรายละเอียดที่กล่าวไปข้างต้น คุณน้าได้สรุปสินทรัพย์ที่เข้าข่ายเกณฑ์เสียภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หา รวมถึงภาษีที่ได้รับการยกเว้นด้วยเช่นกันค่ะ สามารถอ่านได้ในรูปภาพด้านล่างนี้เลย
เรียกได้ว่า ภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หาเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามค่ะ โดยเฉพาะกับใครที่ได้รับมรดกหรือทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ควรศึกษารายละเอียดของภาษีทั้ง 2 ประเภทนี้ให้ดี เพื่อให้คุณสามารถวางแผนและจัดการภาษีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญลูกหลานจะได้อุ่นใจกันทั้งครอบครัวอีกด้วยค่ะ
รู้ไว้ ภาษีมรดกและภาษีการให้โดยเสน่หา ใครต้องจ่ายบ้าง?
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะผู้รับมรดกเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีมรดกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามตารางด้านล่าง ดังนี้ค่ะ
เนื่องจากการเสียภาษีมรดกเป็นเงินจำนวนค่อนข้างสูง ซึ่งผู้เสียภาษีมรดกสามารถผ่อนชำระได้นะคะ โดยสามารถยื่นคำร้องขอผ่อนชำระ ดังนี้ค่ะ
1. ขอผ่อนชำระภายใน 2 ปี จะได้รับการยกเว้นในการเสียเงินเพิ่มเติม
2. ขอผ่อนชำระภายใน 2 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี จะต้องเสียเงินเพิ่ม 0.5% ต่อเดือน
ภาษีการให้โดยเสน่หา คืออะไร?
ภาษีการให้โดยเสน่หา (Gift Tax) คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ได้รับทรัพย์สินซึ่งให้โดยเสน่หา ในขณะที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ โดยผู้ให้หรือผู้รับจะต้องเสียภาษีในอัตราคงที่ 5% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับส่วนเกิน โดยมีเกณฑ์ ดังนี้
1. หากมูลค่าสินทรัพย์ส่วนเกิน 10 ล้านบาท ในกรณีผู้รับเงินเป็นบุคคลอื่น
2. หากมูลค่าสินทรัพย์ส่วนเกิน 20 ล้านบาท ในกรณีผู้รับเงินเป็นผู้สืบสันดาน, พ่อแม่ และคู่สมรส
>>> โดยภาษีการให้โดยเสน่หาจัดเป็นภาษีเงินได้อื่น ๆ (เงินได้ประเภทที่ 8) ซึ่งผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 ได้ด้วยตนเองที่กรมสรรพากรได้เลยค่ะ
ใครบ้างต้องเสียภาษีการให้โดยเสน่หา?
หากทรัพย์สินที่ได้รับเป็นประเภทสังหาริมทรัพย์ที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ เช่น รถยนต์, เงินสด หรือหุ้น เป็นต้น ผู้ที่จะต้องเสียภาษี คือ ผู้ที่ได้รับเงิน ได้แก่ ผู้สืบสันดาน, พ่อแม่, คู่สมรส หรือบุคคลอื่น
ในขณะที่หากทรัพย์สินเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ที่จะต้องเสียภาษี คือ ผู้โอนกรรมสิทธิ์นั่นเองค่ะ โดยอัตราการเสียภาษีมีรายละเอียด ตามตารางด้านล่าง ดังนี้